ฮันนีมูนรัฐบาลใหม่..อะไรก็ดูดี!

16 ก.ย. 2568 | 23:00 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.ย. 2568 | 00:51 น.

ฮันนีมูนรัฐบาลใหม่..อะไรก็ดูดี! : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

KEY

POINTS

  • การคาดการณ์รายชื่อคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่ในรัฐบาลอนุทิน ซึ่งประกอบด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียงและโปรไฟล์ดี สร้างความคาดหวังเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
  • ส่งผลให้เกิดสัญญาณบวกทางการเงินที่ชัดเจน คือ ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และมีกระแสเงินทุนจากต่างชาติ (Fund Flow) ไหลเข้าประเทศเพิ่มขึ้น
  • เงินบาทที่แข็งค่าเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มธุรกิจนำเข้า และกลุ่มที่มีหนี้สินสกุลเงินต่างประเทศ แต่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อกลุ่มส่งออกและการท่องเที่ยว
  • ปรากฏการณ์นี้เป็นเพียง "ช่วงฮันนีมูน" ระยะสั้น ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ หากรัฐบาลใหม่ไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังของนักลงทุนได้

*** แม้จะยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่การปรากฏชื่อของบุคคลมีชื่อเสียงดี โปร์ไฟล์ที่หลากหลาย ซึ่งมีโอกาสเข้าร่วมเป็นคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ออกมาหลายวันก่อนหน้า โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่ดูแลสายงานด้านเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ที่มีข่าวว่าจะได้นั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการว่าการกระทรวงพลังงาน นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายวรภัค ธันยาวงศ์ ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการว่าการกระทรวงพาณิชย์ ต่างส่งผลให้เกิดสัญญาณในเชิงบวก ที่เกิดจากความคาดหวังว่า “รัฐมนตรีคนนอก” กลุ่มนี้เมื่อรวมกับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาจเข้ามาช่วยแก้ไขภาวะเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำของประเทศก็เป็นได้

 

ว่าแต่สัญญาณในเชิงบวกที่ส่งออกมามีอะไรบ้าง รวมถึงส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร!!

ชัดเจนที่สุดหนีไม่พ้นไปจาก “ค่าเงินบาท” ซึ่งไม่กี่วันที่ผ่านแข็งค่าขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นในระบบผ่านทาง Fund Flow ที่ไหลเข้ามา ทั้งนี้ การที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาส่งผลให้กลุ่มผู้นำสินค้าเข้าจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องจักร วัตถุดิบ หรืออุปกรณ์ต่างๆ มีต้นทุนที่ต่ำลง ส่วนกลุ่มที่มีหนี้เป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ มีมูลค่าของหนี้ลดลง เมื่อเทียบกับเงินในประเทศ ขณะที่คนทั่วไปที่ต้องการซื้อสินค้า หรือ บริการจากต่างประเทศก็จะทำได้ในราคาจะถูกลง 

โดยกลุ่มที่ต้นทุน หรือ หนี้สินสกุลเงินต่างประเทศ เช่น GULF BGRIM EGCO PTT PTTEP PTTGC BA AAV กลุ่มที่เน้นการนำเข้า เช่น TFG TVO นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์ราคาน้ำมัน (30-35% ของต้นทุน) เช่น THAI AAV และ BA รวมไปถึงกลุ่มที่นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ อาทิ สื่อสาร กลุ่มจำหน่ายอุปกรณ์ ไอที กลุ่มรับเหมา โดยมองหุ้นเด่นในกลุ่มเหล่านี้ อาทิ PTT GULF BA ADVANC TRUE COM7 SYNEX CK และ COM7

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกลุ่มธุรกิจที่เสียประโยชน์ เนื่องจากการมีต้นทุนสูงขึ้นจากเงินบาทแข็งค่า ได้แก่ กลุ่มส่งออก เช่น HANA SVI DELTA KCE TU CPF GPFT KSL STA NER STGT STA AH  กลุ่มท่องเที่ยว เช่น AOT MINT CENTEL ERW กลุ่มโรงพยาบาล เช่น BH BDMS และ PR9

ขณะที่กลุ่มหุ้นซึ่งได้ประโยชน์หาก Fund Flow ไหลเข้าประเทศเพิ่มขึ้น เช่น KBANK SCB BBL TISCO PTT PTTEP PTTGC OR IVL SCC TOP CPALL CRC และ ADVANC 

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มค้าปลีก (ที่ราคายัง Laggard) โดยหุ้นกลุ่มนี้คือ หุ้นที่ราคายังปรับขึ้นช้ากว่าตลาด แต่จะได้ประโยชน์โดยตรงจากกำลังซื้อในประเทศ ที่จะฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก เช่น CPALL CPAXT 
กลุ่มการเงินที่ได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะต้นทุนทางการเงิน หรือดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเพื่อกู้มาปล่อยสินเชื่อจะลดลงทันที ทำให้ส่วนต่างกำไร (Margin) เพิ่มขึ้น ได้แก่ MTC TIDLOR และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (ที่ปันผลสูง) - เมื่อดอกเบี้ยลดลง หุ้นกลุ่มนี้ยังมักจ่าย "เงินปันผลสูง" ซึ่งจูงใจนักลงทุนในยุคที่ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ เช่น AP SPALI เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม...สัญญาณทางการเงิน ทั้งเรื่องค่าเงินบาทที่แข็งค่ารวมไปถึง Fund Flow ที่ไหลเข้ามาในประเทศซึ่งกำลังเกิดขึ้นต้อนรับรัฐบาลของนายอนุทินเช่นนี้ อาจเรียกได้ว่า เป็นปรากฏการณ์ช่วงฮันนีมูน (honeymoon) ในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ไม่ต่างไปจากช่วงเริ่มต้นของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และ รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นั่นเอง  

ขณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินบาท หรือ Fund Flow ต่างเป็นปัจจัยระยะสั้น ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งนั่นก็หมายความตรงตัวว่า หากรัฐบาลของ นายอนุทิน ไม่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของประชาชน และนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม อาจส่งผลให้ภาพลวงตาที่สวยหรู...ไม่ว่าจะเป็นค่าเงินบาท หรือ Fund Flow มีโอกาสจะหายไปได้ เช่นเดียวกันกับที่เกิดขึ้นในช่วงปลายรัฐบาลของนายเศรษฐา และนางสาวแพทองธาร เช่นเดียวกัน

เอาเป็นว่าเจ๊เมาธ์ให้กำลังใจรัฐบาลใหม่นะคะ นาทีนี้นายกรัฐมนตรีคนใหม่...คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ รวมไปถึงนโยบายใหม่ของรัฐบาลกำลังถูกจับจับจ้องจากทุกสายตา...ถ้าทำดีก็มีโอกาสที่จะได้ไปต่อ แต่ถ้าทำตามที่ให้ความหวังไม่ได้ โอกาสที่จะกลับมาก็คงจะยากแล้วเจ้าค่ะ อิอิอิ
 

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์