ทีทีเอ็มพลัสคึกผู้ซื้อพุ่ง20% ไทยได้ที่โหมโรง‘เวลด์อีเวนต์’ต่อยอดปีท่องเที่ยว

18 มิ.ย. 2560 | 09:00 น.
ทีทีเอ็ม พลัส คึกผู้ซื้อจากต่างประเทศพุ่งกว่า 20% "ธนะศักดิ์" หวังขยายกรอบความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยวครอบคลุมจุดขายมรดกโลกวัฒนธรรมรวม 22 แห่ง ทั้งถือโอกาสเปิดตัวเวิลด์อีเว้นท์ต่อยอดปีการท่องเที่ยวไทย
การจัดงาน Thailand Travel Mart Plus Amazing Gateway to the Greater Mekong Subregion (TTM+ )ณ ศูนย์การประชุมและการแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 14-16 มิถุนายน 2560 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ไม่เพียงเป็นเวทีให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทย และผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากประเทศกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง รวมกว่า 429 บูธ จาก 362 หน่วยงาน ได้นำเสนอขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่หลากหลาย แก่ผู้ซื้อจากต่างประเทศ ที่เข้าร่วมงาน 361 ราย จาก 56 ประเทศ ซึ่งมีการนัดหมายเจรจาธุรกิจล่วงหน้า ร่วม 1.4 หมื่นนัดหมาย

ภาพรวมการจัดงานก็ยังถือว่าคึกคักกว่าปีที่ผ่านมา จากจำนวนผู้ซื้อจากต่างประเทศ ที่เพิ่มขึ้นกว่า 20% และเป็นผู้ซื้อรายใหม่ที่เข้าร่วมงานเป็นครั้งแรกคิดเป็นสัดส่วน 47% อาทิ บัลแกเรีย โคโซโว โมรอคโค โปแลนด์ สโลวาเกีย และศรีลังกา อีก 53% เป็นกลุ่มรีพีทเตอร์ ซึ่งผู้ซื้อ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน สหราชอาณาจักร อินเดีย ออสเตรเลีย และอิตาลี และมีผู้ขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อนราว 5% ซึ่งเป็นผู้ขายที่มาร่วมงานเป็นครั้งแรกถึง 106 ราย การจัดสัมนาทัวริสซึม เทรนด์ ท็อค แลกเปลี่ยนความรู้เรื่องของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวยุคใหม่ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย การเปิดโอกาสให้มีการจัดแสดงสินค้าชุมชนระดับพรีเมี่ยมที่คัดขึ้นมา เพื่อมาจัดแสดงใน 7 โซน และนำเสนอขายแบบ B2B แก่ผู้เข้าร่วมงานที่ประกอบธุรกิจด้านท่องเที่ยว

พล.อ. ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เผยว่า งานTTM+ ในปีนี้ไม่เพียงเป็นเวทีในการเจรจาธุรกิจของผู้ขายไทยและประเทศในกลุ่มCLMV เท่านั้น แต่ยังมี 2 มณฑลของจีน คือ มณฑลยูนานและกวางสี ของจีน เข้าร่วมเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อจากทั่วโลกที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งการจัดงานนี้อย่างต่อเนื่องส่งผลให้การส่งเสริมการขายในลักษณะไทยแลนด์ + 1 (ขายการท่องเที่ยวไทยเชื่อมโยงประเทศใดประเทศหนึ่งในกลุ่มCLMV เป็นที่รู้จักอยู่แล้วในตลาดท่องเที่ยวโลก แต่ต่อไปจะเน้นขยายกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงให้เป็นภาพใหญ่มากขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก โดยชูจุดขายความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งในกลุ่มCLMVT (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย) รวม 2 มณฑลของจีน มีมากถึง 22 แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ซึ่งก็จะเสริมให้ไทยเป็นเกตเวย์ด้านการท่องเที่ยวในอนุภูมิภาคนี้

นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรี ยังได้ใช้เวทีการจัดนี้ประชาสัมพันธ์ให้ผู้ซื้อและผู้ขายทั่วโลกเดินทางเข้ามาร่วมงาน ได้รับทราบถึงศักยภาพของไทย ในด้านสปอร์ต ทัวริสซึม ฮับ และการท่องเที่ยวเชิงอาหาร และการท่องเที่ยว ผ่านความพร้อมในการจัดงานระดับเวิล์ดอีเว้นท์ที่จะเกิดขึ้น ตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ถึงปีหน้า (ตารางประกอบ) และต่อยอดด้วยการเตรียมประกาศให้ปีหน้าเป็นปีแห่งการท่องเที่ยวของไทยหรือ ไทยแลนด์ ทัวริสซึม เยียร์

[caption id="attachment_164188" align="aligncenter" width="380"] ทีทีเอ็มพลัสคึกผู้ซื้อพุ่ง20% ไทยได้ที่โหมโรง‘เวลด์อีเวนต์’ต่อยอดปีท่องเที่ยว ทีทีเอ็มพลัสคึกผู้ซื้อพุ่ง20% ไทยได้ที่โหมโรง‘เวลด์อีเวนต์’ต่อยอดปีท่องเที่ยว[/caption]

"การจัดงานระดับโลกหลายงาน อย่าง การจัดงานมอเตอร์ จีพี ในเดือนตุลาคมปีหน้า จะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 2 แสนคน มีผู้ติดตามการถ่ายทอดสดร่วม 600 คน ซึ่งเป็นปีแรกที่เราเป็นเจ้าภาพจัดงาน และจัดติดต่อกัน 3 ปี โดยรัฐสนับสนุนงบจัดงานปีละ 100 ล้านบาท ที่เหลือผู้จัดงานก็จะการขอสนับสนุนจากสปอนเซอร์ต่างๆ และก่อนการจัดแข่งขันจริง ก็ยังมีการจัดทดสอบมอเตอร์ จีพี ในช่วงเดือนมกราคม มีคนเข้าร่วมกว่า 1,500 คน การจัดงานแอร์เรซ วัน (แข่งเครื่องบินที่มีความเร็วมากที่สุดในโลก)ในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ การประชุม SportAccord ที่จะมีผู้เกี่ยวข้องในกีฬาระดับโลก อาทิ โอลิมปิก เข้าร่วมประชุมกว่า 2 พันคน การเป็นเจ้าภาพการจัดงานเอทีเอฟ(อาเซียน ทัวริสซัม ฟอรัม) ที่เชียงใหม่ และจะย้ายสถานที่จัดงานTTM+ ในปีหน้าไปที่เมืองพัทยา เพื่อสอดรับการขับเคลื่อนให้เกิดการลงทุนในพื้นที่อีอีซี ที่จะมีการนำเสนอจุดขายใหม่ๆในพื้นที่ดังกล่าว"พล.อ. ธนะศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย

ขณะเดียวกันภายในงานTTM+ ยังมีการนำเสนอจุดขายอเมซิ่ง ธีม ที่หลากหลายในกลุ่มประเทศ CLMVT แก่ผู้ซื้อจากต่างประเทศ และสื่อมวลชนต่างชาติ เพื่ออัพเดทสินค้าด้านการท่องเที่ยว และขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ไปพร้อมๆกัน อาทิ Living Heritage อันเป็นไฮไลท์ของกัมพูชา Atelier of Creativity : Local Experience ในเมียนมา Lively Metropolis and Foodie Experience ของไทย Self Drive and Overland Experience ของลาว Local Luxury by Cruise ในเวียดนาม เพื่อกระตุ้นการเดินท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ให้เพิ่มขึ้น จากปี2559 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวในกลุ่มCLMVT รวมถึง 54.7ล้านคน แบ่งเป็น ไทย 32.5 ล้านคน ตามมาด้วยเวียดนาม 10 ล้านคน กัมพูชา5ล้านคน ส่วนรายได้ด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มCLMVTในปี2558อยู่ที่62.23พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กรอบความร่วมมือ CLMV ของไทย นอกจากเป็นการขับเคลื่อนอาเซียนคอนเน็ก เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างกัน ภายใต้นโยบาย ทู คันทรี วัน เดสติเนชั่น อาทิเส้นทางเชียงใหม่ -เนปิดอร์ หรือพุกาม-กรุงเทพ ขณะนี้ก็มีก้าวขึ้นไปอีกสเต็ป อย่างกัมพูชา อยากให้มีนักลงทุนไทยหรือผู้เชี่ยวชาญด้านโรงแรมของไทย เข้าไปลงที่เสียมเรียบ รวมถึงอยากให้มีการเข้าไปลงทุนสนามบิน ในสนามบินที่ไม่ห่างจากพุกามมากนัก ซึ่งก็ถือเป็นการขยายผลให้เกิดการลงทุนของคนไทย นอกเหนือจากด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกันเท่านั้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,271 วันที่ 18 - 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560