ครม.เห็นชอบเพิ่มวิธีการเสียค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงและสะพานผ่านบัตรอัตโนมัติ

04 ม.ค. 2560 | 15:05 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ม.ค. 2560 | 22:05 น.
วันที่ 4 มกราคม 2560  นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 4 มกราคม 2560 ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคมว่า  คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ประชุม เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2560 โดยมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงฯ ได้แก่

ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงและสะพาน พ.ศ. 2497  ครม. เห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้ยานยนต์บนทางหลวงและสะพาน พ.ศ. 2497 ซึ่ง เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกในการชำระค่าธรรมเนียมให้แก่ประชาชนผู้ใช้ยานยนต์จากเดิมที่ชำระด้วยเงินสด

เนื่องจากปัจจุบันมีปริมาณการจราจรบนสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งที่ 1 (หนองคาย – เวียงจันทน์) มีปริมาณรถหนาแน่นมากในวันจันทร์และวันศุกร์ และช่วงวันหยุดและเทศกาล เป็นเหตุให้เกิดการจราจรติดขัดบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมการใช้สะพาน หน่วยบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพไทย - ลาว (หนองคาย – เวียงจันทน์) ได้แก้ปัญหาโดยขยายช่องทางการจราจรเป็น 4 ช่องทาง และเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวกติดตั้งระบบเก็บค่าธรรมเนียมแบบใช้บัตรผ่านอัตโนมัติ ซึ่งดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้ใช้บริการได้ ร่วมกับระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมแบบชำระด้วยเงินสด เพื่อเพิ่มทางเลือกในการชำระค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ใช้ยานยนต์ รวมทั้งเพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วของผู้ใช้ยานยนต์และพัฒนาการให้บริการของกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

นอกจากนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ชี้แจงมาตรการเร่งด่วนและมาตรการระยะยาวด้านความปลอดภัยในการโดยสารรถตู้โดยสารสาธารณะ ดังนี้

มาตรการเร่งด่วน ประกอบด้วย

1. ให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ประกาศให้รถตู้โดยสารสาธารณะ ติดตั้ง GPS ควบคุมความเร็วทุกคัน ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2560 พร้อมติดตามและควบคุมการดำเนินการติดตั้ง GPS

2. ให้พนักงานขับรถมีใบขับขี่สาธารณะที่ถูกต้อง

3. ติดตั้งระบบแสดงผลความเร็วบนรถตู้โดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถทราบ

4. การตรวจสภาพรถตู้โดยสารสาธารณะ โดยมอบ ขบ. ตั้งหน่วยเคลื่อนที่ตรวจสภาพรถ ณ สถานีขนส่งต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อตรวจสภาพความพร้อมใช้งาน หากรถมีสภาพไม่พร้อมใช้งานให้สั่งพักงานทันที รวมทั้งมอบ ขบ. ประสานขอความร่วมมือสถาบันการศึกษา เช่น วิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยอาชีวศึกษา เพื่อสนับสนุนตรวจสภาพรถในแต่ละพื้นที่

5. พนักงานขับรถตู้โดยสารสาธารณะ ควรขับรถเกินวันละ 8 ชั่วโมง และต้องมีสมุดบันทึกการขับรถประจำรถทุกคัน และควรอบรมพนักงานขับรถก่อนการปฏิบัติงานทุกครั้ง เกี่ยวกับวินัย มารยาทในการขับรถ เครื่องแต่งกายต้องสุภาพเรียบร้อย และไม่ควรสวมรองเท้าแตะขับรถ

มาตรการระยะยาว ประกอบด้วย

1. จัดทำแผนด้านความเหมาะสมในการใช้รถตู้เป็นรถโดยสารสาธารณะ เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้บริการของผู้โดยสาร

2. การออกใบอนุญาตขับขี่ ควรบรรจุในแบบเรียน เพื่อปลูกฝังด้านวินัย มารยาทในการขับขี่ ซึ่งเป็นมาตรการที่ยั่งยืนในอนาคต

3. ควรพิจารณาเพิ่มบทลงโทษให้สูงขึ้น รวมทั้งการเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย