THAI กำลังจะ”บิน”สูงเที่ยวใหม่?

29 ก.ค. 2568 | 23:00 น.

THAI กำลังจะ”บิน”สูงเที่ยวใหม่? : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

KEY

POINTS

  • การบินไทย (THAI) เตรียมกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกครั้งในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 หลังศาลมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการ
  • เกิดความกังวลว่า หลังออกจากแผนฟื้นฟูฯ การบินไทยอาจกลับไปเผชิญปัญหาเดิมๆ จากการถูกกลุ่มต่างๆ แสวงหาผลประโยชน์จากงบลงทุนมหาศาล
  • แม้จะพ้นสภาพรัฐวิสาหกิจ แต่การที่กระทรวงการคลัง ยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ อาจเป็นช่องทางให้เกิดการใช้อิทธิพลหาประโยชน์ ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญของฝ่ายบริหาร

*** หลังมีข้อตกลงหยุดยิง ภายหลังเกิดการปะทะกันในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้แสดงความยินดี พร้อมแจ้งว่า จะเดินหน้าเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) กับทั้งไทยและกัมพูชาต่อ 

ทั้งนี้จากข้อมูลก่อนหน้าที่ พบว่า หลังจากสหรัฐฯ กำหนดอัตราภาษีศุลกากรสินค้าญี่ปุ่น 15% ส่งผลให้มีการคาดหมายว่า ไทยมีแนวโน้มอาจจะถูกเรียกเก็บในอัตรา 20% (บวกลบนิดหน่อย) ซึ่งหากเป็นไปในแนวทางนี้ จะทำให้ไทยยังสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งในภูมิภาค ทั้ง เวียดนาม และ อินโดนีเซีย หรือ แม้แต่ประเทศทางไกลอย่างเม็กซิโก โดยที่ไม่เสียเปรียบเกินไป 

อย่างไรก็ตาม...ไม่ว่าภาษีที่กำลังจะเรียกเก็บจะน้อย หรือ มาก แต่ก็ยังเป็นการ “เก็บเพิ่ม” ซึ่งจะส่งผลให้ราคาสินค้าที่ส่งไปจากไทย ที่ขายในสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น

นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า เลวร้ายสุดเศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวต่ำไปแตะระดับที่ 1.2% ในปีนี้ และผลกระทบยังลากยาวต่อเนื่องถึงปี 2569 ที่อาจทำให้เศรษฐกิจยิ่งตกต่ำ และจะเห็นการเติบโตเพียง 1.1% เพราะขาดเครื่องยนต์เศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก การลงทุน หรือ การบริโภค การค้าชายแดน หรือ สงครามการค้าใหม่ที่อาจตามมา 

นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงในเรื่องการสงครามการค้าจีน-สหรัฐ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม...ถึงตอนนี้แล้ว เราไม่ควรรอความหวังในการถูกเรียกเก็บภาษีเพียงเท่านั้น สิ่งที่ไทยต้องทำอย่างเร่งด่วน คือ การพัฒนาความสามารถในการแข่งขัน การดึงลงทุนเทคโนโลยี-มูลค่าสูง การให้สิทธิประโยชน์ด้าน R&D การให้เครดิตภาษี EV parts, AI hardware, data center มาตั้งฐานในไทย การพัฒนาศักยภาพแรงงานสู่ทักษะดิจิทัล-หุ่นยนต์ เพิ่มค่าแรงเฉลี่ย และผลิตภาพ รวมไปถึงการกระจายรายได้จากทางอื่นซึ่งจะต้องดึงออกมาให้ได้มากที่สุด 

เอาเป็นว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น... ถึงตอนนี้เจ๊เมาธ์ก็ยังพูดเหมือนเดิมว่า ถ้าตอนนี้ไทยไม่ช่วยไทยแล้วใครจะช่วยเรา

*** ชัดเจนว่า บมจ.การบินไทย หรือ THAI ภายใต้การนำทีมของ นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการ เตรียมกลับเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ฯ อีกครั้งในวันที่ 4 สิงหาคม 2568 หลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2568 

พร้อมกันนี้ การบินไทยยังวาดหวังว่า ด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง หลังอยู่ในแผนฟื้นฟูกิจการมาหลายปี จะทำให้บริษัทฯ กลับมาเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนชั้นนำ ที่มีคุณภาพของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้อีกครั้ง...

แน่นอนว่า ด้วยผลงานในช่วงที่ยังอยู่ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการได้พิสูจน์แล้วว่า THAI มีอิสระในการโชว์ศักยภาพที่มี ส่งผลให้การฟื้นฟูกิจการทำได้อย่างเต็มที่ 

คำถาม คือ หลังออกมาจากแผนฟื้นฟูฯ THAI ยังจะกลับไป “บินอย่างมั่นคง หรือ บินแบบหวือหวา” ในแบบที่เคยเป็นอีกหรือไม่!!!

อย่าได้ลืมไปว่า การหลุดพ้นจากการเป็น “รัฐวิสาหกิจ” แม้จะทำให้ THAI มีอิสระในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น แต่เนื่องจากการที่บริษัทฯ มีความผูกพันอยู่กับงบการลงทุนจำนวนมหาศาลในแต่ละปี ทำให้มีบรรดา “เหลือบ ริ้น ไร” จ้องจะสูบเลือดเนื้ออยู่ตลอดเวลา  

ขณะเดียวกัน...ถึงแม้การบินไทยจะหลุดพ้นออกมาจากการเป็น “รัฐวิสาหกิจ” แต่การที่มี “กระทรวงการคลัง” เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จนมีโควต้าใน “บอร์ดบริหาร” ตามสัดส่วนที่มีอยู่ ก็อาจเป็นไปได้ที่ว่าจะมีกลุ่มคนที่หวังใช้วิธีการเดิม เข้าไปอิงแอบหาประโยชน์กับการบินไทย จนไปติดวังวนเดิมอีกครั้ง 

แต่ก็ต้องเชื่อมั่น ประธาน ลวรณ แสงสนิท ที่จะไม่ยอมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำๆ เดิมๆ และ ตั้งการ์ดสูง หากมีใครจะทำให้ THAI บินอย่างไม่มั่นคง  

เจ๊เมาธ์ขอให้กำลังใจ และหวังว่า จะกลับมาแข็งแกร่ง และทำให้ดีได้ การบินไทยจะถูกตรวจสอบและจับตา จากนี้ไปใครจะทำแบบไม่สนใจใครไม่ได้อีกแล้ว 

มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้วค่ะ

คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์