เศรษฐกิจถูกรุมเร้ารอบทิศ รอเวลาพิสูจน์ฝืมือ “รัฐบาลเศรษฐา”

05 ต.ค. 2566 | 05:40 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ต.ค. 2566 | 05:50 น.

เศรษฐกิจถูกรุมเร้ารอบทิศ รอเวลาพิสูจน์ฝืมือ “รัฐบาลเศรษฐา” คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...กาแฟขม

***หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3829 ระหว่างวันที่ 5-7 ต.ค.2566 โดย...กาแฟขม

*** พายุฝนฟ้าคะนองกระจายไปทั่วในหลายพื้นที่ช่วงนี้ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัด พืชผลเกษตรเสียหายหลายรายการ ซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ให้ซึมเซาทรุดลงไปอีก เรียกว่าสถานการณ์เศรษฐกิจถูกรุมเร้ารอบทิศ มองไปทางไหนก็เหี่ยวเฉา ไม่สดใส คนไทยหน้าซีดเซียว แม้ได้ รัฐบาลเศรษฐา เข้ามาแล้วก็ตาม แต่ก็ถือว่าเพิ่งออกสตาร์ททำงาน คงต้องให้เวลาพิสูจน์อีกช่วงใหญ่ เดี๋ยวก็รู้ว่าของจริงหรือปลอมทำเหมือนหรือไม่

*** เข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายกันแล้ว ทุกคน ทุกองค์กรก็ต้องฮึดเต็มที่ เพื่อปิดปีให้สวยงามเท่าที่ทำได้ตามศักยภาพลักษณะธุรกิจ ลักษณะอาชีพ กูรูหลายท่านบอกตรงกัน ว่าด้วยเศรษฐกิจแล้ว มีความเชื่อมั่นผสมอยู่สูงมาก หากคนไม่เชื่อ ไม่ใช้จ่ายทุกอย่างก็ฝืด ช็อต ไม่หมุนเวียน แต่หากคนเชื่อ คนมีความคาดหวัง มีการใช้จ่ายเพราะมั่นใจกับรายได้ข้างหน้า ย่อมทำให้เกิดความสะพัด เงินสะพัด มีการหมุนเวียน และเศรษฐกิจค่อยฟื้นตัวขึ้น

ตรงนี้ก็พอจะแลเห็นกันได้ รัฐบาลจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีแผนงานที่ชัดเจน และเริ่มลงมือปฏิบัติให้เห็นตามแผนงานที่วางไว้ทีละสเต็ป ตามลำดับความสำคัญของงานในแต่ละเรื่องที่วางไว้ ที่สำคัญต้องมีความโปร่งใสในการปฏิบัติงานเป็นลำดับแรกๆ ไม่ใช่ขึ้นต้นก็เหลวเป๋วไม่เข้าท่า ก็โอกาสจบเห่มีสูง

*** ไม่รู้จะเกิดความเชื่อมั่นขึ้นมาได้บ้างหรือไม่ ต้องลองหันไปฟัง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ดูบ้างในการมอบนโยบายและแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 รัฐบาลมั่นใจทิศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จะทำให้เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำไปอยู่ที่ 400 บาทต่อวันได้โดยเร็วที่สุดเป็นสเต็ปแรก การดำเนินงานหลากหลายนโยบายของรัฐบาล จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และทำให้รัฐบาลสามารถปรับค่าแรงขั้นต่ำตามเศรษฐกิจได้ เป็น 600 บาทต่อวัน เงินเดือนผู้เรียนจบปริญญาตรี 25,000 บาท ได้ภายในปี 2570

รัฐบาลจะดูแลคนทำงานให้มีรายได้ที่เป็นธรรม มีปริมาณและรายได้ที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที รวมถึงดูแล สนับสนุน สิทธิมนุษชน และความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่ม ทั้งชนกลุ่มน้อย ผู้พิการ คนท้อง คนชรา เด็ก กลุ่มความหลากหลายทางเพศเร่งรัดการทำให้คนทำงานมีสิทธิพื้นฐานครบถ้วนโดยเร็ว และทำแผนดูแลในบางกลุ่มเปราะบางเพิ่มเติมด้วย และสุดท้าย รัฐบาลและราชการ จะต้องทำงานเพื่อบริการประชาชนให้ดีขึ้น

*** รัฐมนตรีที่มอบหมายไปทำหน้าที่แต่ละกระทรวง ไม่กี่วันที่ผ่านมาเข้ากระทรวงไปก็คึกคักยิ่ง เริ่มเปิดแผนให้เห็นว่าจะทำอะไร อย่างไร เมื่อไร บางกระทรวงก็เงียบเชียบอยู่บ้าง บางกระทรวงก็เลยธงไปไกล แต่ที่ไม่เปิดแผน แต่กระทำในทางลับ เรื่องเกี่ยวพันคดีความในอดีต ว่าด้วยเรื่องข้าว ก็แอบได้ยินมาข้าราชการ ก็จะลำบากใจมากหน่อย เอากันพอเหมาะพอสมว่ากันตามกระบวนการ พยาน หลักฐานและข้อกฎหมาย อย่าไปพยายามพลิกอะไรให้กลับกลายมากจนไป ข้าราชการเองก็เช่นกัน บทเรียนในอดีตก็มีให้เห็นมาเยอะแล้ว การนิ่งเฉย การเข้าด้วยช่วยเหลือนักการเมืองมีบทสรุปเช่นไร ให้เข้าใจตรงกัน ไม่มีใครสามารถปิดฟ้าด้วยฝ่ามือเดียว

*** ว่าด้วยเรื่องข้าว เกี่ยวพันคนหลายครอบครัว หลายล้านคน เกี่ยวพันเศรษฐกิจส่งออกเป็นแสนล้าน ฉะนั้นการบริหารจัดการต้องทำให้ดี วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ตอนนี้เรื่องพันธุ์ข้าวหอม เจ้ากรรมที่ไหนไปเรียก หรือ ไปอนุมานเอาว่าข้าวหอมพวง ซึ่งเป็นข้าวนุ่มมีความหอมพอสมควร เป็นข้าวหอมเวียดนาม ซึ่งมีผลผลิตต่อไร่สูง ก็เกิดความเหนียมอาย ไม่ได้รับการยอมรับ แล้วไปหวาดวิตกว่าไปเอาพันธุ์เขามาแล้วจะตีตลาดข้าวหอมมะลิของไทยเสียหาย แต่ได้โปรดพิจารณาข้อเท็จจริง แหล่งที่มาก็พิสูจน์ไม่ได้ว่าเป็นพันธุ์เอามาจากเวียดนาม แต่ลักษณะกายภาพอาจใกล้เคียง หลายคนกระมิดกระเมี้ยนว่าไปเอาพันธุ์เขามา แต่ในทางความเป็นจริงถูกพัฒนากลับกลายจนไม่รู้แหล่งที่มาไปแล้วไม่ใช่หรือ

แล้วด้วยผลผลิตต่อไร่ที่สูง ชาวนาปลูกได้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ลดต้นทุนการผลิตลง ขายได้ราคาเหมาะสม พอลืมตาอ้าปากได้ แล้วอย่างนี้จะตัดออกจากสาระบบไปเชียวหรือ พิจารณาหรือวิพากษ์ วิจารณ์กันให้ดีๆ เป็นผลเสีย หรือ ผลดีต่อชาวนากันแน่ หรือเพียงแค่ทางการเราผู้มีหน้าที่ไม่ได้เข้าไปร่วมแต่ต้นในการพัฒนาสายพันธุ์ จึงไปตัดออกหรือไม่สนใจ โดยไม่คำนึงถึงรายได้ชาวนากระนั้นหรือ