วิธีรับมือการลงทุนช่วงประกาศงบการเงิน

วิธีรับมือการลงทุนช่วงประกาศงบการเงิน คอลัมน์ SUPER TRADER โดย พิทวัส เกียรติวีรชน Super Trader

วิธีรับมือการเทรด ช่วงประกาศงบการเงิน ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ส่งผลให้ นักลงทุนและนักเก็งกำไร มีโอกาสที่จะได้กำไรเยอะ หรือขาดทุนหนักได้ ในระยะเวลาอันสั้น เนื่องจากหุ้นมักจะเคลื่อนตัวสอดคล้องไปกับงบการเงิน ที่ประกาสออกมา โดยปกติตลาดไทยจะประกาศ งบการเงิน 4 ครั้ง ดังนี้

• ผลประกอบการไตรมาส 1 จะประกาศประมาณ กลางเดือนพฤษภาคม
• ผลประกอบการไตรมาส 2 จะประกาศประมาณ กลางเดือนสิงหาคม
• ผลประกอบการไตรมาส 3 จะประกาศประมาณ กลางเดือนพฤศจิกายน
• ผลประกอบการไตรมาส 4 จะประกาศประมาณ กลางเดือนกุมภาพันธ์

 

ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่า ใน1ปี เราต้องรับมือกับการตลาดผัวผวนช่วงที่งบออกถึง 4 ครั้ง การมีแผนการเทรดที่ชัดเจน และการวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญอย่างมาก

วันนี้ผมนำ 10 วิธีการเทรดในช่วง ประกาศงบการเงิน มาแนะนำคับ เผื่อในไปปรับใช้ในการประกาศงบครั้งถัดไปในอนาคต

1. เตรียมตัวล่วงหน้า

1.1 ศึกษาแนวโน้มผลประกอบการ (Earnings Expectations) ว่ามีโอกาสเป็นไปในทิศทางใด มีแนวโน้มผลกระกอบการเป็นอย่างไร

1.2 ตรวจสอบประมาณการกำไร (Consensus Estimates) จากนักวิเคราะห์ เพื่อคาดการณ์ว่า ผลประกอบการว่าจะออกมาตรงหรือผิดจากความคาดหมาย

1.3 ดูประวัติการประกาศงบย้อนหลังของบริษัท เช่น งบที่ผ่านมามักทำได้ตามเป้าหรือดีกว่าคาดหรือไม่

1.4 ติดตามวันที่ประกาศงบ : ตรวจสอบ ตารางการประกาศงบของบริษัทที่คุณสนใจ เพื่อเตรียมพร้อม ก่อนการซื้อ - ขายในวันดังกล่าว

• ตรวจสอบ ข้อมูลผ่าน www.set.or.th ว่า หุ้นที่เราสนใจนั้น ในอดีตงบเคยประกาศ ช่วงเวลาใด และประกาศช่วงเช้า เที่ยง เย็น
• โทรสอบถาม นักลงทุนสัมพันธ์ หรือ Investor relations ว่า บริษัทประกาศงบช่วงไหน

 

2. วางกลยุทธ์ก่อนงบออก

2.1 เข้าซื้อก่อนงบออก (Pre-Earnings Play): หากคาดว่าผลประกอบการจะออกมาดี และสร้างแรงผลักดันให้ราคาหุ้นปรับขึ้น คุณอาจเข้าซื้อก่อนวันประกาศงบ

ระวังความเสี่ยง: หากผลประกอบการไม่เป็นไปตามคาด ราคาหุ้นอาจปรับตัวลงแรง

2.2 รอความชัดเจนหลังงบออก (Post-Earnings Play): หากคุณไม่มั่นใจในเรื่องของผลประกอบการ การรอให้ผลประกอบการถูกเปิดเผยก่อนแล้วค่อยตัดสินใจซื้อ-ขายตามแนวโน้มราคาจะช่วยลดความเสี่ยง

2.3 พยายามเลี่ยงหุ้นที่มี PE สูงมาก และ ราคาปรับตัวขึ้นมาอย่างมาก ก่อนงบออก เพราะ หุ้นจะมีความคาดหวังสูง กรณีที่หุ้นงบออกมาแล้ว ไม่เป็นไปตามตลาดคาดหวัง มีโอกาสที่หุ้นจะเกิด sell on fact ได้

 

3. ใช้กลยุทธ์เทรดเฉพาะช่วงงบ

3.1 Breakout Trading: หากงบออกมาดีกว่าคาดและราคาหุ้นทะลุแนวต้านสำคัญ คุณอาจเข้าซื้อโดยใช้กลยุทธ์ breakout โดย ตั้งจุด Stop Loss บริเวณแนวรับ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ในกรณีที่ราคาย่อลง

3.2 Gap Trading: ช่วงประกาศงบ หุ้นมักเกิด Gap (ช่องว่างราคา) หากงบออกมาดี หุ้นอาจเปิดกระโดดขึ้น หรือหากงบแย่ หุ้นอาจเปิด Gap ลง

• สำหรับ Gap ขาขึ้น: รอให้ราคาย่อกลับมาใกล้จุด Gap ก่อนเข้าซื้อ
• สำหรับ Gap ขาลง: รอให้ราคาปรับตัวขึ้นชั่วคราวเพื่อหาจุดขาย

3.3 Scalping trade : ใช้เทคนิคการเก็งกำไรระยะสั้นในช่วงที่ราคามีความผันผวนสูง เช่น ซื้อ-ขายในกรอบราคาที่เคลื่อนไหวใน 1-2 ชั่วโมงแรกหลังงบออก เนื่องจากความผันผวนจะรุนแรงมาก จะมี ช่องว่างในการทำกำไรค่อนข้างเยอะ

 

4. ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และเป้าหมายกำไร (Take Profit) อย่างชัดเจน

4.1 กำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit ก่อนเข้าซื้อขายทุกครั้งโดยละเอียด เพื่อป้องกันการขาดทุนจากความผันผวน

4.2 ใช้ระดับแนวรับและแนวต้านสำคัญ หรือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เป็นจุดอ้างอิงในการตั้ง Stop Loss

 

5. หลีกเลี่ยงการใช้มาร์จิ้น (Margin)

ช่วงประกาศงบการเงินมีความเสี่ยงสูง หากใช้มาร์จิ้นอาจทำให้ขาดทุนหนักในกรณีที่ราคาหุ้นเคลื่อนไหวผิดทาง เพราะ การใช้ leverage มีข้อดี คือว่าเวลาได้ จะได้เยอะ แต่เหรียญมักมี 2 ด้านเสมอ เวลาเสียหาย ก็มีโอกาสขาดทุนหนักได้เช่นกัน ดังนั้นพยายาม ประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะใช้ leverage เสมอ

 

6. พิจารณาความเชื่อมโยงกับตลาดและอุตสาหกรรม

6.1 ผลกระทบจากปัจจัยภายนอก: งบการเงินของบริษัทหนึ่งอาจมีผลกระทบต่อหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกัน เช่น หากหุ้นในกลุ่มสินเชื่อรายใหญ่ประกาศงบแย่ อาจจะส่งผลให้ หุ้นสินเชื่ออื่น ๆ ในกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวลงตาม

6.2 เปรียบเทียบกับตลาดโลก: หุ้นที่มีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก เช่น กลุ่มพลังงานหรืออิเล็กทรอนิกส์ อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยนอกตลาดไทย เช่น ราคาน้ำมันหรือค่าเงิน ข้อมูลเหล่านี้ให้เราเตรียมไว้ตั้งแต่ก่อนงบออก ว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลกระทบต่อ งบการเงินของบริษัท

 

7. วิเคราะห์ผลประกอบการอย่างละเอียด

ตรวจสอบปัจจัยต่างๆ ในงบการเงิน เช่น รายได้ (Revenue), อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin), และหนี้สิน (Debt) คำแถลงการณ์จากผู้บริหาร (Management Guidance) มักให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทิศทางในอนาคต รวมถึงฟัง opportunity day ในอดีตเพื่อดูแนวโน้มของบริษัท

 

 

8. ใช้ข้อมูลเชิงเทคนิคประกอบ

ใช้เครื่องมือทางเทคนิค เช่น chart pattern / การดูแนวโน้มของหุ้น เพื่อหาจุดเข้าซื้อหรือขายรวมถึง ติดตามปริมาณการซื้อขาย (Volume): หากปริมาณการซื้อ-ขาย เพิ่มขึ้นมากในช่วงประกาศงบ อาจเป็นสัญญาณยืนยันทิศทางของราคา

 

9. หลีกเลี่ยงการไล่ราคา

ในช่วงงบออก ราคาหุ้นมักเคลื่อนไหวเร็ว หากคุณเข้าซื้อที่จุดสูงสุด (High) หลังราคาปรับขึ้นแรง อาจเสี่ยงต่อการถูกขายทำกำไร ทำให้มีโอกาสเสียหายได้อย่าง รวดเร็วระยะเวลาอันสั้น

 

10. ติดตามข่าวสารและปัจจัยเสริม

10.1 ข่าวประชุมหรือแถลงการณ์: การประชุมนักวิเคราะห์หลังงบออก (Analyst Meeting) ว่า มุมมองของนักวิเคราะห์มีมุมมอง ไปในทิศทางใด มอง positive /neutral/ negative ต่อตัวหุ้น เนื่องจากมุมองเหล่านี้ ส่งผลต่อราคาหุ้น ในระยะสั้นได้เช่นกัน

10.2 ปัจจัยที่ไม่คาดคิด: ข่าวภายนอก เช่น การเมืองหรือเศรษฐกิจโลก อาจกระทบราคาหุ้นได้ แม้ผลประกอบการจะออกมาดี

 

การเทรดช่วงประกาศงบต้องอาศัยการเตรียมตัวที่ดีและการตัดสินใจอย่างรอบคอบ การมีแผนชัดเจน เช่น การตั้งเป้าหมายกำไรและจุดตัดขาดทุน รวมถึงการใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในช่วงเวลาที่ตลาดผันผวน