KEY
POINTS
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้นำเอาเรื่องของ BANI World ที่เกิดจากแนวคิดของนักคิดนักเขียนที่มีชื่อว่า Jamais Cascio ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากเพื่อนๆหลายท่านทีเดียว วันนี้ผมเลยนำเอาเรื่องราวดังกล่าวนี้ มาต่อยอดให้พวกเราชาวผมเงินทั้งหลาย ได้เปิดมุมมองว่า BANI World มีความสัมพันธ์อย่างไรกับพวกเราบ้าง? เพื่อเป็นการต้อนรับโลกยุคใหม่ ไม่ให้เราต้องตกยุคเพราะตามโลกไม่ทันครับ
แม้นว่าเราจะไม่ได้มีความต้องการจะเปลี่ยนแปลงไปกับโลกยุคใหม่ แต่เราก็ไม่สามารถหลีกหนีมันพ้นได้ ด้วยโลกยุคที่มีผันผวน และมีความสลับซับซ้อน ไม่แน่นอนอย่าง BANI World (Brittle, Anxious, Non-linear, Incomprehensible) ผู้สูงอายุอย่างพวกเราชาวผมเงินทั้งหลาย ถือว่าเป็นกลุ่มประชากรที่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ และมีความจำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างมาก แม้ว่าบางแง่มุมของ BANI World อาจดูเป็นความท้าทาย แต่ก็มีโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาในเวลาพร้อมกัน ถ้าหากเรารู้จักปรับตัวให้อยู่กับมันได้ เราก็จะได้ประโยชน์จากความสะดวกสบายได้เช่นกัน
ตัวผมเองมีเพื่อนร่วมรุ่นหลายท่าน ที่ไม่ยอมรับกับการเข้ามาของเทคโนโลยีสมัยใหม่ หรือ BANI World ที่มากับความเปราะบาง (Brittle) ของผู้สูงวัย ซึ่งโลกที่เปราะบางนี้ หมายถึงระบบที่แตกหักได้ง่าย เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง ผู้สูงวัยจำนวนมากอาจมีความเปราะบาง ทั้งทางร่างกายและจิตใจ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว การเปลี่ยนผ่านทางสังคม หรือวิกฤตการณ์ต่างๆ เช่น โรคระบาด ทำให้ผู้สูงวัยมีความเสี่ยง ที่จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง (digital exclusion) หรือขาดการเข้าถึงบริการที่จำเป็นได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น การที่ธนาคารลดสาขาลงและเปลี่ยนไปใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น นั่นอาจจะสร้างความยากลำบากให้กับผู้สูงวัย ที่ยังไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้พวกเขารู้สึกเปราะบาง และมีความไม่มั่นคงในการเข้าถึงบริการพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม หากเรามองอีกมุมหนึ่ง ความเปราะบางนี้ก็ไม่ได้หมายถึงความอ่อนแอเสมอไป ผู้สูงวัยหลายท่านมีประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นภูมิคุ้มกันในการเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนต่างๆ พวกเขาก็มีความสามารถในการปรับตัว และสร้างความยืดหยุ่นในแบบของตนเอง เช่น การพึ่งพาเครือข่ายสังคมที่แน่นแฟ้น หรือการใช้ภูมิปัญญาดั้งเดิมในการแก้ปัญหาชีวิต ก็มีบางท่านที่ในชีวิตจะไม่ยอมใช้บัตรเครดิตเลยก็มี หรือบางท่านพอพูดถึง QR Code ก็จะมีปฏิกิริยาต่อต้านไม่ยอมใช้ก็มีเช่นกันครับ
นอกจากนี้ โลกของ BANI World ที่มักจะมากับความวิตกกังวล (Anxious) ของผู้สูงวัย ซึ่งแน่นอนว่าความวิตกกังวลใน BANI World เกิดจากความไม่แน่นอนและความสามารถในการคาดการณ์ที่ลดลง สำหรับผู้สูงวัยกับความวิตกกังวลนี้ อาจมาจากหลายสาเหตุ เช่น ความกังวลเรื่องสุขภาพของตนเอง ที่นับวันจะย่ำแย่ลง เรื่องการเงินในบั้นปลายของชีวิต หรือความเหงา การถูกทอดทิ้ง หรือการไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีได้ทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลข่าวสารไหลบ่าเข้าทางโซเชียลมีเดีย และมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้สูงวัยอาจประสบปัญหาในการคัดกรองข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ ทำให้เกิดความสับสนและความวิตกกังวลมากขึ้น
ในขณะเดียวกันหากเรามองในแง่ดี ความวิตกกังวลบางอย่าง ก็เป็นแรงผลักดันให้ผู้สูงวัยหันมาใส่ใจกับการวางแผนชีวิตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพเชิงรุก การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ หรือการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่เข้มแข็ง การตระหนักถึงความวิตกกังวลนี้ ยังช่วยให้สังคมและผู้กำหนดนโยบาย หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างการสนับสนุนทางสังคมและจิตใจ ที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงวัยก็ได้ครับ
ในส่วนของโลก BANI World กับความไม่เป็นเชิงเส้น (Non-linear) ของผู้สูงวัย ซึ่งหมายถึงการที่ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นไปตามที่คนแก่อย่างเราได้คาดการณ์ไว้ และอาจจะมีสาเหตุเล็กๆ ที่อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้ สำหรับผู้สูงวัย การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นเชิงเส้น อาจหมายถึงการที่ชีวิตไม่ได้ดำเนินไปอย่างที่เคยเป็น เช่น การที่ชีวิตประจำวันเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน จากการเกิดโรคระบาด หรือการที่อาชีพการงานที่เคยมั่นคง กลับต้องเผชิญกับความท้าทายที่ไม่คาดคิด การที่เราไม่สามารถคาดการณ์อนาคตได้ ทำให้การวางแผนชีวิตเป็นเรื่องที่ยากลำบากขึ้น หรืออาจทำให้ผู้สูงวัยรู้สึกสับสน และไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรดี อย่างไรก็ตามในอีกแง่มุมหนึ่ง ลักษณะที่ไม่เป็นเชิงเส้นนี้ ก็อาจจะเปิดโอกาสให้ผู้สูงวัย ได้ค้นพบเส้นทางใหม่ๆในชีวิต บางท่านอาจค้นพบความสนใจ หรืองานอดิเรกที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้มาก่อนก็ได้ หรือได้ใช้ประสบการณ์ที่หลากหลายของตน ในการแก้ปัญหาที่ไม่เคยเจอมาก่อนในชีวิต ในรูปแบบที่ไม่เป็นไปตามตำราเดิมๆ หรือการยอมรับในความไม่เป็นเชิงเส้น ยังอาจจะช่วยให้ผู้สูงวัยมีความยืดหยุ่นทางความคิด และพร้อมที่จะปรับตัวเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปก็ได้ครับ
ในส่วนของ BANI World กับความไม่สามารถเข้าใจ (Incomprehensible) ของผู้สูงวัย ความไม่สามารถเข้าใจในที่นี้ หมายถึงการที่ระบบต่างๆ มีความสลับซับซ้อน และข้อมูลมากมายจนยากที่จะเข้าใจหรือหาความหมายได้ สำหรับผู้สูงวัยจำนวนมาก อาจมีความรู้สึกถูกท่วมท้นด้วยข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง การที่ภาษายุคใหม่ และวิธีการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงวัย รู้สึกว่าโลกปัจจุบันช่างซับซ้อนเกินกว่าจะทำความเข้าใจได้ทั้งหมดนั่นเอง
แต่อันที่จริงในความไม่สามารถเข้าใจได้นี้ ผู้สูงวัยหลายท่านอาจจะกลับกลายเป็นผู้ที่สามารถให้มุมมองที่แตกต่างที่มีความลึกซึ้งได้ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาช้านาน พวกเขาอาจมีมุมมองที่สามารถมองเห็นรูปแบบและแนวโน้ม ที่คนรุ่นใหม่อาจมองข้ามไปได้ก็ได้ พวกคนแก่อย่างเราอาจจะมีความสามารถ ในการเชื่อมโยงข้อมูลที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกันเข้าด้วยกันได้ หรืออาจนำเสนอทางออกที่สร้างสรรค์ และมีมนุษยธรรมมากยิ่งขึ้นก็ได้ การเปิดโอกาสให้ผู้สูงวัยได้มีส่วนร่วม ในการแก้ปัญหาสังคมบางอย่าง อาจจะช่วยสร้างความเข้าใจที่หลากหลาย และรอบด้านมากขึ้นในโลกที่ซับซ้อนนี้ก็เป็นได้ครับ
ที่ผมได้กล่าวมาทั้งหมด แม้ว่า BANI World จะนำมาซึ่งทั้งความท้าทายและโอกาสสำหรับผู้สูงวัย การทำความเข้าใจมิติของ BANI World และผลกระทบต่อผู้สูงวัย เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสังคม ที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ และศักดิ์ศรีสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยเรา ที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มตัว(Supper Aging Society) การออกแบบนโยบาย และบริการที่คำนึงถึงความเปราะบาง ความวิตกกังวล ความไม่เป็นเชิงเส้น และความไม่เข้าใจในโลก BANI World จะช่วยให้ผู้สูงวัยสามารถปรับตัว และการมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างยั่งยืน จะเป็นการสร้างสังคมที่ยืดหยุ่น และเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้นครับ