‘ซิงเกอร์’เพิ่ม 3 ไลน์สินค้า เฟอร์นิเจอร์-มอเตอร์ไซค์-บริการดันยอดขายโต35%

“ซิงเกอร์” ชูกลยุทธ์เพิ่มสินค้าใหม่ ขายเฟอร์นิเจอร์มอเตอร์ไซค์ และธุรกิจบริการ พร้อมขยายตัวแทนขายปูพรมเจาะลูกค้าทั่วประเทศ หวังดันยอดขายกลับมาเติบโต 35% หลังปีที่ผ่านมายอดหาย 15% เหตุปรับปรุงระบบงานหลังบ้าน เดินหน้าควักทุน 100 ล้าน พัฒนางานต่อเนื่อง

หลังการปรับระบบการบริหารงานภายในเป็นที่เรียบร้อย ซิงเกอร์ ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าในระบบขายตรง ผ่านตัวแทนและร้านสาขา ได้กลับมารุกตลาดอย่างเต็มทีอีกครั้ง เพื่อหวังสร้างยอดขายเติบโต 35% จากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีที่ผ่านมายอดขายลดลงไป 15% กลยุทธ์สร้างการเติบโตของปีนี้ ได้เตรียมขยายตัวแทนจำหน่ายสินค้า และการเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่มใหม่ทั้งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ และการบริการเข้ามาทำตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเฉพาะสินค้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามาจะสร้างยอดขายเพิ่มจากเป้าหมายแรกอีกไม่ต่ำกว่า 10%

นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการและผู้อำนวยการสายงานการขายและการตลาด บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายสินค้าในระบบขายตรง เปิดเผยว่า ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในปีนี้เติบโต 35% ด้วยการชูกลยุทธ์การเพิ่มตัวแทนจำหน่ายสินค้าและร้านสาขามากขึ้น โดยเพิ่มสาขาหลักจาก 180 แห่งเป็น 200 แห่ง เพิ่มสาขาย่อยและหน่วยขายจาก 400 แห่งเป็น 600 แห่ง และการเพิ่มตัวแทนขายจาก 1.3 หมื่นคน เป็น 2 หมื่นคนภายในสิ้นปีนี้ ทำให้ซิงเกอร์สามารถกระจายสินค้าเข้าถึงกลุ่มคนได้ทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้น

[caption id="attachment_139600" align="aligncenter" width="503"] กิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์[/caption]

นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาด ไม่ต่ำกว่า 3 กลุ่มสินค้า ได้แก่ กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ กลุ่มรถจักรยานยนต์ และธุรกิจการให้บริการ จากปัจจุบันมีสินค้าทำตลาด 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มสินค้าเชิงพาณิชย์ อาทิ ตู้แช่เย็น ตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ตู้นำมันหยอดเหรียญ เป็นต้น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อาทิ ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น และกลุ่มโทรศัพท์มือถือ รวมถึงกล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ ซึ่งสินค้าทั้ง 3 กลุ่มมีสัดส่วนรายได้ที่ใกล้เคียงกัน

สำหรับสินค้าใหม่ในกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ คาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในไตรมาสที่ 2 นี้ โดยจะเป็นสินค้าจากแบรนด์ผู้ผลิตในประเทศที่รู้จักดี การขายจะจัดเซ็ทเฟอร์นิเจอร์ตามห้องต่างๆ ของบ้าน และยังคงใช้ระบบเช่าซื้อ ด้วยการผ่อนชำระได้นาน 2 ปี ส่วนสินค้ากลุ่มรถจักรยารนยนต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ผลิตซึ่งเป็นสินค้าแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น และในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านจะเปิดตัวธุรกิจบริการเพิ่ม โดยคาดว่าสินค้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในปีนี้ จะสร้างยอดขายให้บริษัทไม่ต่ำกว่า 10% เป็นยอดขายเพิ่มจากเป้าหมายการเติบโต 35%

นายกิตติพงศ์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังได้ลงทุน 100 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงระบบงานขายและการขยายสาขาต่างๆ ส่วนแผนการตลาดในช่วงไตรมาส 2 ได้จัดแคมเปญต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ด้วยการเตรียมเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่หลากหลายรุ่น หลายประเภท เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าสำหรับหน้าร้อน พร้อมจัดทำแคมเปญพิเศษ นำเสนอให้กับลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายและอาชีพ ให้สามารถเป็นเจ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ง่ายๆ ด้วยการส่งสินค้าตรงถึงบ้าน และผ่อนสบายๆ ได้โดยไม่ต้องมีสลิปเงินเดือนเพียงหลักสิบบาทต่อวัน โดยได้นำเครืองใช้ไฟฟ้าใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ 7 รุ่นมาจัดแคมเปญดังกล่าว ได้แก่ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และแอร์ นอกจากนี้ ยังมีช่างบริการจัดส่งสินค้า และติดตั้งให้ถึงบ้านฟรี โดยคาดว่าจะสามารถขายแอร์ได้ประมาณ 1 หมื่นเครื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทที่ผ่านมา ในปี 2556 มีรายได้ 3,639.46 ล้านบาท มีกำไร 320.57 ล้านบาท ปี 2557 มีรายได้ 3,440.11 ล้านบาท มีกำไร 241.43 ล้านบาท ปี 2558 มีรายได้ 3,394.56 ล้านบาท มีกำไร 143.15 ล้านบาท และปี 2559 มีรายได้ 2,545.63 ล้านบาท มีกำไร 119.81 ล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,251วันที่ 9 - 12 เมษายน พ.ศ. 2560