AOT & King Power ใจเย็นๆ เน้นหาทางออก!

17 มิ.ย. 2568 | 23:00 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มิ.ย. 2568 | 00:47 น.

AOT & King Power ใจเย็นๆ เน้นหาทางออก! : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย... เจ๊เมาธ์ ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

*** ราคาหุ้นของ บมจ. ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ออกอาการแกว่งจนเสียทรง หลัง บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (King Power) ได้มีหนังสือขอหารือแนวทางยกเลิกสัญญาอนุญาตให้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และ สนามบินภูมิภาค (เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่) โดยอ้างเหตุผลทั้งในทางตรงและทางอ้อมที่ทำให้ “คิงเพาเวอร์” ไม่สามารถประกอบกิจการและปฏิบัติตามสัญญาที่ได้ตกลงไว้ ซึ่งหากทาง King Power สามารถยกเลิกสัญญาได้ตามที่ต้องการ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ AOT และผู้ถือหุ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้... 

ประเด็นคือ “หนังสือหารือ” ที่ว่ามีผลต่อการยกเลิกสัญญาหรือไม่...หรือเป็นเพียงแค่การส่งสัญญาณเตือนว่า AOT ควรจะต้องปรับปรุงสิ่งใดเท่านั้น!!!

สิ่งที่น่าสนใจเรื่องแรก... เป็นสัญญาการเช่าพื้นที่ของสนามบินทั้ง 5 แห่งที่ทาง AOT ได้ทำเอาไว้กับ King Power เป็นรูปแบบของสัญญา ซึ่งเปิดให้มีการบอกเลิกสัญญาได้ง่ายในแบบที่ถ้าใครไม่พอใจ หรือ ใครทำธุรกิจต่อไม่ไหวแล้ว จะสามารถบอกเลิกกันได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรมากจริงหรือ

สิ่งที่น่าสนใจเรื่องที่สอง...คือ สัญญาการร่วมธุรกิจระหว่าง AOT กับ King Power เป็นธุรกิจซึ่งมีมูลค่าสัญญานับหมื่นล้านบาท ไม่ใช่เรื่องของ “เด็กเล่นขายของ” ที่นึกอยากจะทำก็ทำ หรือนึกอยากจะเลิกก็เลิก เนื่องจากทุกอย่างมีขั้นตอนในการทำงาน ดังนั้น ถ้าจะมองในแง่ดี การทำหนังสือหารือนี้ จึงเป็นเพียงแค่ขั้นตอนเริ่มต้น ในการตั้งคำถามเพื่อหาทางออกร่วมกัน

สิ่งที่น่าสนใจเรื่องที่สาม... เป็นกรณีเลวร้ายที่สุด ที่อาจเกิดขึ้นหาก “คิงเพาเวอร์” ไม่สามารถไปต่อได้จริง จนอาจส่งผลให้ต้องยกเลิกในส่วนของ Minimum Guarantee แต่ท้ายที่สุดหากไม่ถึงขั้นที่ธุรกิจของ “คิงเพาเวอร์” ล้มละลาย หรือ ลุกไม่ขึ้น ก็เป็นไปได้ที่ทั้ง AOT และ King Power อาจมองไปถึงการทำธุรกิจในแบบ Revenue Sharing ซึ่งก่อนหน้านี้เคยทำมาแล้ว เพื่อเป็นทางออกและป้องกันการฟ้องร้องที่อาจเกิดตามมาก็ยังพอทำได้

อย่างไรก็ตาม...ไม่ว่าสัญญาร้านค้าปลอดอากรระหว่าง AOT และ “คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี” จะถูกยกเลิกหรือไม่ เพราะอย่าได้ลืมไปว่าทั้ง AOT และ King Power ต่างก็ถือได้ว่า เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจแบบผูกขาด (Monopoly) ด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้น สัญญาณที่ส่งออกมานี้ จึงชี้ชัดว่าถึงเวลาที่จะต้องปรับตัว เพื่อความอยู่รอดให้ได้  นาทีนี้...ไม่มีอะไรง่ายเหมือนเดิมต่อไปแล้วเจ้าค่ะ