ค่าจ้างชะลอ-โบนัสไม่เพิ่ม 'ดีลอยท์' เผยองค์กรไทยรัดเข็มขัดรับแรงกดดัน AI

13 ธ.ค. 2568 | 04:33 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2568 | 05:01 น.

ผลสำรวจ 'ดีลอยท์' พบอัตราปรับขึ้นเงินเดือนปี 2568 ลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอดีต สะท้อนต้นทุนสูง–เศรษฐกิจฟื้นช้า ขณะ AI เขย่าโครงสร้างค่าตอบแทนจากตำแหน่งสู่ทักษะ

KEY

POINTS

  • ผลสำรวจดีลอยท์คาดการณ์ว่าการปรับขึ้นเงินเดือนปี 2568 จะชะลอตัวลงเฉลี่ยที่ 4.5% ซึ่งต่ำกว่าในอดีต ขณะที่การจ่ายโบนัสจะยังคงทรงตัว
  • สาเหตุหลักมาจากแรงกดดันด้านต้นทุน ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า และการปรับตัวรับเทคโนโลยี AI ทำให้องค์กรไทยต้องรัดเข็มขัดและบริหารงบประมาณอย่างระมัดระวัง
  • องค์กรกำลังเปลี่ยนกลยุทธ์การจ่ายค่าตอบแทน โดยหันมาให้ความสำคัญกับทักษะ (Skill-based) มากกว่าตำแหน่งงาน (Job-based) โดยเฉพาะทักษะด้านเทคโนโลยีและ AI

ท่ามกลางแรงกดดันด้านต้นทุน เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด และการเร่งปรับตัวสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตลาดแรงงานไทยในปี 2568 กำลังเผชิญจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อการปรับขึ้นเงินเดือนเริ่มชะลอลง ขณะที่องค์กรต้องเดินเกม “รัดเข็มขัดอย่างมีเป้าหมาย” ควบคู่กับการลงทุนในทักษะที่จำเป็นต่อการแข่งขันในอนาคต 

ผลสำรวจล่าสุดของ ดีลอยท์ ประเทศไทย เกี่ยวกับแนวโน้มการปรับเงินเดือน ค่าตอบแทน และความท้าทายด้านทรัพยากรบุคคล ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคม การปรับขึ้นเงินเดือนของประเทศไทยในปี 2568 ชะลอลง โดยอัตราการปรับเพิ่มเฉลี่ยอยู่ที่ ร้อยละ 4.5 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่อยู่ราว ร้อยละ 5

การชะลอตัวดังกล่าวสะท้อนแรงกดดันด้านต้นทุนและภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่งผลให้องค์กรจำนวนมากต้องบริหารงบประมาณเงินเดือนอย่างระมัดระวังมากขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการแข่งขันทางธุรกิจที่ยังคงเข้มข้น

เมื่อพิจารณาในเชิงอุตสาหกรรม พบว่า กลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค ยังสามารถรักษาอัตราการปรับขึ้นเงินเดือนไว้ที่ ร้อยละ 5 ขณะที่ อุตสาหกรรมค้าปลีกและเทคโนโลยี มีการปรับขึ้นเฉลี่ยเพียง ร้อยละ 4 ต่ำที่สุดในบรรดากลุ่มอุตสาหกรรมหลัก สะท้อนแรงกดดันด้านต้นทุนและการแข่งขันที่รุนแรงในภาคธุรกิจดังกล่าว

การสำรวจครั้งนี้รวบรวมข้อมูลจากบริษัทชั้นนำในประเทศไทยจำนวน 176 แห่ง และชี้ให้เห็นว่า องค์กรไทยกำลังเผชิญ “แรงกดดันสองด้าน” พร้อมกัน คือ เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด และการเปลี่ยนผ่านด้านเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างค่าตอบแทนและกลยุทธ์การบริหารกำลังคนอย่างมีนัยสำคัญ

นายอริยะ ฝึกฝน

หลายองค์กรเริ่มให้ความสำคัญกับการบูรณาการทักษะด้าน AI เข้ากับการดำเนินงานมากขึ้น ส่งผลให้รูปแบบการให้ค่าตอบแทนเริ่มเปลี่ยนจากการยึดตามตำแหน่งหรือระดับงาน ไปสู่ระบบที่เชื่อมโยงกับ “ทักษะและความสามารถ” ของพนักงานเป็นหลัก องค์กรชั้นนำที่นำ AI มาใช้จริงจัง กำลังปรับสมการค่าตอบแทนให้สะท้อนคุณค่าของทักษะมากกว่าสถานะของตำแหน่งงาน

นายอริยะ ฝึกฝน ลีดเดอร์ด้านเทคโนโลยีและการปฏิรูปองค์กร ดีลอยท์ ประเทศไทย ระบุว่า แม้ในปีนี้หลายองค์กรจะเผชิญกับต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ไม่สามารถชะลอการลงทุนด้านบุคลากรได้ โดยเฉพาะทักษะด้านเทคโนโลยีและ AI ซึ่งกลายเป็นหัวใจสำคัญของความสามารถในการแข่งขันในอนาคต

AI ไม่ได้เข้ามาแทนที่แรงงาน แต่กำลังเปลี่ยน “คุณค่าของทักษะ” ในตลาดแรงงาน องค์กรที่สามารถผสานการใช้เทคโนโลยีควบคู่กับการพัฒนาคน จะได้เปรียบทั้งในแง่ประสิทธิภาพการทำงานและความสามารถในการรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง

ในด้าน โบนัสผันแปร ผลสำรวจพบว่า แนวโน้มการจ่ายโบนัสในปี 2568 โดยรวมยังคงทรงตัวจากปี 2567 อยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 2 เดือน อุตสาหกรรมที่มีการจ่ายโบนัสสูงสุด ได้แก่ เคมีภัณฑ์ พลังงาน และน้ำมันและก๊าซ ซึ่งจ่ายเฉลี่ยราว 3 เดือน ขณะที่ เทคโนโลยีและค้าปลีก มีระดับโบนัสต่ำกว่า โดยเฉลี่ยอยู่ที่ ประมาณ 1.5 เดือน นอกจากนี้ ราว ร้อยละ 28 ขององค์กรไทยยังมีการจ่ายโบนัสคงที่เพิ่มเติมอีก 1 เดือน

ค่าจ้างชะลอ-โบนัสไม่เพิ่ม 'ดีลอยท์' เผยองค์กรไทยรัดเข็มขัดรับแรงกดดัน AI

ด้าน ความคล่องตัวของแรงงาน พบว่า อัตราการลาออกโดยสมัครใจเฉลี่ยของประเทศไทยอยู่ที่ ร้อยละ 12.9 โดยมีความแตกต่างอย่างชัดเจนในแต่ละอุตสาหกรรม กลุ่มที่มีอัตราการหมุนเวียนสูงสุด ได้แก่ ค้าปลีก ร้อยละ 32.9, อสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 16.9 และ สินค้าอุปโภคบริโภค ร้อยละ 15.1 ในทางกลับกัน อุตสาหกรรมที่มีอัตราการลาออกต่ำ ได้แก่ พลังงาน น้ำมันและก๊าซ ร้อยละ 3.9, ยานยนต์ ร้อยละ 4.9 และ ภาคอุตสาหกรรม ร้อยละ 5.3

แม้ภาวะเศรษฐกิจจะยังท้าทาย แต่ผลสำรวจระบุว่า องค์กรส่วนใหญ่ยังสามารถรักษาเสถียรภาพได้ โดย ร้อยละ 44 รายงานการเติบโตในระดับปานกลาง และ ร้อยละ 52 บรรลุเป้าหมายการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม ยังมี ร้อยละ 35 ที่เติบโตต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ สะท้อนบรรยากาศการบริหารจัดการที่ต้องใช้ความรอบคอบเป็นพิเศษในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

ค่าจ้างชะลอ-โบนัสไม่เพิ่ม 'ดีลอยท์' เผยองค์กรไทยรัดเข็มขัดรับแรงกดดัน AI

ภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณ องค์กรจำนวนมากเริ่มปรับกลยุทธ์ค่าตอบแทนอย่างตรงจุด โดย ร้อยละ 57 ลดหรือมีแผนลดงบประมาณค่าตอบแทนและสวัสดิการโดยรวม ขณะเดียวกันกว่า ร้อยละ 55 เลือกจ่ายค่าตอบแทนสูงกว่าตลาดสำหรับตำแหน่งที่มีผลกระทบต่อธุรกิจสูง และจ่ายต่ำกว่าตลาดสำหรับตำแหน่งทั่วไป สะท้อนการจัดลำดับความสำคัญของการลงทุนด้านบุคลากรอย่างชัดเจน

แม้งบประมาณจะตึงตัว แต่การรักษาพนักงานยังคงเป็นวาระสำคัญ โดย ร้อยละ 61 ขององค์กรใช้โอกาสในการพัฒนาอาชีพเป็นเครื่องมือหลักในการสร้างการมีส่วนร่วม และในกลุ่มพนักงานศักยภาพสูงหรือผู้มีผลงานโดดเด่น ร้อยละ 65 ขององค์กรพิจารณาการเลื่อนตำแหน่งพิเศษควบคู่กับแผนพัฒนาความก้าวหน้าในอาชีพ เพื่อสร้างแรงจูงใจและรักษาคนเก่งในระยะยาว

ทั้งนี้ ดีลอยท์มองว่า ในภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว องค์กรจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลให้สอดคล้องกับบริบทใหม่ ทั้งในแง่ความโปร่งใสในการสื่อสารเรื่องค่าจ้างและค่าตอบแทน ตลอดจนบทบาทของ AI ที่จะเข้ามาสนับสนุนการพัฒนาองค์กร และเสริมความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวอย่างยั่งยืน