‘ซาวเทิร์น คอฟฟี่’ เพิ่มสปีด บุกหนักแฟรนไชส์ร้านกาแฟ

ซาวเทิร์น คอฟฟี่ รุกหนักแฟรนไชส์ร้านกาแฟ ส่งโมเดลตั้งแต่เคาน์เตอร์ ยันคอฟฟี่ โมบายรุกขยายสาขาทั้งในและนอกห้าง ก่อนลุยต่างประเทศ หวังดันยอดขายโต 100% ต่อปี

นายบุรธัช โชติช่วง ประธานบริษัท ซาวเทิร์น คอฟฟี่ จำกัดผู้บริหารแฟรนไชส์ร้านกาแฟ “ซาวเทิร์น คอฟฟี่” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นโยบายของบริษัทยังคงเดินหน้ารุกขยายธุรกิจในรูปแบบของแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่องจากปัจจุบันที่มีร้านแฟรนไชส์รวม 133 แห่งทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่จะเปิดให้บริการในโมเดิร์นเทรด์ ทั้งเทสโก้ โลตัส , บิ๊กซี , เซ็นทรัล , โรบินสัน ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีแฟรนไชส์ในหลากรูปแบบ ได้แก่ เคาน์เตอร์ขนาด 1.5-2 เมตร และขนาด 2-3 เมตร, ร้านแบบมีที่นั่ง ขนาด 20 ตรม.และขนาด 40-80 ตรม. , ร้านแบบสแตนด์อะโลน ขนาด 80 ตรม. , รถคอฟฟี่ โมบาย พร้อมอุปกรณ์ครบเซ็ต นอกจากนี้ยังมีร้านขนาดใหญ่ 195 ตรม. พร้อมอุปกรณ์ครบเซ็ต โดยใช้เงินลงทุนเริ่มตั้งแต่ 3.5 แสน – 5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่

โดยจุดเด่นของซาวเทิร์น คอฟฟี่ คือ นอกจากจะมีเมนูกาแฟ หลากหลายให้ลูกค้าเลือก ยังมีเมนูอาหารเช้า และเมนูพิเศษ อาทิ เค้ก ฮันนี่โทสต์ สปาเก็ตตี้ เฟรนฟรายโดยร้านแฟรนไชส์จะได้สิทธิในการบริหารจัดการสามารถสร้างร้านเองได้โดยใช้แบบที่บริษัทกำหนด หรือให้ทางบริษัทหาผู้รับเหมาสร้างให้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ในส่วนของบริษัทจะเป็นผู้จำหน่ายวัตถุดิบให้ลูกค้าบริหารจัดการ เพื่อให้ได้รสชาติที่เหมือนกันทุกแห่ง

“จุดเด่นของซาวเทิร์น คอฟฟี่ คือ การผสมผสานเมล็ดกาแฟจาก 2 สายพันธุ์ ได้แก่ โรบัสต้าจากภาคใต้ และอาราบิก้าจากภาคเหนือ ทำให้มีรสชาติที่โดดเด่น โดยปัจจุบันซาวเทิร์น คอฟฟี่มีส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มร้านกาแฟระดับแมส 10 % โดยผู้นำตลาดได้แก่ อเมซอน ด้วยส่วนแบ่งตลาด 70 % จากตลาดธุรกิร้านกาแฟ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มได้แก่ กลุ่ม A มีสัดส่วนตลาดราว 30 % มีแบรนด์สตาร์บัคส์ เป็นผู้นำตลาด ตามด้วย คอฟฟี่เวิล์ด ฯลฯ กลุ่มB มีสัดส่วนตลาด 50 % มีแบรนด์อเมซอนเป็นผู้นำตลาด ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มC ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่จำหน่ายในราคา 25-35 บาทและกลุ่มดี เป็นร้านกาแฟที่จำหน่ายในราคา 15-20 บาท”

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก 36-50 แห่ง พร้อมขยายสาขาในต่างประเทศเพื่อรองรับการเติบโตของตลาดอาเซียน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเติบโต 100 % ต่อปี นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ผ่านทางโซเชียล เน็ตเวิร์ค รวมทั้งการทำโปรโมชั่น ณ จุดขาย เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้ามากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ดี ธุรกิจร้านกาแฟถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ดังนั้นผู้ประกอบการจำเป็นต้องสร้างจุดแข็ง ทำให้สินค้ามีความโดดเด่น แตกต่างและต้องมีความอดทนใจการทำธุรกิจ

Photo : southerncoffee
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,204 วันที่ 27 - 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559