รัฐบาลปี 4 ต้องมุ่งมั่น บริหารบ้านเมือง มากกว่าการเมือง

04 ส.ค. 2565 | 02:00 น.

บทบรรณาธิการ

จากนี้ไปถึงต้นปี 2566 หากนายกรัฐมนตรีไม่ตัดสินใจยุบสภาเพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน จะครบวาระ 4 ปี นับแต่มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุดเมื่อ 24 มี.ค.2562 และต้องจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ ซึ่งจะมีผลให้ต้องจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เป็นลำดับหลังจากนั้น ช่วงเวลานี้จึงนับว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านสู่รัฐบาลใหม่

 

เพื่อเตรียมรับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น เวลานี้พรรคการเมืองต่างเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก ทั้งการเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ การเปิดตัวผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรคในสนามเลือกตั้งเขตต่าง ๆ ให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งได้รับรู้กันแต่เนิ่น ๆ รวมถึงการลงพื้นที่พบปะประชาชนในเขตเลือกตั้ง กำลังโยกย้ายสังกัดเปลี่ยนพรรคของนักการเมือง เพื่อโอกาสสูงสุดในการเลือกตั้งครั้งใหม่ ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลทางการเมือง

เช่นกันการเมืองปีที่ 4 ท้ายสมัยของสภาฯ หรือวาระรัฐบาลนั้น มักเจอแรงเสียดทานที่จะเขย่าเสถียรภาพทางการเมือง ทั้งความไม่นิ่งของบรรดาส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล แรงกดดันให้ต้องเร่งอนุมัติแผนงานโครงการไปลงพื้นที่ หรือออกนโยบายที่มัดใจประชาชน เพื่อให้ผู้สมัครพรรคร่วมรัฐบาลได้ใช้หาคะแนนนิยม ขณะที่รัฐมนตรีของพรรคก็ถูกคาดหวังให้ต้องร่วมสนับสนุนการรณรงค์หาเสียงของพรรคที่จะมาถึง

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำรัฐนาวาฝ่ามรสุมการเมืองมา 3 ปีกว่า โดยส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการรับมือวิกฤติโรคระบาดเชื้อโควิด-19 จนเริ่มคลี่คลาย ได้บริหารการเมืองจนผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้านจนถึงครั้งล่าสุด ก็จะเหลืออีกเพียงการประชุมสมัยสามัญครั้งสุดท้ายช่วงปลายปีนี้ต่อต้นปีหน้า ก่อนจะนับถอยหลัง ครบวาระสภาผู้แทนราษฎรดังกล่าว และเป็นช่วงท้ายการบริหารของรัฐบาลชุดนี้  

วาระงานหลักนอกจากการจัดประชุมสุดยอดผู้นำ APEC ที่กรุงเทพฯ ปลายปีนี้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ มุ่งมั่นให้ไทยได้แสดงบทบาทบนเวทีนานาชาติ ในยุคโลกปั่นป่วนจากภาวะวิกฤติซ้ำซ้อน ทั้งความขัดแย้งถึงขั้นสงครามที่เกิดแล้วคือยูเครน-รัสเซีย ที่ร้อนสุดขีดคือ กรณีไต้หวัน ที่อาจเป็นชนวนเผชิญหน้าจีน-สหรัฐฯ ราคาน้ำมัน-พลังงาน วิกฤติอาหาร ยังมีกระแสทุนผันผวนจากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และธนาคารกลางชาติมหาอำนาจเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ที่กำลังส่งคลื่นกระแทกขึ้นฝั่งแต่ละประเทศเป็นลำดับ

 

แม้เป็นรัฐบาลช่วงท้ายสมัย แต่พอดีอยู่ในจังหวะที่ต้องคัดท้ายหางเสือประเทศไทยอย่างระมัดระวัง และจะเสียสมาธิไม่ได้ เพราะเป็นช่วงที่ไทยจะเผชิญทั้งวิกฤต และหากเราเตรียมตัวได้ดี ดูแลภาคเศรษฐกิจไทยให้มีศักยภาพ บ่มเพาะทักษะและความแข็งแรงได้มากพอ ที่จะกระโจนคว้าโอกาสที่มี ให้ประเทศขึ้นชั้นไปอีกระดับหลังพายุสงบได้

 

เป็นอีกโอกาสที่ท้าทายความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรี ที่จะจัดทัพปรับขบวนคณะรัฐมนตรี อย่างน้อยมี 2 เก้าอี้ที่ว่างอยู่ เพื่อเป็นทีมงานสร้างอนาคตประเทศ แม้เป็นรัฐบาลปีที่ 4 ก็ต้องมุ่งมั่นบริหาร “บ้านเมือง” ยิ่งกว่า “การเมือง” เพราะวิกฤติและโอกาสไม่รอท่า