กทม.พร้อมรับมือไฟไหม้ตึกสูง 30 ชั้น

จากกรณีเพลิงไหม้อาคารสูงในกรุงลอนดอนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จากเหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตัวในด้านความปลอดภัย ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยมีรถดับเพลิงที่ดับไฟได้สูงถึง 90 เมตร โดยเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีรถดับเพลิงชนิดนี้ ติดตามจากรายงาน

ภาพของเปลวไฟที่โหมไหม้เกรนเฟลล์ ทาวเวอร์ ตึกสูงทางตะวันตกของกรุงลอนดอนสร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้พบเห็น อัคคีภัยที่เกิดขึ้นให้บทเรียนด้านความปลอดภัย ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องไกลตัว

โดยประเทศไทยได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ในอาคารสูงหลาย ต่อหลายครั้ง อย่างเช่น เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อปี 2558 ได้เกิดเพลิงไหม้ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ โดยเพลิงโหมไหม้อยู่ที่ บริเวณชั้น 10 และจากเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย และในเหตุการณ์นี้จะเห็นได้ว่า มีรถดับเพลิงที่มีความสูง มากกว่า 10 เมตร ปฎิบัติการควบคุมเพลิงในอาคารที่สูง และทำให้เพลิงสงบได้ทันท่วงทีก่อนที่จะลามกินพื้นที่ในบริเวณกว้าง

ด้าน พ.ต.อ. เทวานุวัฒน์ อนิรุทธเทวา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันเเละบรรเทาสาธารณภัย ได้กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร มีอาคารสูงจำนวนกว่า หมื่นอาคาร โดยก้าวกระโดดจาก 10 ปีที่ผ่านมา ถึงหนึ่งเท่าตัว เหตุจากการขยายตัวของเมืองและระบบสาธรณูปโภค และระบบควบคุมเพลิงในอาคารนั้นมีกฎหมายที่มีมาตรการที่เข้มงวด

สำหรับรถดับเพลิงของสำนักป้องกันและบรรเทาสารธารณภัยคันนี้มีความสามารถดับไฟในอาคารสูงได้ถึง 90 เมตร หรือเท่ากับ ตึก 30 ชั้น โดยประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่นำรถดับเพลิงควบคุมความสูงได้ 90 เมตรเป็นประเทศแรกในอาเซียน และความสามารถพิเศษนั้นสามารถช่วยเหลือผู้ติดอยู่ในอาคารสูงได้ในระยะ 50 เมตร โดยอพยพลงทางชุดถุงหนีภัย ได้ทันท่วงที และสำหรับมาตฐานความรวดเร็วในการเข้าถึงจุดเกิดเหตุนั้น กำหนดให้เข้าถึงพื้นที่ ไม่เกิน 8 นาที

ในอนาคตต่อไปสำนักป้องกันฯ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนโดยจัดโครงการตรวจสอบความปลอดภัยในอาคารสูง อาธิ อาคารชุด คอนโด หอพัก หรือแม้แต่อาคารสถานบริการที่มีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก และจะมอบโล่ห์เพื่อแสดงว่าสถานที่แห่งนี้ได้ผ่านมาตฐานการป้องกันอัคคีภัยในอาคาร

สำหรับประชาชนในการแจ้งเหตุ ทางผู้อำนวยการสำนักแจ้งว่า เลขหมายโทรศัพท์ 199 เป็นช่องทางการแจ้งข้อมูลเมื่อเกิดเพลิงไหม้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่นั้นเข้าถึงจุดเกิดเหตุได้ไวที่สุดอีกด้วย