เพิ่มโอกาสกลุ่มNon-Credit TMBดึงที-สกอร์ สกรีนเอสเอ็มอี

ธนาคารทหารไทยประเดิมนำระบบ T-Score คัดกรองลูกค้าเอสเอ็มอีกลุ่มนอนเครดิตได้รับโอกาสเข้าถึงสินเชื่อง่ายขึ้น ภายใต้เงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าปกติ

นายไตรรงค์ บุตรากาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าเอสเอ็มอี ธนาคารทหารไทย(ทีเอ็มบี) ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสถานการณ์ลูกค้าเอสเอ็มอีในช่วง 5 เดือนแรกของนี้ ยังทรงตัว แต่คาดว่าจะค่อยดีขึ้น และเห็นผลชัดเจนในไตรมาส 4 ของปีนี้

“ครึ่งปีแรกภาพรวมตลาดยังติดลบโดยทุกธนาคารยังไม่เห็นการเติบโต ซึ่งส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวนานและการเมืองในประเทศในช่วง 5 ปี เอสเอ็มอีได้รับผลกระทบ โดยเข้าสู่ปีที่ 3 ปีนี้ก็ยังไม่กระเตื้อง แม้เข้าไตรมาส 2 ของปีแล้วบรรยากาศยังซึมๆแต่เริ่มทรงตัวหรือนิ่ง โดยทั้งปีนี้คาดว่าการชะลอตัวคงไม่ลงแรง และไม่ถึงกับทรุดมาก”

[caption id="attachment_168964" align="aligncenter" width="395"] ไตรรงค์ บุตรากาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าเอสเอ็มอี ธนาคารทหารไทย(ทีเอ็มบี)[/caption]

นอกจากนี้เป็นธรรมชาติของเศรษฐกิจที่ขาลงนานๆ จะมีธุรกิจที่ล้มหายไปบ้าง โดยเฉพาะรายเล็กๆ แต่ไม่ใช่ทุกราย แต่ครึ่งหลังของปีนี้น่าจะดีขึ้น โดยคาดว่าไตรมาส 4 จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจที่ขยายตัว โดยรวมทั้งปีสินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งระบบน่าจะเติบโตได้ไม่เกิน 3%

ส่วนตัวเลขไตรมาสแรกของทีเอ็มบีนั้น สินเชื่อเอสเอ็มอีลดลงประมาณ 1% สอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ลูกค้าไม่มีความต้องการใช้วงเงินเพิ่ม รวมถึงการเบิกใช้วงเงินลดลง แต่เห็นการปล่อยสินเชื่อใหม่เริ่มดีขึ้นจากต้นปีที่ชะลอตัว

ทีเอ็มบีตั้งเป้าเติบโตของสินเชื่อเอสเอ็มอีที่อัตรา 10-15% จากปัจจุบันมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าขนาดเล็ก ที่มียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาท มีอยู่ประมาณ 9 หมื่นล้านบาท และกลุ่มขนาดกลาง) ที่มียอดขายตั้งแต่ 100-1,000 ล้านบาท มีพอร์ตคงค้างอยู่ที่ 1.10 แสนล้านบาทโดยปีนี้ลูกค้าเอสเอ็มอีรายเล็กตั้งเป้าเติบโต 20-25%

ด้านกลยุทธ์ธนาคารจะเน้นโฟกัสลูกค้าเก่าทั้งกลุ่มที่มีเครดิต และไม่มีเครดิต(Non-Credit) โดยกลุ่มไม่มีเครดิต จะมีทั้งลูกค้ารายเล็กรายใหญ่ที่มีการเคลื่อนไหวทางบัญชี รายรับ-รายจ่าย แต่ไม่ใช้วงเงินสินเชื่อ หรือ Non Transaction มีอยู่กว่า 1 แสนราย โดยจะคัดมาจำนวน 3 หมื่นราย เพื่อนำมาใส่เครื่องมือช่วยคัดกรองลูกค้าหรือโปรแกรม T-Score (Transaction Score) เป็นเครื่องมือของไอเอ็นจีที่ใช้ทดลองในต่างประเทศมาแล้ว และนำมาทดลองใช้กับลูกค้าของทีเอ็มบีซึ่งเป็นรายเล็กที่อยู่ในกลุ่มนี้

ทั้งนี้ลูกค้าเอสเอ็มอีรายเล็กกลุ่มนี้จะมียอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาท ส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจนำเข้าในประเทศ แต่ส่งออกไม่มาก ซึ่งได้ทดลองระบบเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จำนวน 2,500 ราย ล็อตแรกเริ่มเห็นผลอนุมัติ 80-90% เฉลี่ยอยู่ที่ 60-65% โดยจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในเดือนมิถุนายน-กันยายนเป็นต้นไป

เครื่องมือ T-Score จะจัดคะแนนแบ่งลูกค้าออกเป็น 9 กลุ่ม และกลุ่มที่ค่อนข้างดีจะอยู่ในระดับ 6-9 ซึ่งกลุ่มที่ดีที่สุดธนาคารสามารถเสนอสินเชื่อเป็นแพ็กเกจ ซึ่งต้องดูความต้องการของลูกค้า และปรับแพ็กเกจให้เหมาะสมเช่น เงินทุนระยะยาว หรือโปรดักต์ทางการเงิน-ประกัน-วงเงินเบิกเกินบัญชี (O/D) หรือวงเงินหมุนเวียน ซื้อเครื่องจักร เป็นต้น

“ถ้าทำได้ทั้งหมดเราจะมีฐานลูกค้าคัดประวัติมาอย่างดีและเดินรายการดีต่อไปกลุ่มนี้แบงก์สามารถออฟเฟอร์อะไรได้เยอะและจะเป็นกลุ่มสร้างรายได้ให้แบงก์เช่นกัน ซึ่งอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้าที่ผ่าน T-Score อาจจะไม่ถึง MRR แต่อัตราดอกเบี้ยจะสามารถปรับลดได้ไม่เกิน 2% ขึ้นอยู่กับการตัดสินของพื้นที่ ถ้ารู้จักคุณภาพลูกค้าดี แต่ในแบงก์ยังมีกลุ่มที่ไม่ผ่าน T-Score อีก”

ส่วนความคืบหน้าบริการ TMB SME Transaction Banking ซึ่งเป็นบัญชีรับจ่าย-ซื้อขายสำหรับเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้จะมีแพ็กเกจ One Bank ที่เน้นเรื่องของช่องทาง E-Channel โอนเงินข้ามเขต-ข้ามธนาคารฟรีไม่จำกัด ตอนนี้ยกระดับใหม่โดยไม่กำหนดเงินฝากขั้นตํ่าและสามารถโอนข้ามเขตข้ามธนาคาร

สำหรับบัญชี TMB SME Business Touch ที่มุ่งตอบโจทย์ด้านธุรกรรมทางการเงินให้กับลูกค้าธุรกิจผลตอบรับค่อนข้างดี เพราะลูกค้าไม่ต้องมีเงินฝากขั้นตํ่า สามารถโอนเงินข้ามเขต-ข้ามธนาคารฟรี หรือโอนบัญชีเป็นกลุ่ม ได้ที่สำคัญถ้าเป็นโอดีสามารถสั่งจ่ายโดยไม่ต้องออกเช็ค ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ปัจจุบันมีฐานลูกค้าเข้ามาแล้ว 6,000 รายเฉลี่ยมีลูกค้า 2,000 รายต่อเดือน โดยมียอดทำธุรกรรมสมํ่าเสมอ (Active) ประมาณ 50% หรือประมาณ 3,000 ราย ซึ่งช่วงที่เหลืออีก 6-7 เดือนคาดว่าจะมีลูกค้าบัญชี TMB SME Business Touch ใกล้เคียง 2 หมื่นราย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,273 วันที่ 25 - 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560