โคราชเชียร์รถไฟฟ้ารางเบา พัฒนาขนส่งสาธารณะ-เทศบาลชี้บีอาร์ทีเหมาะสมกว่า

01 ก.ค. 2560 | 03:00 น.
ภาคเอกชนและภาคประชาชนเมืองย่าโมขานรับรถไฟฟ้ารางเบา (แอลอาร์ที) แนะให้เริ่มต้นในเส้นทางที่มีปัญหาการติดขัดจราจรก่อน ด้านนายกเล็กโคราชชี้บีอาร์ที น่าตอบโจทย์ดีกว่า อยากให้นำรถมาทดลองเส้นทางก่อน เพื่อดูปัญหาก่อนสร้างจริง

mp24-3274-1 รายงานข่าวจากคณะกรรมการกำกับการศึกษาโครงการ ศึกษาแผนแม่บทจราจรและแผนแม่บทพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเขตเมืองนครราชสีมาเปิดเผยว่า คณะกรรมการ มีมติ เห็นชอบเกี่ยวกับผลการศึกษาที่เลือกใช้ระบบรถไฟฟ้ารางเบา(แอลอาร์ที) หรือรถรางซึ่งมีความเหมาะสมมากที่สุดเนื่องจากมีความคุ้มค่าในการลงทุนมากกว่ารถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ([บีอาร์ที) ซึ่งมี 3เส้นทาง คือสายสีเขียวโคกกรวด-จอหอ สายสีส้มดูโฮม-วิ่งวนในเมืองชั้นในและสายสีม่วงเซฟวัน-จอหอ คาดว่าจะใช้งบประมาณ การก่อสร้าง1.5หมื่นล้านบาทน ทั้งนี้ทางโครงการฯ จะมีการจัดประชุมสัมมนาครั้งสุดท้ายเพื่อรับฟังความคิดเห็นประชาชน จ.นครราชสีมา ในช่วงปลายเดือน กรกฏาคม นี้ จากนั้นจะสรุปผลการศึกษาโครงการฉบับสมบูรณ์ให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) เดือนสิงหาคม เพื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคมเดือน กันยายน-ตุลาคมต่อไป

นายไพจิตร มานะศิลป์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ฝ่ายส่งเสริมการท่องเที่ยว กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า หอการค้าเห็นด้วยและพร้อมสนับสนุนให้เกิดระบบการขนส่งมวลชนที่ทันสมัยในจังหวัดนครราชสีมาโดยเร่งด่วน เพื่อรองรับการเติบโตของเมือง ทั้งเมกะโปรเจคท์ที่จะเข้ามาในจังหวัดนครราชสีมาที่จะเชื่อมโยงภูมิภาคต่าง ๆ เช่น รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ และ รถไฟความเร็วสูงที่รัฐบาลเร่งรัดโดยใช้ ม.44 ฉะนั้นระบบการขนส่งมวลชนในเขตเมืองนครราชสีมาได้เร่งให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด และหากล่าช้า หรือโต้แย้งก็จะทำให้จังหวัดนครราชสีมาเสียโอกาส เหมือนเช่น อุโมงค์ทางลอดที่เราเคยได้งบประมาณมากแต่มีการคัดค้านงบก็ตกไปยังจังหวัดอื่นที่เขามีความพร้อมเหมือนครราชสีมาอยู่แล้ว

mp24-3274-2 " โดยส่วนตัวเห็นว่าสายสีเขียวควรถูกหยิบขึ้นมาทำก่อน คือ เส้นทางโคกกรวด-จอหอ ถ.มิตรภาพ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่จะแก้ไขปัญหารถติดได้ดีที่สุดในเวลานี้ เพราะเส้นทางดังกล่าวผ่านสถานศึกษามากกว่า 4 แห่ง มหาวิทยาลัย 2 แห่ง รวมถึงห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ล้วนเป็นปัญหาใหญ่ด้านการจราจรทั้งสิ้น หากดำเนินการได้ก่อนก็จะช่วยคลี่คลายปัญหาด้านการจราจรลงไปได้ และรถไฟฟ้ารางเบาที่นำมาวิ่งเป็นรถสมัยใหม่ไม่ต้องใช้สายไฟฟ้าโยงอยู่ด้านบนแต่อย่างใด"

ด้านนายจักริน เชิดฉาย ในฐานะผู้แทนภาคประชาชนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ภาคประชาชนจังหวัดนครราชสีมาผลักดันและขับเคลื่อนเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัยที่ตัวเองเป็นประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาก็ได้หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดคุยและขับเคลื่อนตลอด เพราะเราเห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะให้มีระบบขนส่งมวลชนเกิดขึ้นในจังหวัดนครราชสีมา โดยเฉพาะรถไฟฟ้ารางเบา ซึ่งการออกแบบที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีได้นำเสนอมานั้น เป็นรถไฟฟ้ารางเบารูปแบบใหม่ที่ไม่ต้องมีสายไฟฟ้าโยงอยู่ด้านบน ทำให้เสียทัศนยภาพของเมือง และรางก็สามารถใช้กับเส้นทางรถยนต์ได้เลย ไม่ต้องสร้างลอยฟ้าซึ่งเป็นรูปแบบที่ล้าสมัยและยังทำให้เสียทัศนียภาพของเมืองอีกด้วย ในประเทศเขามีใช้กันมานานหลายสิบปีแล้ว ซึ่งสามารถตอบโจทย์คนเมืองได้เป็นอย่างดี

mp24-3274-a "อย่างไรก็ตาม มีบางส่วนที่เป็นห่วงเรื่องเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 1.5 หมื่นล้านบาทนั้น ตนอยากให้โฟกัสไปที่เรื่องการพัฒนาเมืองจะดีกว่า อย่ามองเรื่องการขาดทุนหรือกำไร เพราะประชาชนได้ประโยชน์หลายอย่าง บ้านเมืองมีการพัฒนา และเราใช้รถไฟฟ้ารางเบาที่ทันสมัยก็ต้องใช้เม็ดเงินค่อนข้างสูง แต่เชื่อว่าคุ้มค่ากับการลงทุนแน่นอน "

ด้านนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรี เทศบาลนครนครราชสีมา ให้ความเห็นว่า ก่อนหน้านี้เทศบาลฯ ได้จ้างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีศึกษารูปแบบการขนส่งมวลชนไว้นานแล้ว โดยจากการศึกษาเห็นว่า ระบบการขนส่ง ด้วยรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ หรือบีอาร์ที มีความเหมาะสมมากที่สุด และเส้นทางที่ออกแบบไว้ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี รวมถึงไม่ต้องกังวลเรื่องสถานที่จอดรถ เพราะเป็นสถานีลอยฟ้า ไม่กระทบกับรถยนต์ที่ใช้สัญจรไปมา

"อย่างก็ตามมา เทศบาลฯ ก็ไม่ได้คัดค้านหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ สนข.ทำ แต่อยากให้เมื่อมีการสรุปเส้นทางทั้ง 3 ระยะ และรูปแบบของรถไฟฟ้ารางเบาแล้ว ก็อยากให้มาทดสอบเส้นทางตามที่ระบุในการศึกษาก่อนที่จะลงมือทำ เพื่อจะได้ทราบปัญหาต่างๆ เมื่อมีการก่อสร้างและเปิดใช้งานจริง โดยนำรถชนิดใดมาวิ่งดูก่อนใน 3 เส้นทางดังกล่าว แล้วค่อยมาคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามีมากน้อยเพียงใด"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,274
วันที่ 29 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560