PSP บาปที่ “เสี่ย อ.” ไม่ได้ก่อ

02 พ.ย. 2566 | 21:32 น.

PSP บาปที่ “เสี่ย อ.” ไม่ได้ก่อ คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์

*** ถึงวันนี้ในกรณีของ “โดมิโน่หุ้น” ที่ประกอบไปด้วย PSP NCL รวมไปถึง MCA ซึ่งราคาหุ้นร่วงลงติดฟลอร์ต่อเนื่องกันเป็นทอดๆ จนทำให้มีพวกผู้ที่รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง แต่อยากเกาะกระแส ต่างหาว่า “เสี่ย อ.” เป็นผู้จุดกระแสโดยที่ไม่ได้รู้เรื่องจริงเลยสักนิดว่า นี่เป็นบาปที่ เสี่ย อ. ไม่ได้ก่อ และยังเป็นผู้ถูกกระทำอีกด้วย

เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว เจ๊เมาธ์ ในฐานะของสื่อที่พูดความจริงตลอดมา ก็อยากแชร์ข้อมูลในอีกมุมให้รู้ว่า ในความเป็นจริงแล้วเรื่องนี้มีตัวละครหลังฉากที่ซ่อนอยู่อีก 1 ราย

ตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามาคือ เสี่ย ต. ซึ่งเป็น “หัวโจก” ของกลุ่มนักลงทุน “สายเทา” ซึ่งเพิ่งจะถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่ง ในกรณีสร้างราคาหุ้นจำนวน 5 บริษัท คือ SCI, GSC, ASIAN, FLOYD, RP โดยเรียกให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งมาแล้ว ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเข้ามา เป็นผู้เล่นหลัก 

โดยเรื่องเริ่มต้นจากกรณีของ PSP ซึ่งเข้าตลาดฯ มาด้วยการที่เจ้าของหุ้นต้องการดัน และพยุงราคาหุ้นเอาไว้ให้ได้นานที่สุด ซึ่งทำให้ต้องมีการเรียกใช้บริการ MM (Market Maker) มากหน้าหลายตาเข้ามาร่วมงานกัน 

เนื่องจากหุ้นของ PSP มีจำนวนเยอะมาก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีทั้ง เสี่ย ต. และ เสี่ย อ. ร่วมเข้ามาอยู่ในทีมด้วย แต่ปัญหาของการพยุงราคาหุ้นด้วยการ “อมหุ้น” ก็คือ การที่สามารถยืนราคาได้ แต่ “ไม่ได้เงิน” ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้วงหุ้น PSP ซึ่งมี เสี่ย อ. เป็นหนึ่งในสมาชิก มีอันต้องแตกลงเนื่องจากเสี่ย ต. เกิดอาการ “ร้อนเงิน” จนต้องทำการ “หัก” เพื่อนร่วมก๊วน ด้วยการเทขายหุ้นในสัดส่วนที่ได้รับการจัดสรรหลายสิบล้านหุ้นออกมาทั้งหมด 

ซึ่งเมื่อมีคนนับหนึ่งก็ต้องมีคนตาม เนื่องจากไม่มีใครอยากกลายเป็นคน “ลุกช้าที่ต้องจ่ายรอบวง” แต่ปัญหาคือ คนที่ลุกช้า และต้องจ่ายรอบวง ในรอบนี้กลับกลายเป็น เสี่ย อ. จนกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ เสี่ย อ. ถูกบังคับขาย (Forced Sell) และ เมื่อถูกบังคับขาย PSP ก็ต้องลามไปถึง NCL ด้วยอีกตัว

ในส่วนของ เสี่ย ต. แม้ว่าจะบอกว่าไม่ได้ทำ...แต่ท้ายที่สุดเมื่อตรวจสอบกันอย่างละเอียดก็พบว่า แม้จะมีการเปลี่ยน Account แต่ท้ายที่สุดก็เรื่องก็วนกลับไปที่ เสี่ย ต. อยู่ดี

ขณะที่ในส่วนของ MCA ซึ่งหุ้นน้องใหม่ที่มีอันจะต้องมา “ซวย” เนื่องจากเวลาที่เข้าซื้อขายวันแรก (First Trading Day) ในเวลาที่เสี่ย อ. กำลังผจญอยู่กับปัญหาของ PSP และ NCL และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าตลาดวันแรกของ MCA นั้น ก็พบว่ามี “บิ๊กล็อต” จำนวน 11 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นหน้ากระดานให้กับคนในครอบครัวของ “เจ๊มีสี” ซึ่งนั่นก็ทำให้ MCA มีอันจะต้องมาโดนเจ๊มีสี “ทุบ” เพื่อซื้อหุ้นให้ได้ในราคาต่ำที่สุด ก่อนที่ “เจ๊มีสี” จะลากเล่นรอบและปล่อย “ซาก” ของ MCA ทิ้งไปจนทำให้ท้ายที่สุด MCA ปิดราคาในวันแรกที่เข้าตลาดไปที่ -38.18% เพราะไม่มีคนรับนั่นเอง

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่านิทานเรื่อง “ชาวนากับงูเห่า” มีอยู่จริง เพราะขึ้นชื่อว่า “งู” ไม่ว่าจะดูแลดีแค่ไหน...ท้ายที่สุดก็ยังแว้งกัดคนใกล้ตัวได้อยู่ดี เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้แลเจ้าค่ะ

*** ไม่ใช่แค่ดัชนีหุ้นไทยที่กำลังทำสถิติร่วงลงหนักที่สุดในรอบ 10 ปี และจนถึงตอนนี้แม้แต่ตลาดหุ้นไอพีโอเองก็ยังไม่มีใคร หรือ หน่วยงานใดที่จะเข้ามาช่วยฟื้นให้กลับมาได้รับความเชื่อมั่น จากนักลงทุนได้อย่างเช่นที่เคยเป็น โดยเฉพาะหุ้นไอพีโอหลายตัวที่เข้าตลาดในช่วงปลายเดือนตุลาคม ที่ต่างก็ทำให้นักลงทุน “เจ๊ง” จนพากันเข็ดขยาดหุ้นไอพีโอ จนไม่กล้าที่จะจองและไม่กล้าซื้อไปแล้วทั้งตลาดฯ 

ล่าสุดเพียงแค่เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนไปได้แค่ 2 วัน หุ้นไอพีโอ 3 ตัวซึ่งประกอบไปด้วย บมจ.ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ หรือ ETL และ บมจ.เอส.ซี.แอล.มอเตอร์ พาร์ท หรือ SCL รวมไปถึง บมจ. เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป หรือ SAFE ต่างก็เจอปัญหาราคาหุ้นต่ำกว่าราคาจองซื้อทั้งสิ้น 

โดยในส่วนของ ETL และ SCL ซึ่งเข้าตลาดพร้อมกันในวันที่ 1 พฤศจิกายน ต่างก็ปิดเทรดวันแรกลงไปต่ำจองทั้ง 2 ตัว โดยในส่วนของ SCL ปิดราคาไปที่ 1.30 บาท ต่ำจองลงไป 22.62% จากราคาจองซื้อ 1.68 บาท ขณะที่ SCL ปิดเทรดวันแรกที่ 1.37 บาท ต่ำจอง 11.04% ราคาจองซื้อที่ 1.54 บาท และท้ายที่สุดเป็น SAFE ที่เปิดตลาดมาต่ำกว่าราคาจองซื้อ 21 บาท ลงไป 5 บาท หรือ 23.80%

เอาเป็นว่าถึงตอนนี้เจ๊เมาธ์ยังคงคาดหวังว่า จะมีใครหรือหน่วยงานไหนที่ทำเป็น...รู้จริง และไม่ใช้มือสมัครเล่นที่ทำได้เพียงแค่คอย “ขัดตาทัพ” เข้ามาช่วยตลาดหุ้นไทย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยหุ้นปกติที่อยู่บนกระดาน ซึ่งกำลังถูกต้อนเข้ามุมอับจนหนีไม่ออก รวมไปถึงหุ้นไอพีโอ ที่ถ้าหากไม่สามารถฟื้นความเชื่อมั่น ก็คงจะไม่มีบริษัทไหนกล้าที่จะเข้ามาระดมทุนในตลาดหุ้นไทยอีกแล้ว 

หากว่าหน่วยงานที่กำกับดูแลทำไม่ได้ หรือ ทำไม่เป็น ก็น่าจะไปหาคนใหม่ที่ทำเป็นมาทำ ก็น่าจะดีกว่านะคะ อยากให้รีบ...เพราะไม่งั้นอาจจะถึงขั้นพังกันหมด ทั้งกระดานก็ได้เจ้าค่ะ