การแบ่งลำดับชั้นของนักบวชในคริสตจักร

20 ก.ค. 2568 | 22:00 น.

การแบ่งลำดับชั้นของนักบวชในคริสตจักร คอลัมน์ เมียงมอง เมียนมา โดย กริช อึ้งวิฑูรสถิตย์


เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ผมได้เล่าถึงการที่ผมได้เดินทางไปมัณฑะเลย์ โดยได้ร่วมกับคณะของกลุ่มบาทหลวงนิกายโรมันคาทอลิก ซึ่งต้องขออนุญาตเพื่อนๆ แฟนคลับทุกท่าน และกราบขออภัยคุณพ่อนักบวชทุกท่าน ที่ผมลำดับชั้นของคุณพ่อนักบวชหลายท่านผิดเพี้ยนไป ด้วยความเคารพครับ เนื่องจากผมนับถือศาสนาพุทธ และไม่คุ้นเคยกับการแบ่งลำดับชั้นของนักบวชในคริสตจักร ซึ่งมีความแตกต่างกับพระสงฆ์ในศาสนาพุทธ อีกทั้งในคริสตจักรเองก็มีหลายนิกายมาก จนทำให้ผมผิดพลาดไป และผมต้องกราบขอบพระคุณ คุณพ่อบาทหลวงไพรัช ศรีประเสิรฐ ที่กรุณาบอกกล่าวและให้คำแนะนำมาครับ 

ในคริสตจักรเองก็มีหลายนิกายอย่างที่ว่า แต่นิกายหลักๆ สามนิกายได้แก่ นิกายโรมันคาทอลิก นิกายโปรเตสแตนต์ และนิกายออร์โธดอกซ์ ซึ่งแต่ละนิกายก็มีการแบ่งลำดับชั้นของนักบวชที่แตกต่างกันออกไป ผมจึงได้ไปสืบค้นมา และจะขออนุญาตอธิบายให้แก่เพื่อนๆที่นับถือศาสนาพุทธได้รู้จัก เพื่อเป็นการทำความเข้าใจกันนิกาย วันนี้ผมจะนำมาเพียงนิกายเดียว คือ นิกายโรมันคาทอลิกนะครับ ผิดถูกประการใด ก็ต้องกราบขออภัยไว้ล่วงหน้านะครับ

นิกายโรมันคาทอลิก (Roman Catholic Church) ซึ่งมีโครงสร้างลำดับชั้นที่ชัดเจนและเป็นระบบอย่างมาก โดยมี องค์พระสันตะปาปา (Pope) เป็นประมุขสูงสุดของศาสนจักรทั่วโลก ลำดับขั้นหลักๆ มีดังต่อไปนี้ครับ

พระสันตะปาปา (Pope) เป็นองค์ประมุขสูงสุดของศาสนจักรโรมันคาทอลิก ถือว่าเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของนักบุญเปโตร อัครสาวกองค์แรกของพระเยซูคริสต์ และเป็นบิชอปแห่งกรุงโรม มีอำนาจสูงสุดทั้งในด้านนิติบัญญัติ ตุลาการ และบริหาร ถ้าหากเราตามข่าวต่างประเทศ ก็จะทราบข่าวใหญ่ของชาวคริสตจักรว่า พระสันตะปาปาองค์ที่ผ่านมา คือ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งพระองค์ทรงประสูติที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาเจนตินา ซึ่งเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกของละตินอเมริกา พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 21เมษายนที่ผ่านมา ต่อมาในวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ได้มีการเลือกตั้งใหม่ จึงได้มีการสถาปณา สมเด็จพระสันตะปาปาเลโอที่ 14 ขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นข่าวใหญ่โต เพราะพระองค์ทรงเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกที่เป็นชาวอเมริกันครับ 

พระคาร์ดินัล (Cardinal) เป็นตำแหน่งที่เป็นรองพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก และสมเด็จพระสันตะปาปาจะเป็นผู้แต่งตั้งขึ้น ในปัจจุบันนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 249 พระองค์ เวลาคริสจักรจะมีการเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ สิทธิในการรับตำแหน่ง จะเป็นใครก็ได้ ขอเพียงเป็นชายที่ได้ผ่านการรับศีลล้างบาปเป็นคาทอลิกแล้วเท่านั้นก็เป็นได้แล้วครับ แต่สิทธิในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง (Cardinal Electors) ทางคริสจักรเขาจะให้สิทธิในการลงคะแนนเสียงจากพระคาร์ดินัลที่มีอายุ 80 ปี ณ วันที่ตำแหน่งพระสันปาปาที่ว่างลง ในปัจจุบันนี้ Cardinal Electors มีจำนวนทั้งหมด 131 พระองค์ครับ ความสำคัญอีกประการหนึ่งคือ พระคาร์ดินัลถือเป็นที่ปรึกษาและผู้ช่วยงานของพระสันตะปาปา โดยทั่วไปพระคาร์ดินัลมักจะเป็นพระสังฆราชหรือพระอัครสังฆราชมาก่อน 

พระสังฆราช (Bishop) เป็นผู้ปกครองสังฆมณฑล (Diocese) หรือเขตปกครองทางศาสนา มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลสัตบุรุษในเขตของตน และมีบทบาทสำคัญในการประกอบพิธีศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น ศีลกำลัง (Confirmation) และศีลบวช (Holy Orders) ตำแหน่งต่อมาคือ พระอัครสังฆราช (Archbishop) เป็นพระสังฆราชที่ปกครองอัครสังฆมณฑล (Archdiocese) ซึ่งเป็นสังฆมณฑลที่มีความสำคัญกว่า และอาจมีอำนาจปกครองดูแลเหนือสังฆมณฑลอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง (เรียกว่า Suffragan Diocese) แต่โดยสิทธิและศักดิ์ศรีแล้ว ถือว่าเทียบเท่ากับพระสังฆราช ซึ่งการไปมัณฑะเลย์ครั้งที่ผ่านมาของผม ก็ได้มีโอกาสร่วมเดินทางกับ Archbischop Marco Tin Win ซึ่งท่านเป็นพระสังฆราชที่ปกครองอัครสังฆมณฑล (Archdiocese) มัณฑะเลย์ คุณพ่อไพรัช เล่าให้ฟังว่า ในการประกอบพิธีการทางศาสนา พระสังฆราชทุกองค์ จะมีหมวกสีแดงๆ อยู่บนศีรษะทุกองค์ ส่วนนักบวชที่มีตำแหน่งที่ต่ำกว่า จะไม่มีหมวกสีแดงบนศีรษะครับ

ต่อมาคือตำแหน่ง บาทหลวง (Priest) หรือที่คนไทยมักเรียกว่า “คุณพ่อ” ซึ่งเป็นนักบวชที่มีหน้าที่รับใช้ในวัด (Parish) ภายใต้การดูแลของพระสังฆราช โดยมีหน้าที่ประกอบพิธีมิสซา (Eucharist) พิธีโปรดศีลอภัยบาป (Confession) พิธีศีลเจิมคนป่วย (Anointing of the Sick) พิธีศีลสมรส (Matrimony) และพิธีศีลล้างบาป (Baptism) เป็นต้นครับ

สังฆานุกร (Deacon) ซึ่งเป็นลำดับขั้นแรกของการบวช มีหน้าที่ช่วยเหลือบาทหลวงและพระสังฆราชในพิธีกรรมต่างๆ เช่น การอ่านพระคัมภีร์ การแจกศีลมหาสนิท การเทศน์สอน และการช่วยเหลือในงานอภิบาลต่างๆ และสังฆานุกรสามารถเป็นได้ทั้งสังฆานุกรประจำ (Permanent Deacon) ซึ่งแต่งงานแล้วได้ ซึ่งสังฆานุกรที่กำลังเตรียมตัวเป็นบาทหลวง (Transitional Deacon)

นอกจากนี้ ยังมีคณะนักบวช (Religious Orders) ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่ปฏิญาณตนถือศีลสามข้อ คือ ความยากจน ความบริสุทธิ์ และการนบนอบ โดยแต่ละคณะมีคาริสมา (Charism) หรือเป้าหมายเฉพาะของตนเอง เช่น คณะเยสุอิต คณะฟรันซิสกัน คณะดอมินิกกัน คณะซาเลเซียน เป็นต้น สมาชิกในคณะเหล่านี้อาจเป็นบาทหลวงหรือไม่ก็ได้ และมีลำดับชั้นภายในคณะของตนเอง

ในส่วนของคริสตจักรนิกายโปรเตสแตนต์ (Protestant Church) และ นิกายนอร์ทออร์โธดอกซ์ (Eastern Orthodox Church) ในลำดับของนักบวชก็มีความแตกต่างกับนิการคาทอลิค ถ้าอยากทราบก็สืบเสาะหาได้ทางกูเกิลฯนะครับ ผมคงไม่นำมาเล่าให้ฟังในวันนี้ครับ จะเห็นได้ว่าที่ผมเขียนไปในสัปดาห์ที่ผ่านมามีความผิดพลาดจริงๆ ต้องกราบขออภัยในความไม่รู้ของผม จึงเขียนตำแหน่งของคุณพ่อหลายท่านผิดเพี้ยนไป

วันนี้จึงนำมาเขียนใหม่อีกครั้ง จะได้ไม่สร้างความระคายเคืองต่อคุณพ่อบาทหลวงครับ เพราะคุณพ่อบาทหลวงบางท่าน ผมเขียนตำแหน่งของท่านสูงกว่าตำแหน่งที่แท้จริงของท่านไป ด้วยความไม่เข้าใจจริงๆ ครับ.....กราบ