อินเด็กซ์ฯลุย 4 โปรเจ็กต์ใน 4 ประเทศ

อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจอย่างครบวงจร ชูกลยุทธ์รุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  ส่งโปรเจคยักษ์ใหญ่ 4 งาน ใน 4 ประเทศในเดือนมิถุนายนนี้   สร้างการเติบโตให้ธุรกิจ

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการตลาดเชิงสร้างสรรค์อย่างครบวงจร  เปิดเผยว่า  ได้ใช้กลยุทธ์รุกตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างมูลค่าให้ธุรกิจและสร้างการเติบโต  ซึ่งในเดือนมิถุนายนนี้ได้ส่งโปรเจคใหญ่ 4 งานใน 4 ประเทศ ได้แก่  1. งานแคมโบเดีย อาคิเทค แอนด์ เดคคอว์ 2017   งานมหกรรมแสดงสินค้าแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุด ที่  กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา 2. งานบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐวิสาหกิจไทย และกระทรวงพาณิชย์ของเมียนมา ที่กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ในวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา  3.งานอัสตานา เอ็กซ์โป 2017 งานนิทรรศการนานาชาติระดับโลก ที่กรุงอัสตานา ประเทศสาธารณรัฐคาซัคสถาน และ 4.งานกว่างนาม เฮอร์ริเทจ เฟสติวัล 2017 เทศกาลการแสดงมรดกวัฒนธรรมเวียดนาม ประเทศเวียดนาม

[caption id="attachment_157226" align="aligncenter" width="503"] นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน[/caption]

“ในปี 2560 นี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่อินเด็กซ์ฯ มีการเติบโตอย่างมั่นคง หลังจากการวางแผนรุกตลาดต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง และปรับทิศทางการขยายธุรกิจภายใต้ ครีเอทีฟ บิซซิเนส โซลูชั่น โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ และพัฒนาพื้นที่เปล่า สู่การสร้างประสบการณ์พิเศษ เพื่อสร้างมูลค่าในเชิงธุรกิจ รวมถึงยังให้บริการงานสร้างสรรค์ที่มีความหลากหลายอื่นๆ อาทิ การบุกเบิกงานเทรดแฟร์ และเอ็กซ์ซิบิชั่นที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดในแต่ละประเทศ การเป็นศูนย์กลางเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่นักลงทุน และการสร้างสรรค์งานภายใต้โปรเจคของอินเด็กซ์ฯ ทั้งนี้นอกจากอินเด็กซ์ฯ จะมีการดำเนินงานในประเทศไทยแล้ว ยังมีการดำเนินงานในต่างประเทศไปพร้อมกัน เพื่อนำเสนอสิ่งใหม่ๆ และรองรับความต้องการด้านไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่มีความเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจ”

สำหรับงานงานแคมโบเดีย อาคิเทค แอนด์ เดคคอว์ 2017   งานมหกรรมแสดงสินค้าแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุด ที่  กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา  จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 8-10 มิถุนายน 2560 โดยมีสินค้าจัดแสดงด้านต่างๆ อาทิ เทคโนโลยี นวัตกรรม การบริการด้านการก่อสร้าง สถาปัตยกรรม การออกแบบ การตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มธุรกิจดาวรุ่งของประเทศกัมพูชา ที่กำลังพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ โดยมีบริษัทชั้นนำเข้าร่วมงานกว่า 100 บริษัท สร้างโอกาสการเติบโต การขยายธุรกิจ พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลการค้าให้แก่ผู้ประกอบการ นักลงทุนทั้งไทย และต่างประเทศ

ส่วนงานกว่างนาม เฮอร์ริเทจ เฟสติวัล 2017   จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-14 มิถุนายน 2560 ซึ่งเป็นการสืบสานศิลปวัฒนธรรม อันเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนามสู่สากล โดยปีนี้ทางอินเด็กซ์ฯ จะเพิ่มรูปแบบการแสดงให้น่าสนใจ และแตกต่างกว่าปีที่ผ่านมา ภายใต้แนวคิด “ดินแดนแห่งสีสันของมรดกโลก (Discover the Color of Heritage)” ด้วยการเล่าเรื่องราววัฒนธรรมของเมืองมรดกโลกอันล้ำค่า ผ่านไอเดียสร้างสรรค์ นวัตกรรม และเทคนิคโปรเจคชั่น แมปปิ้ง (Projection Mapping) มัลติมีเดีย (Multimedia) ผสมผสาน แสง สีเสียง อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าสู่สายตานักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างประเทศ

ด้านงานอัสตานา เอ็กซ์โป 2017 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 มิถุนายน - 10 กันยายน 2560 ในหัวข้อ “พลังงานแห่งอนาคต”    ซึ่งมีประเทศเข้าร่วมงานกว่า 100 ประเทศ และองค์กรระดับโลกกว่า 10 หน่วยงาน รวมมากกว่า 110 พาวิลเลียน บนพื้นที่การจัดงานทั้งหมด 1,740,000 ตร.ม. (1,087.5 ไร่) และในส่วนของพื้นที่จัดงานนิทรรศการ 250,000 ตร.ม. (156.25 ไร่) โดยประเทศเจ้าภาพคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 5 ล้านคน ทั้งนี้ทางอินเด็กซ์ฯ ได้รับมอบหมายให้ดำเนินงานจัดการ อาคารศาลาไทย ภายใต้แนวคิด “การพัฒนาด้านพลังงานชีวภาพเพื่อมนุษยชาติ (Bioenergy for All)” ที่ต้องการสื่อถึงพลังงานเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เพื่อแสดงศักยภาพของประเทศไทยในด้านการพัฒนาพลังงานทดแทน และความก้าวหน้าในการพัฒนาพลังงานชีวภาพ (Bioenergy)' โดยนำเสนอในรูปแบบ 'EDUTAINMENT' ด้วย 3 ห้องนิทรรศการหลัก ซึ่งจะมีการใช้เทคโนโลยีมาผสมผสาน นำเสนอในรูปแบบ ห้องภาพยนตร์ 3 มิติ หรือ 3D theater และหุ่นยนต์มาสคอตในรูปแบบที่สนุกสนาน รวมถึงสื่ออินเตอร์แอคทีฟต่างๆ ด้วยการพัฒนาแนวความคิด การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย จากการศึกษาหาข้อมูล และทำโฟกัสกรุ๊ปกับประชากรในประเทศคาซัคสถาน เพื่อพัฒนางานอย่างมีกลยุทธ์  พร้อมที่จะสร้างประวัติศาสตร์ให้กับประเทศไทยอีกครั้ง