รู้เรื่องนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วป่านนี้รวยไปแล้ว

20 ส.ค. 2568 | 22:30 น.

รู้เรื่องนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วป่านนี้รวยไปแล้ว โดยโค้ช Goii ปริญญา นิรนาทล้ำพงศ์ Super Trader

KEY

POINTS

  • "รู้เรื่องนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วป่านนี้รวยไปแล้ว" บทเรียนการจัดพอร์ตลงทุนสไตล์ Passive Income เน้นหุ้นปันผล-ETF กระจายความเสี่ยง รับกระแสเงินสดต่อเนื่อง
  • ครึ่งหนึ่งถือหุ้นกิจการจริง จ่ายปันผลสม่ำเสมอ กราฟไม่ขาลง พื้นฐานแข็งแรง อีกครึ่งกระจายไป ETF ใหญ่ S&P, Nasdaq, ทองคำ และ Bitcoin เพื่อสมดุลความเสี่ยง
  • หัวใจคือเข้าใจสินทรัพย์ ไม่ไล่ตามผลตอบแทนเกินจริง เพราะ Yield สูงผิดปกติมักมาพร้อมความเสี่ยงสูงสุด การลงทุนต้องยั่งยืนและสม่ำเสมอ

รู้เรื่องนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วป่านนี้รวยไปแล้ว โดยโค้ช Goii ปริญญา นิรนาทล้ำพงศ์  Super Trader

 

ปรกติผมมีการจัดพอร์ต Store of Value ซื้อสะสมใน ทองคำ Bitcoin สม่ำเสมอมาหลายปีแล้ว จึงได้สร้างขึ้นมาอีกพอร์ตคือ หุ้นปันผลและ ETF ในอเมริกา โดยทำการเลือกสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างกระแสเงินสดทุกเดือน (Passive Income)โดยที่เราแค่นั่งเฉยๆ

พอร์ต Passive มีสัดส่วน 50% ในหุ้นที่มีกิจการจริง จ่ายปันผลทุกเดือนและทุก 3 เดือน กราฟราคาไม่เป็นขาลง พื้นฐานแข็งแกร่ง โดยดูจาก...

  • Dividend Safety (ความสามารถของบริษัทในการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่อง)
  • Dividend Growth (อัตราการเติบโตของเงินปันผลเมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆ ในอุตสหกรรมเดียวกัน)
  • Divedend Consistency (ประวัติการจ่ายเงินปันผล)
  • Valuation (มูลค่ากิจการ)
  • Growth (อัตราการเติบโต)
  • Profitability (ความสามารถในการทำกำไร)
  • และ Revision (อัพเดทประมาณการจากสำนักวิเคราะห์ชั้นนำ)

หุ้นบางตัวได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายสหรัฐฯ หุ้นบางตัวเป็นหุ้นเติบโต Uptrend Stock และมีหุ้นอิ่มตัวแต่กระแสเงินสดล้นเหลือทำให้จ่ายปันผลได้มาก

ในส่วน 50% หลัง จะเป็นกองทุน หรือ ETF ในสินทรัพย์ที่ภาพใหญ่เป็นขาขึ้นมาตลอดไม่เคยเป็นขาลง เช่น S&P, Nasdaq, ทองคำ และ Bitcoin ซึ่ง 25% จะใช้กอง ETF ปรกติที่ไม่มี Leverage หรือไปเทรด Option

(ยกตัวอย่างกองที่ คุณปู่ Warren Buffet แนะนำว่า ถ้าหากไม่มีเวลา หรือเทรดหุ้นไม่เป็น ให้ซื้อกองนี้อย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถชนะคนส่วนใหญ่ที่ทำผลตอบแทนแพ้ดัชนีได้แล้ว) อีก 25% จะใช้กองที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นมา ประเภท High Dividend Yield

โดยทั้งหมดจะใช้ Algorithm ประมวลผลสถิติและผลงานย้อนหลังอีกครั้ง บาล้านซ์การควบคุมความเสี่ยงและการเติบโตให้สอดคล้องกับตัวเราเองแต่จะไม่ใช้กอง Max Yield ที่อ้างอิงหุ้นรายตัว เพราะจุดประสงค์ของพอร์ตนี้คือ ลงทุนสินทรัพย์ที่มีศักยภาพฯ ในตัวมันเอง

กองที่มีการจ่ายปันผล สูงระดับ 100 - 200% ราคา(NAV) จะวิ่งเข้าหา 0 เสมอ เพราะว่า จริงๆ แล้ว คือเงินที่จ่ายให้เราทุกเดือน คือผลตอบแทน + คืนเงินต้น ไม่ใช่ Yield จริงๆ ทั้งหมด ซึ่งบางคนคิดว่าคือปันผล 100-200% (มีเคสที่เคยเห็นคือ เพิ่มทุน 100% ทำให้สินทรัพย์เรามูลค่าหายไป 50% ทันที) 

"ผลตอบแทนที่สูงเกินจริง มาพร้อมความเสี่ยงระดับสูงสุดเสมอ" 

"รู้เรื่องนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้วป่านนี้รวยไปแล้ว" คือ การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพ 3 ด้าน อันเป็นหัวใจหลักในการลงทุนของผม ที่นำมาสอนส่งต่อให้สมาชิก หนึ่งในสาม คือ พอร์ตหุ้นเติบโต ที่ทำผลงานได้เกินเป้าหมายทั้งตัวผมเองและนักเรียน ที่โตทั้งพอร์ตเกิน 100% 

ส่วนในภาพประกอบนี้คือ พอร์ต Passive ที่ไม่ได้ต้องการกำไรจาก Capital Gain แค่ไม่ขาดทุนเงินต้นก็พอ และรอรับปันผลทุกเดือน Yield เฉลี่ย 10-20% 

ผมมีการจัดชุดหุ้นและ ETF เพื่อกระจายความเสี่ยง ให้นักเรียนเลือกเอาตามความเสี่ยงที่ตนเองรับได้ โดยต้องมีความเข้าใจ และไม่ให้สักแต่ซื้อตาม เพราะถ้าไม่เข้าใจและเห็นภาพเป้าหมาย คุณจะทำตามได้ไม่นาน ไม่สม่ำเสมอ และขบวนการดอกเบี้ยทบต้นจะไม่เกิดขึ้น