กลุ่มบันเทิงลุ้นรายได้โค้งท้าย หลังไตรมาส3ส่งสัญญาณดี

23 พ.ย. 2559 | 05:00 น.
เผยผลประกอบการไตรมาส 3 ธุรกิจบันเทิงส่งสัญญาณดี "แกรมมี่-อาร์เอส" จูงมือขาดทุนน้อยลง ขณะที่ "เวิร์คพอยท์-ทีวีธันเดอร์" โกยกำไร รอลุ้นต่อโค้งท้าย หลังสื่อโทรทัศน์งดเผยแพร่รายการ 30 วัน-ชะลอกิจกรรมอีเวนต์

นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ แกรมมี่ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยธุรกิจเพลงยังมีการเติบโตดี ในขณะที่ช่องทีวีดิจิตอลทั้ง 2 ช่องคือช่องวัน 31 และช่อง จีเอ็มเอ็ม 25 ยังคงเติบโตทั้งเรตติ้งและรายได้ โดยบริษัทมีรายได้รวม 2,062 ล้านบาท ลดลง 0.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,063 ล้านบาท มีผลขาดทุน 11 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงไตรมาส 3 ของปีก่อน 92% ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้กลยุทธ์ โทเทิล มีเดียโซลูชัน ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าในการใช้งบโฆษณาที่คุ้มค่า ผ่านการซื้อสปอต คอนเทนต์พร้อมต่อยอดไปสู่ดิจิตอลมีเดียและอีเวนต์ต่าง ๆ ด้วย

"ในครึ่งปีหลังคาดว่าสัดส่วนการรับชมทีวีดิจิตอลจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะด้านคอนเทนต์ ซึ่งจะสร้างความได้เปรียบให้กับบริษัท เพราะแกรม มี่มีจุดแข็งเรื่องของคอนเทนต์ และการนำเสนอที่โดนใจผู้บริโภค โดยแกรมมี่เองถือเป็นเทรนด์เซ็นเตอร์ในการนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในช่องทางดิจิตอลแพลตฟอร์มและโซเชียล ซึ่งพบว่า คอนเทนต์ของแกรมมี่ได้รับความสนใจจากยอดวิว ดาวน์โหลด ฯลฯ อยู่ในอันดับต้นๆ เลยทีเดียว"

สำหรับในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะปรับตัวลดลง รวมถึงการชะลอตัวของงานอีเวนต์ต่างๆ ส่งผลให้มูลค่าการใช้สื่อโฆษณาลดลงด้วย อย่างไรก็ดี เชื่อว่าภาพรวมของเศรษฐกิจในปี 2560 จะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้งการนำระบบการวัดเรตติ้งใหม่เข้ามาใช้ จะช่วยสะท้อนผลงานของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลให้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากขึ้น และจะส่งผลต่อผู้ประกอบการในระยะยาวด้วย

ด้านนายดามพ์ นานา กรรมการและประธานเจ้าหน้าฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3/2559 บริษัทมีรายได้ 714.9 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 105 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจสื่อ 532.5 ล้านบาท ธุรกิจจัดจำหน่ายเพลง 57.3 ล้านบาท ธุรกิจรับจ้างและผลิตกิจกรรม 75.5 ล้านบาท ธุรกิจสุขภาพและความงาม 49.5 ล้านบาท มีผลขาดทุน 61 ล้านบาท ลดลง 78.6 ล้านบาทจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 17.6 ล้านบาท โดยสาเหตุมาจากรายได้ธุรกิจโทรทัศน์ดาวเทียม ธุรกิจเพลง และธุรกิจรับจ้าง ผลิตกิจกรรมที่ลดลง

"ภาพรวมธุรกิจสื่อโทรทัศน์และวิทยุในไตรมาส 3 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 เล็กน้อย โดยพบว่าเม็ดเงินโฆษณาลดลง 1,506 ล้านบาทจากไตรมาส 3/2558 เป็นผลมาจากการลดลงของเม็ดเงินโฆษณาผ่านโทรทัศน์อนาล็อกและเคเบิล ดาวเทียม ขณะที่ทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้น 427 ล้านบาท หรือ 8.1% ส่วนวิทยุเพิ่มขึ้น 20 ล้านบาทหรือ1.4%"

แนวโน้มของธุรกิจในไตรมาส 4 ซึ่งหลังจากที่ต้องงดเผยแพร่รายการทั้งภาพและเสียงที่แสดงความรื่นเริงลง เป็นเวลา 30 วัน รายการปกติจะเริ่มกลับมาออกอากาศตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายนนี้

นายสุรการ ศิริโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาส 3/2559 เวิร์คพอยท์ฯ มีรายได้รวม (ไม่รวมรายได้อื่น) 776.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136 ล้านบาท คิดเป็น 21% แบ่งเป็นรายได้จากรายการโทรทัศน์ 707.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและละครเวที 43.62 ล้านบาท รายได้จากการรับจ้างจัดงาน 16.64 ล้านบาท มีกำไร 108.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134%

ขณะที่นางสาวนารี วิชชุนากร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 3 มีรายได้รวม 163.30 ล้านบาท มีกำไร 13.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 4.74 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการโฆษณา 109.43 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย หลังจากที่การใช้จ่ายเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีอนาล็อกลดลง ในขณะที่ทีวีดิจิตอลเพิ่มขึ้น และรายได้จากการให้บริการ 53.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.05 ล้านบาท จากการรับจ้างผลิตรายการให้กับช่องทีวีดิจิตอลและสื่อออนไลน์

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,211 วันที่ 20 - 23 พฤศจิกายน 2559