คนไทยขี้สงสาร ระวังคดี“ทักษิณ” พลิกเกมเลือกตั้ง 2569

*** คอลัมน์ฐานโซไซตี หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ “ลึก ตรงประเด็น เห็นโอกาส” ฉบับ 4151 ระหว่างวันที่ 23- 26 พ.ย.2568 โดย...กาแฟขม

*** ประเทศไทยยามนี้โฟกัสอยู่ไม่กี่เรื่อง ใหญ่ๆ ก็ไม่พ้นความสัมพันธ์กัมพูชา ที่เลวร้ายลงและพัวพันลากโยงไปสู่เรื่องต่างๆมากมาย เลวร้ายลงเมื่อมีทุ่นระเบิดใหม่ และมีทหารไทยต้องสังเวยขาเป็นรายที่ 7 และเป็นทุ่นระเบิดที่ทำให้บาดเจ็บพิการหลังการลงนามปฏิญญาสันติภาพไทย-กัมพูชา ที่มี มาเลเซีย และ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐเป็นสักขีพยาน เมื่อเป็นเช่นนั้นกระแสเรียกร้องในไทยพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีระกูล ให้จัดการขั้นเด็ดขาดกับกัมพูชา ตรงนี้อาจพิสูจน์ความเป็นผู้นำของ อนุทิน ได้ส่วนหนึ่ง จะเต้นไปตามกระแส หรือ คลี่คลายสถานการณ์ที่กดดันเหมือนก้อนหินทับอก จะยกออกไปอย่างไร

*** อนุทิน เลือกใช้วิธีตีตรงไปที่ปฎิญญาสันติภาพก่อนหน้าที่เซ็นกันไปที่กัวลาลัมเปอร์ เมื่อลงนามแล้วไม่ทำตามข้อตกลง ยังมีการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ฉะนั้นจำต้องพักปฏิญญาชั่วคราว จนกว่ากัมพูชาจะมีท่าทีดีขึ้น พร้อมกับร้องบอกนานาประเทศ เชิญเข้าไปตรวจสอบพร้อมๆ กัน และเดินหน้าในการเก็บกวาดทุ่นระเบิด โดยฝ่ายทหารดำเนินการได้อย่างเต็มที่ทันทีตามสถานการณ์ความจำเป็นหน้างาน พร้อมกับความแข็งกร้าวไปที่สหรัฐ ไม่จำเป็นต้องใช้เรื่องการการค้า การส่งออกมาขู่ ไทยจำเป็นต้องรักษาอธิปไตยเป็นประการแรกก่อน ส่งออกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หาตลาดอื่นทดแทน

*** ท่าทีเบื้องแรกจากนายกฯ ซึ่งลดแรงเสียดทานของกลุ่มคนกลางๆ และมีความเป็นห่วงในเรื่องยุทธศาสตร์การเมืองต่างประเทศลงไปได้บ้าง แต่อาจไม่สามารถผ่อนแรงกดดันจากกลุ่มที่ต้องการให้รบอย่างเดียวได้ลง (กลุ่มชาตินิยมจัด) การจะรบอันที่จริงไม่ยาก ด้วยศักยภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ ขีดความสามารถของกองทัพไทยเหนือกว่าเป็นกระบุง แต่ต้องไม่ลืมว่าผลีผลามรบ ต้องมีค่าใช้จ่าย ถ้ายืดเยื้อต้องจ่ายเป็นหมื่นล้าน คุ้มหรือไม่กับการเปิดศึก ลำพังเรื่องการค้าที่สหรัฐจับโยงสันติภาพก็เสียหายไม่น้อย

*** ประเด็นถัดมาที่คอการเมืองติดตามแบบไม่กระพริบตา จะมีการยุบสภา 31 ม.ค.หรือไม่ หรือ จะยุบก่อนหน้านั้น ก่อนหน้านี้นายกฯ ก็ออกมายืนยันยุบสภา 31 ม.ค.2569 แต่ขู่ๆ กลายๆ ยุบก่อนก็ได้ ห้วงนี้ก็ถกเถียงกันอยู่ 12 ธ.ค.เปิดสมัยประชุมสภาฯ ถ้ามีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระหว่างรอบรรจุญัตติ หรือ ตรวจสอบญัตติ นายกฯ จะยุบสภาได้หรือไม่ ฝ่ายประธานสภาฯ บอกยุบไม่ได้ ฝ่ายกฎหมายฝั่งรัฐบาลจะเริ่มห้ามยุบได้ต่อเมื่อญัตตินั้นถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ บรรจุระเบียบวาระ และแจ้งให้นายกฯทราบ ตามข้อบังคับการประชุม เป็นความเห็น 2 ข้างกันอยู่ทางด้านกฎหมาย ก็ว่ากันไป 

ประเด็นที่พ่วงๆ มาเรื่องการเมืองเป็นการย้ายขั้ว เปลี่ยนค่าย ทำลายคู่แข่งกันและกัน งัดสารพัด อย่างกรณี ทักษิณ ชินวัตร ที่บังเอิญ 2 เรื่องมาบรรจบพร้อมกันทั้งอุทธรณ์คดี 112 กับการเรียกภาษีขายหุ้นชินคอร์ป 1.76 หมื่นล้าน นักวิเคราะห์การเมืองก็วิเคราะห์กันอึงมี่ บ้างก็ว่าคราวนี้เห็นทีผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทยจะเรียบร้อย แต่ก็ต้องระวังให้ดีคนไทยขี้สงสารระวังจะตีกลับ

*** ทำงานไม่หยุด ต้องคนนี้ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคลัง จับมือกับไมโครซอฟท์ที่ประกาศแผนงานภายใต้แนวคิด “สร้างอนาคตประเทศไทยด้วย AI” โรดริโก เคเด ลิมา ประธาน ไมโครซอฟท์ เอเชีย บินมาเอง ยืนยันความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ สนับสนุนเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของไทย ตอกยํ้าความร่วมมือกับรัฐบาลไทย ในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรม ที่สร้างประโยชน์ให้กับคนไทยทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรม นำพลัง AI-นวัตกรรม เร่งขับเคลื่อนการเติบโตให้ไทย จะพัฒนา Cloud Region ในประเทศ ส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลและ AI และยกระดับศักยภาพด้านนวัตกรรมของภาคธุรกิจและชุมชนนักพัฒนาในไทย รวมถึงการร่วมก่อตั้งศูนย์นวัตกรรม AI แห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานในด้านต่าง ๆ ให้บรรลุผลสำเร็จ

*** ที่ต้องลุ้นและติดตามงานด้านเศรษฐกิจช่วงนี้ มีเรื่องปลดล็อกให้ลงทุนสะดวก ที่รองนายกฯเอกนิติ จะนำ “Fast Pass” มาใช้ปลดล็อก แต่ต้องสู้รบปรบมือกับหลายหน่วยราชการ ที่มักจะใช้ดุลพินิจ พิจารณา ซึ่งดุลพินิจนี่แหล่ะที่ก่อปัญหาหลายประการ ที่ทำให้เกิดความล่าช้า ต้องตามดูฟาดได้หรือไม่ และโครงการไดเร็ค พีพีเอ 2 พันเมกะวัตต์ ที่ อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รมว.พลังงานจะเข็นออกมา มีหลายคนรอด้วยใจจดใจจ่อกันเลยทีเดียว 

หน้า 4 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,151 วันที่ 23 -26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568