ธนาคารโลกยกอันดับประเทศไทยดีขึ้น 15 อันดับ“ทำธุรกิจและเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่าย”

27 ต.ค. 2559 | 08:28 น.
กระทรวงพาณิชย์ เผย ธนาคารโลกยกอันดับประเทศ ‘ทำธุรกิจและเข้าถึงเงินทุนง่าย’ ให้ไทยดีขึ้นถึง 15 อันดับ หลังพยายามพัฒนาและปรับปรุงบริการอย่างหนักเพื่อลดเวลา ลดขั้นตอนให้บริการ สุดท้ายตอบโจทย์ธนาคารโลก ส่งผลให้การจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยจะดีขึ้นตามมา คาดจะดึงให้นักลงทุนจากต่างประเทศสนใจตบเท้าเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่ทันสมัย และเศรษฐกิจสะพัดในระดับโลก ยืนยันจะทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่างสุดความสามารถเพื่อดันอันดับให้ไทยดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด

นางอภิรดี  ตันตราภรณ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่ธนาคารโลก หรือ World Bank เปิดเผยผลสำรวจการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ หรือ Doing Business 2017 ซึ่งประเทศไทยดีขึ้น 3 อันดับ โดยเลื่อนขึ้นจากอันดับ 49 ในปีที่แล้วมาเป็นอันดับ 46 ในปีนี้ โดยเฉพาะส่วนของตัวชี้วัด 2 ด้านที่กระทรวงพาณิชย์ได้พยายามพัฒนามาอย่างต่อเนื่องทำให้มีอันดับที่ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับผลการจัดอันดับของ 2016 คือ ตัวชี้วัด ‘ด้านการเริ่มต้นธุรกิจ’ (Starting a Business) ซึ่งได้ปรับอันดับขึ้น 15 อันดับ จากเดิม 93 เป็นอันดับที่ 78 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปรับลดขั้นตอนการจดทะเบียนธุรกิจให้สะดวกขึ้นจากเดิม 6 ขั้นตอน ใช้เวลา 27.5 วัน เหลือเพียง 5 ขั้นตอน ใช้เวลา 25.5 วัน โดยปรับลดระยะเวลาการจัดทำตรายางลงเหลือ 2 วัน จากเดิม 4 วัน และการลดขั้นตอนของการชำระค่าธรรมเนียมมาควบรวมกับขั้นตอนจดทะเบียนตั้งบริษัทให้อยู่ ณ จุดบริการเดียวกัน โดยให้นายทะเบียนเป็นผู้รับจดทะเบียนและรับชำระฯ ช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความรวดเร็วยิ่งขึ้น ปัจจุบันขั้นตอนและระยะเวลาในการเริ่มต้นธุรกิจมี ดังนี้ 1) การจองชื่อบริษัท 0.5 วัน 2) การชำระเงินทุนเข้าธนาคาร 1 วัน 3) การจัดทำตราประทับ 2 วัน 4) การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท การขอเลขที่บัญชีนายจ้าง 1 วัน และการยื่นสำเนาข้อบังคับ (กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน) 21 วัน และ 5) การจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (กรมสรรพากร)

สำหรับตัวชี้วัด‘ด้านการได้รับสินเชื่อ’ (Getting Credit) ได้ปรับขึ้น 15 อันดับ จากเดิม 97 เป็นอันดับที่ 82 ซึ่งกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจที่กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นหน่วยงานที่ดูแลเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น และสามารถต่อยอดกิจการได้อย่างราบรื่น จะทำให้มีผลต่อการจัดอันดับด้านการได้รับสินเชื่อดีขึ้น โดยคาดว่าในปี 2018 เมื่อผลของการบังคับใช้กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจเห็นผลเป็นรูปธรรมจะทำให้อันดับด้านการได้รับสินเชื่อดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มั่นใจว่าผลการจัดอันดับในปี 2018 ไทยจะมีอันดับที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดแผนงานเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจเพิ่มเติม คือ การปรับปรุงแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 118 เพื่อ ‘ยกเลิกตราประทับ’ ในการจดทะเบียนบริษัท ซึ่งมาตราฯ ดังกล่าว กำหนดให้กรรมการลงลายมือชื่อเองคนหนึ่งเป็นอย่างน้อย และต้องประทับตราใบหุ้นทุกใบ หากดำเนินการแก้ไขแล้วเสร็จจะช่วยลดเวลาและขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจได้ถึง 2 วัน และในอนาคตอันใกล้นี้ กระทรวงพาณิชย์จะนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการอำนวยความสะดวกด้านการจดทะเบียนธุรกิจผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ทำให้ประหยัดเวลาในการเดินทางและประหยัดทรัพยากรกระดาษได้ยิ่งขึ้น (Paper Less) รวมไปถึงการปรับปรุงหลักเกณฑ์และกฎหมายต่างๆ อาทิ ลดจำนวนผู้เริ่มก่อการเหลือเพียง 2 คน การประชุมผ่านอิเล็กทรอนิกส์ กฎหมายว่าด้วยบริษัทจำกัดคนเดียว เป็นต้น

สำหรับผลการจัดอันดับ Doing Business 2017 ภาพรวมของไทยอยู่ในอันดับที่ 46 จาก 190 ประเทศ และอยู่อันดับที่ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ และมาเลเซีย ตามลำดับ รวมทั้งสามารถลดช่องว่างการดำเนินงานและช่วงห่างจากประเทศชั้นนำต่างๆ ได้ ด้วยคะแนนที่เพิ่มขึ้นเป็น  72.53 จากเดิมอยู่ที่ 71.65 คะแนน ซึ่งตัวชี้วัดของไทยที่ดีขึ้นครั้งนี้จะมีความสำคัญอย่างมากเพราะมีผลเชื่อมโยงไปสู่การจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ซึ่งจัดโดย International Institute for Management Development: IMD และ World Economic Forum : WEF ให้อยู่ในอันดับที่ดีขึ้นเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติต่อไป