KEY
POINTS
*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ “ลึก ตรงประเด็น เห็นโอกาส” ฉบับ 4,161 ระหว่างวันที่ 28-31 ธ.ค.2568 โดย...กาแฟขม
*** ลาทีปีมะเส็ง 2568 งูเล็ก เล่นงานประเทศไทยสะบักสะบอม ทั้งธรรมชาติเล่นงาน ทั้งมนุษย์ที่ก่อขึ้น ล้วนเป็นเหตุการณ์หนักๆ ทั้งนั้นที่กระทบ เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีไป 2 คน จาก แพทองธาร ชินวัตร ไปสู่ อนุทิน ชาญวีรกูล ที่บอกว่าหนักจากธรรมชาติปลายปีฝนกระหนํ่าจนภาคใต้และหาดใหญ่จมนํ้าเข้าขั้นวิกฤติมหาอุทกภัย เสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน นำไปสู่การโจมตีรอบทิศ และคำถามเซ็งแซ่ไปถึงการบริหารจัดการภัยพิบัติของรัฐบาลภายใต้การนำของ นายกฯ หนู คะแนนตกตํ่าดำดิ่ง ด้วยเห็นว่า บริหารจัดการไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ทั้งช่วงนํ้าท่วมและหลังนํ้าลด
*** ต้นปีในเดือน มี.ค. 2568 เราเจอแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์รอบ100 ปี แม้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวไม่ได้เกิดขึ้นในไทย แต่ในพื้นที่เมืองหลวง กรุงเทพฯ ตึกอาคาร สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่กำลังก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ ต้องถึงขั้นพังถล่มลงมา มีผู้คนบาดเจ็บ ล้มตาย สูญหาย คำถามถึงระบบเตือยภัย การป้องกันภัยพิบัติดังกระหึ่ม เรามีการเตรียมความพร้อมมากพอหรือไม่ มีมาตรฐานเพพียงพอระดับสากลหรือไม่ หรือมาตรฐานแบบไทยๆ ให้ต้องสูญเสียไปกี่ชีวิตซํ้าแล้วซํ้าเล่าจึงจะได้บทเรียน
*** เราเจอสงครามชายแดนกับเพื่อนบ้านกัมพูชา เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ด้วยปัญหาเขตแดนที่เป็นข้อพิพาท มีการถล่มกันด้วยอาวุธหนัก อาวุธเล็ก มีการวางทุ่นระเบิดจากกัมพูชา ทำให้ทหารหาญไทยที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติและรักษาพื้นที่ชายแดน ต้องบาดเจ็บ ล้มตาย พิการสูญเสียขา ตลอดจนพลเรือนต้องถูกลูกหลงล้มตายไปหลายคนเช่นเดียวกัน พร้อมกับการอพยพ พลัดที่นาคาที่อยู่ หลบภัยในศูนย์อพยพ รอบแรก รอบ 2 เมื่อมีการปะทะในพื้นที่ใดบนโลก ย่อมมีการแหย่ขาเข้ามาของมหาอำนาจ ในนามของความสงบเรียบร้อย แต่แฝงไปด้วยสายตาที่มุ่งหาประโยชน์กับชาติเล็กๆ
*** เราเจอปัญหาเศรษฐกิจตกตํ่า มีการประมาณการจากสำนักมาตรฐานอย่างสภาพัฒน์ ที่ให้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้แค่ 2 % เท่านั้น จากปีก่อน(2567)ที่ขยายตัว 2.5% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยอยู่ที่ (-0.2%) และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 2.8% ของ GDP เศรษฐกิจตกสะเก็ด ชักหน้าไม่ถึงหลัง คนไทยหนี้ท่วม จมกองหนี้ หาทางออกไม่ได้ ผลิตสินค้าขายไม่ออกเจอสินค้านอกถูกๆ กระหนํ่าใกล้พินาศสิ้นแล้ว เปิดให้ต่างชาติโร่เข้ามาทำมาหากินในประเทศได้อย่างเสรี แม้อาชีพบางอย่างสงวนไว้สำหรับคนไทยก็ไม่เว้นวาย
*** เราเจอปัญหาใหญ่อย่าง สแกมเมอร์ หลอกลวงคนไทยสิ้นเนื้อประดาตัวสูญเงินนับแสนนับล้านบาท หลายๆ ล้านบาท ไม่เฉพาะปีนี้ เป็นปัญหาต่อเนื่องมา 3-4 ปีหลัง แต่ไม่มีใครในบรรดาผู้มีอำนาจรับผิดชอบเข้มข้นจริงจังที่จะปราบปรามให้บรรเทาเบาบาง ทั้งที่ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับโลก เป็นวาระของโลกไปแล้ว มีเหยื่อที่ถูกไล่ล่าจากแกงค์สแกมเมอร์จำนวนมากขึ้นๆ ทุกวัน
ขณะที่พวกนี้ วนเวียนหากินอยู่ในไทยบ้าง ประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา เมียนมา บ้าง ได้เงินจากการหลอกลวง ก็นำกลับมาฟอกในไทยถ้ามีโอกาส จนห้วงปลายปีที่ถูกกดดันหนักขึ้น จึงได้มีการปราบมากขึ้น พร้อมการ ยึดทรัพย์พอได้แลเห็น
*** ปีที่แย่สำหรับประเทศไทย เรื่องใหญ่ เรื่องสำคัญ เรื่องทุนเทา การพัวพันแก๊งสแกมเมอร์ ทำให้ไทยถูกมองด้วยสายตาที่คลางแคลงจากนานาชาติ และต้องพึงระวังอย่างยิ่งยวด หนักเข้าถูกมองเป็นสวรรค์ของแก๊งอาชญากรข้ามชาติ ไม่เฉพาะสแกมเมอร์เท่านั้น เรื่องนี้จะส่งผลอย่างใหญ่หลวง นักลงทุนต่างชาติที่สุจริต ไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย มุ่งหน้าไปที่อื่นดีกว่า และยิ่งถ้าหากทุนเทาอิงแอบอำนาจรัฐได้ กลุ่มคนสุจริตเขาจะมีต้นทุนสูงในการเข้ามาแข่งขัน สู้ไปประเทศอื่นดีกว่า เมื่อนักลงทุนต่างชาติที่ดีไม่มา เราก็จะพากันลงหุบเหว ได้เวลาปราบกันจริงๆ เสียที ทุกองคาพยพต้องเคลื่อนพร้อมกัน การบังคับใช้กฎหมายต้องเข้มแข็ง
*** ลาแล้วปีงูเล็ก..ที่ร้ายกาจ เผชิญหน้ากับอุปสรรคมามากแล้ว...ปีหน้าฟ้าใหม่ ปี 2569 ปีม้าทอง ขอให้พี่น้องชาวไทย หลุดพ้นภัยพาล ผ่านพ้นวิบากกรรม พบเจอแต่เรื่องดีๆ มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง มีครอบครัวอบอุ่น เข้มแข็ง มุ่งมั่นในอุดมการณ์ พร้อมเผชิญปัญหาอุปสรรคอย่างไม่พรั่น ไม่ดึงดันดั้นด้นในอบาย ได้ผู้บริหารประเทศที่โปร่งใส ขี่ม้าขาวนำพาชาติผ่านวิกฤตด้วยเถิด
หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,161 วันที่ 28 -31 ธันวาคม พ.ศ. 2568