PFS ชูนวัตกรรมฟรีซดราย รุกตลาดไทยตอบโจทย์ไลฟ์ไตล์คนรุ่นใหม่

PFS เดินหน้ารุกตลาดเมืองไทย ส่งนวัตกรรมอาหาร-เครื่องดื่มด้วยเทคโนโลยีลํ้าสมัยทั้งฟรีซดรายสเปรย์ดราย แอร์ดราย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

ไทยถือเป็นผู้ส่งออกอาหารรายใหญ่ของโลก และขึ้นชื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย เป็นที่ยอมรับทั้งในเอเชียและยุโรป และหนึ่งในผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์รายใหญ่ที่ต่างชาติรู้จักและให้การยอมรับคือ "พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้" หรือ PFS ด้วยวิชั่นที่มุ่งพัฒนา "สินค้านวัตกรรม" (Innovative Product) ทำให้วันนี้ PFS ก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตและส่งออกสินค้าฟรีสดรายอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายวรภาส มหัทธโนบล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ จำกัด หรือ PFS เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ผลิตภัณฑ์ภายใต้การผลิตและส่งออกของ PFS ประกอบไปด้วย 5 หมวด ได้แก่ 1. ผลิตภัณฑ์ทำแห้งแบบระเหิด (Freeze Dried) และอาหารแช่แข็ง ได้แก่ อาหารทะเล เนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ซุป และข้าวต้ม 2. ผลิตภัณฑ์ทำแห้งแบบพ่นฝอย (Spray Dried) ได้แก่ ครีมเทียม ผลิตภัณฑ์ทดแทนนม ผงวิปปิ้งครีม และเครื่องปรุงรสต่างๆ 3. ผลิตภัณฑ์อบแห้งด้วยลมร้อน (Air Dried) ได้แก่ ผัก และเครื่องปรุงรสจากเนื้อสัตว์และอาหารทะเล 4. ผลิตภัณฑ์ทำแห้งด้วยลูกกลิ้งร้อน (Drum Dried) ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ และเครื่องปรุงรส และ 5. ผลิตภัณฑ์สกัดเข้มข้น ได้แก่ ซุปเข้มข้น สมุนไพรต่างๆ

อย่างไรก็ดี นโยบายของบริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาสินค้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยแต่ละปีบริษัทลงทุนด้านเทคโนโลยีและเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้บริษัทนำเสนอผลิตภัณฑ์ฟรีซดราย (Freeze Dried) หรือ การทำแห้งแบบระเดิด ซี่งเป็นเทคโนโลยีการถนอมอาหารที่ดีที่สุดในโลกในขณะนี้ และได้รับการยอมรับในระดับโลกว่าสามารถคงคุณภาพอาหารและรสชาติได้อย่างดี โดยมีสินค้าที่ผ่านการทำระเหิดและวางจำหน่ายทั้งอาหารคาว ผลไม้ เช่น ข้าวต้มแซลมอนคัพ ข้าวต้มทะเลคัพ แกงและซุปรสชาติตำรับไทย กลุ่มผลไม้ นวัตกรรมฟรีสดรายล่าสุดกับ ลำไยกรอบไส้ทุเรียน ทุเรียนกรอบ รวมถึง กลุ่มเครื่องดื่มกับ น้ำทุเรียน ทรี อิน วัน และ น้ำมะม่วง ทรี อิน วัน ฯลฯ โดยบริษัทยังรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับแบรนด์ชั้นนำ ผู้ประกอบการร้านอาหารทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ไต้หวัน อเมริกา เป็นต้น และในปีนี้มีแผนขยายตลาดในต่างประเทศ อาทิ ประเทศในกลุ่ม CLMV และยุโรป เป็นต้น

"บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาและพร้อมออกวางจำหน่ายจำนวนมาก โดยจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ ข้าวต้มปลาแซลมอนคัพ ซึ่งทดลองออกวางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงมีแผนขยายช่องทางการจำหน่ายไปยังโมเดิร์นเทรดและเทรดดิชั่นนอลเทรด อาทิ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าชั้นนำทั่วไป รวมทั้งสินค้าอื่นๆ โดยอาศัยจุดแข็งของเทคโนโลยีการผลิตแบบฟรีสดรายทำให้อาหารคงคุณภาพและรสชาติที่ดี ถูกปากผู้บริโภค และจำหน่ายในราคาคุ้มค่า เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่มีชีวิตเร่งรีบ แต่ใส่ใจในคุณภาพชีวิต"

ล่าสุดในงาน THAIFEX – World of Food Asia 2017 งานแสดงสินค้าอาหารระดับนานาชาติครั้งยิ่งใหญ่ บริษัทนำสินค้าเข้าร่วมงานอาทิ น้ำทุเรียน ข้าวต้มทะเลคัพ ซุปตำรับไทย ฯลฯ พร้อมจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ โชว์ทำอาหารจาก "เกรท วรินทร" แบรนด์แอมบาสเดอร์ของครีมเทียมคอฟฟี่ ดรีมมี่ พร้อมเปิดตัว คอฟฟี่ ดรีมมี่ สติ๊กภายในงานซึ่งได้รับความสนใจจากผู้บริโภคจำนวนมาก เป็นต้น นอกจากนี้ภายในบูธของ PFS ยังตกแต่งเป็น "พรีเซิร์ฟ ฟู้ด สเปเชียลตี้ โค-ลีฟวิ่ง สเปซ" พื้นที่แห่งไลฟ์สไตล์เพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพที่มีความสะดวก รวดเร็ว ลงตัวกับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลาย ให้ทุกคนอร่อยได้ง่ายๆ ใช้ชีวิตเฮลตี้ แบบโมเดิร์น ได้อย่างมีความสุขด้วย

นายวรภาส กล่าวอีกว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสแรกที่ผ่านมามีการเติบโต 5% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมีปัจจัยมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม และการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นทั้งจากแบรนด์คอฟฟี่ ดรีมมี่ครีมเทียมที่เพิ่งรีล้อนซ์ออกทำตลาดในระดับแมส เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้งนี้คาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้จะมีการเติบโต 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้จากการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่ภาพรวมธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเมืองไทยในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้น จากกำลังซื้อที่เริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และจากการลงทุนเมกะโปรเจ็คของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,268 วันที่ 8 - 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560