KEY
POINTS
บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือ MOSHI วางกลยุทธ์เร่งเครื่องช่วงโค้งสุดท้ายปี 2568 พยุงผลการดำเนินงานไตรมาส 4 และเตรียมฐานการเติบโตสำหรับปี 2569 ท่ามกลางภาวะกำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวอย่างจำกัด โดยใช้การขยายสาขา การเพิ่มสินค้าใหม่ตามฤดูกาล และการปรับพอร์ตสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าการซื้อต่อบิล พร้อมเดินหน้าแผนขยายสาขาเชิงรุกในปีหน้า
นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/2568 บริษัทฯ ให้น้ำหนักกับการกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปีผ่าน 3 แนวทางหลัก เริ่มจากการขยายสาขาใหม่ โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายได้เปิดเพิ่ม 15 สาขา ในทำเลศักยภาพทั้งศูนย์การค้าและสาขา Standalone เช่น เซนทรัล กระบี่ โลตัส บ้านบึง รวมถึงจังหวัดใหม่อย่างตราดและอุทัยธานี ส่งผลให้ตลอดปี 2568 MOSHI เปิดสาขาใหม่รวม 39 แห่ง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคในพื้นที่รองและต่างจังหวัดมากขึ้น
แนวทางที่สอง คือการเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่รับเทศกาลปลายปีมากกว่า 2,000 รายการ เพื่อรองรับพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งตลาดของขวัญมีการแข่งขันสูงและผู้บริโภคให้ความสำคัญกับราคาที่เข้าถึงได้ บริษัทฯ จึงเน้นสินค้าขนาดเล็กถึงกลาง และกลุ่มสินค้าที่ใช้เป็นของขวัญแลกเปลี่ยน (small gifts exchange) รวมถึงคอลเลกชันลิขสิทธิ์ เช่น Care Bears, Zootopia, Stitch และ Powerpuff Girls เพื่อเพิ่มทางเลือกสินค้าในกลุ่มที่มีอัตราหมุนเวียนสูง
ขณะเดียวกัน MOSHI ปรับกลยุทธ์สินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่าการซื้อต่อครั้ง โดยขยายสัดส่วนสินค้ามูลค่าสูงขึ้น เช่น ตุ๊กตาลิขสิทธิ์ และการจัดสินค้าในรูปแบบ Gift Set หรือ Gift Box ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการตัดสินใจของผู้บริโภค และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าแบบเป็นชุดในช่วงเทศกาล
สำหรับแนวโน้มปี 2569 บริษัท ประเมินว่าภาพรวมธุรกิจค้าปลีกยังเผชิญแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้การใช้จ่ายของผู้บริโภคมีความระมัดระวังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 35.5 ล้านคน และรายได้จากการท่องเที่ยวราว 1.68 ล้านล้านบาท รวมถึงการจัดงานระดับนานาชาติ เช่น มหกรรมพืชสวนโลก และการประชุม IMF–World Bank ซึ่งอาจช่วยเพิ่มการจับจ่ายในบางพื้นที่
ในด้านการแข่งขัน MOSHI มองว่าตลาดค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ยังมีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบร้านเฉพาะทางและแบรนด์ต่างประเทศ ส่งผลให้การแข่งขันด้านราคาและความแตกต่างของสินค้าสูงขึ้น บริษัทฯ จึงเน้นการพัฒนาสินค้าที่มีเอกลักษณ์ การควบคุมต้นทุน และการบริหารสาขาให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสามารถในการทำกำไรในระยะยาว
สำหรับแผนปี 2569 บริษัทฯ วางแผนขยายสาขาใหม่อีก 35 แห่ง โดยเป็นสาขา Standalone อย่างน้อย 5 แห่งในทำเลที่มีศักยภาพ พร้อมเดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่ทั้งกลุ่ม IP และ non-IP เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตสินค้า ควบคู่กับการปรับรูปแบบร้านและการจัดวางสินค้าหลักให้ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่มากขึ้น เพื่อรองรับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในตลาดค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ในปีถัดไป