สามเหลี่ยมทองคำ

09 พ.ย. 2568 | 04:15 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ย. 2568 | 04:19 น.

สามเหลี่ยมทองคำ คอลัมน์ Cat out of the box โดย พีรภัทร์ เกียรติภิญโญ

KEY

POINTS

  • สามเหลี่ยมทองคำคือพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศไทย พม่า และลาว ซึ่งในอดีตเป็นแหล่งผลิตและค้าฝิ่นที่สำคัญ โดยชื่อนี้ถูกตั้งขึ้นโดยหน่วยข่าวกรองของสหรัฐอเมริกา (CIA)
  • คำว่า "ทองคำ" มาจากการที่ฝิ่นเป็นสินค้าผิดกฎหมายราคาสูงจนถูกเรียกว่า "ทองคำดำ" และมีการใช้ทองคำจริงเป็นสื่อกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนยาเสพติดในพื้นที่
  • โครงการหลวงในพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาโดยส่งเสริมให้เกษตรกรบนดอยปลูกพืชผลเมืองหนาวทดแทนการปลูกฝิ่น เพื่อสร้างรายได้ที่ถูกกฎหมายและยั่งยืน

ที่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่ฝรั่งก็ใช้คำว่าโกลด์เดนท์ ไตรแองเกิลนี้ถ้าเป็นมุมมองจากฝั่งคนไทยมองไปก็ทางซ้ายมือเป็นพม่ากั้นด้วยน้ำแม่รวก มองทางขวามือเป็น สปป.ลาว ขวางกั้นกันอยู่ด้วยแม่น้ำโขง ซึ่งบางจุดโดยเฉพาะฝั่งน้ำรวกมีเกาะกลางน้ำ ซึ่งมีพื้นที่ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ no man’s land ก็มี ทับกันบ้างก็มี เพราะเป็นที่ตั้งของชุมชนโบราณที่มีอัตลักษณ์และมีเอกราชเป็นของตนเองมาก่อนเก่า

 

สามเหลี่ยมทองคำ

 

คำว่า “สามเหลี่ยมทองคำ” นี้คิดขึ้นโดยซีไอเอ-พวกหน่วยข่าวกรองอเมริกันที่ทำงานลับแทรกซึมไปทั้งในประเทศตัวเองและนอกประเทศ โดยเจตนาสื่อความหมายรุ่มรวยถึงดินแดนลึกลับที่ พร้อมจะแจกจ่ายความมั่งคั่งให้กับทุกคน

ทางกายภาพเปนพื้นที่อาณาเขตประมาณ 950,000 ตารางกิโลเมตร ซ้อนทับระหว่างสามประเทศดังกล่าว เแหล่งในฐานะขนถ่ายสินค้าที่สำคัญ โดยเฉพาะของผิดกฎหมายราคาสูง ด้วยว่าถ้ากำลังทำผิดในเขตพม่ากระโดดข้ามมาฝั่งไทยก็รอดหรือถ้าพม่ากับไทยตกลงกันว่าให้จับก็กระโดดไปฝั่งลาว เพราะฝั่งลาวยังไม่ได้ตกลงร่วมกันกับไทยและพม่าด้วย อะไรประมาณนี้ เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีทั้งการลำเลียงและการหลบเลี่ยงหลบหลีก

ส่วนคำว่าสามเหลี่ยมทำไมจะต้องทองคำ? ก็เพราะว่าในยุคนั้นของผิดกฎหมายที่นิยมกันมากก็คือฝิ่น ซึ่งผู้คนที่สูงนิยมปลูกดอกไม้อันสวยงามชนิดนี้ จากนั้นก็ใช้มีดคมที่มีรูปทรงโค้งเหมือนเล็บกรีดเอาที่พวยดอก จะได้น้ำยางออกมาสีขาวข้นนำยางนั้นไปเคี่ยวจนสุกดีเป็นสีดำมะเมื่อมปั้นก้อนได้เหนียวๆเมื่อจุดไฟเผาแล้วสูบเสพเอาควันก็จะละเมอเพ้อลอยล่อง สดใสกาววาวตัวเบาเสพสุขอยู่ในดินแดนส่วนตัวที่ไม่มีใครมองเห็น ในทางการแพทย์ก็ช่วยเรื่องหายปวดท้อง กล้ามเนื้อทั้งเรียบและลายกลับผ่อนคลายหายเมื่อย ขายกันราคาแพงเพราะประเทศที่พัฒนาแล้วห้ามการเสพสุขชนิดนี้ผู้ใดต้องการผู้นั้นก็จะต้องลักลอบซื้อขายในราคาสูงสูงจนกระทั่งจะเป็นทองคำ! ฝรั่งจึงเรียกของลักษณะอย่างนี้ว่าทองคำดำ (Black Gold)

 

สามเหลี่ยมทองคำ

 

อย่างไรก็ดีในการซื้อขายจ่ายโอนทองคำดำนี้ ทองคำเหลือง ก็มามีบทบาทในการซื้อขายแลกเปลี่ยน ในฐานะสื่อกลางที่ได้รับการยอมรับกว้างขวางไม่ว่าจะเป็นเหลี่ยมของพม่าเหลี่ยมของลาวเหลี่ยมของไทยและเหลี่ยมของผู้นำเข้าทองคำดำ โดยไม่จำเป็นจะต้องวุ่นวายใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินกระดาษของแต่ละสกุลตั้งโต๊ะค้าเงินตราแปลงสภาพหน่วยเงินกันก่อนให้ปวดหัว

เงินสดไม่ใช้_ใช้ทองคำ! ซึ่งทรงมูลค่าในตัวเอง แสงทองส่องประกายระยิบระยับกันทั่วถิ่นแดนทองตลอดมาในเขตสามเหลี่ยมนี้มีแต่ความรุ่งเรืองมหาศาล.. ทอง.. ทอง และทองที่สามเหลี่ยมอันเรืองรองแห่งนี้

ข้างอุตสาหกรรมการค้าฝิ่นนั้นมีความลึกลับซับซ้อนมากมาย ทั้งเล่ห์เหลี่ยมคนโกงการใช้ความรุนแรงและการเข่นฆ่า ผู้ปลูกทั้งหลายบางทีไม่ได้อยากปลูกแต่ถูกบังคับด้วยปากกระบอกปืนของผู้มีอิทธิพลที่แฝงตัวมาไม่ว่าจะมาจากตอนเหนือของพม่าขึ้นไปเลยไม่ว่าจะตอนใต้ของประเทศไทยลงมา

ฝรั่งเองก็ตัวดีมีเทคโนโลยีในการสกัดสารที่อันตรายกว่าออกมาจากยางฝิ่นนั่นก็คือผงขาวหรือที่เรียกกันว่าเฮโรอีน ซึ่งในอดีตเวลาเสพเขาจะต้องละลายน้ำแล้วก็ไปซื้อหลอดฉีดยาพร้อมกับเข็มเอายางไส้ไก่มัดแขนแล้วก็ฉีดเข้าเส้นเลือด ในเวลาไม่นานก็จะบังเกิดความสุขวิปลาส ขึ้นในสมอง

ส่วนใครไม่มีเข็มก็มักจะไปหาซื้อกระดาษตะกั่วเอามาลนไฟเมื่อเฮโรอีนเกิดเป็นควันขึ้นก็ใช้หลอดกาแฟสืด (สูบ+ดูด) เอาควันนั้นเข้าปอดในไม่ช้าก็จะพาให้เกิดความสุขจอมปลอมขึ้นในระบบประสาทของร่างกายและก็จะขาดไม่ได้ ถ้าไม่ได้ใช้ยานี้บ่อยๆ จึงเรียกกันว่ายาเสพติดเพราะเสพแล้วมันติด ซึ่งในอดีตจะต้องมีย.ยักษ์การันต์ตรงคำว่าเสพย์ด้วย

ตำรวจในราชการสมัยนั้นไม่สามารถรับมือกับการทะลักทะล้นเข้ามาของยาเสพติดได้ดีนัก ตั้งแต่ยุคฝิ่นทองคำดำ พลตำรวจตรีขุนพันธ์รักษ์ราชเดชจับฝิ่นเถื่อนที่ขนมาทางรถไฟจากสามเหลี่ยมทองคำมุ่งหน้าออกไปปลายด้ามขวานทะลุมาเลเซีย ก็ถูกอิทธิพลขนาดใหญ่เล่นงานจนกระเด็นกระดอนไปรับราชการอยู่ในสถานที่ห่างไกล

 

สามเหลี่ยมทองคำ

 

มาถึงยุคที่ความทันสมัยทางเคมีเกิดขึ้น อธิบดีกรมตำรวจปี 1990s จบวิทยาศาสตร์เคมีมาจากสหรัฐอเมริกาทำหน้าที่ในการบัญชาการปราบปรามการผลิตและตัดตอนการจัดจำหน่ายยาเสพติดร้ายร้ายแรงนี้ ฝ่ายอเมริกาเองแหละเห็นภัยอันตรายตั้งหน่วยงานพิเศษขึ้นมาใหม่ชื่อว่าดีอีเอ เมืองไทยก็เลยทำบ้างเป็นสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือปปส. ซึ่งแยกออกมาจากกรมตำรวจต่างหากมีหน่วยงานการบังคับบัญชากึ่งอิสระ มีประธานและเลขาธิการ

จนกระทั่งกรมตำรวจเลื่อนสถานะเป็นหน่วยงานอิสระบ้างในนามสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงมีการจัดตั้งกองบัญชาการปราบยาเสพติด ขึ้นโดยผู้บัญชาการหลังมานี้ที่ลือนามคือ พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร

ในขณะที่รัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลก่อนพยายามชี้แจงข้อสงสัยของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเรื่องของคดีที่มีการขนผงสีขาวเข้าประเทศในทวีปออสเตรเลียท่านรัฐมนตรีชี้แจงเสียงแข็งว่าเรื่องเก่าๆที่เอามาเล่าสู่กันฟังนั้นสิ่งที่อยู่ในถุงหลายกิโลกรัมมันคือ แป้ง !! ธัมโมสังโค ยาเสพย์ติดที่ไหนกันเล่า! ฮึ!!

ในขณะที่พระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าคุ้มกระหม่อมแผ่ไพศาลไปยังปวงเขาผู้อยู่บนดงดอยเขาสูงทั้งที่เต็มใจปลูกฝิ่น ทั้งที่ถูกทุบตีบังคับให้ปลูก ทั้งที่ถูกเขาทรมานเป็นแรงงานทาส สายพระเนตรยาวไกลส่องออกไปแล้วเห็นวิธีการรับมือว่าคงใช้การจับกุมแต่เพียงอย่างเดียวไม่มีวันหมดไม่มีวันพอ มีพระราชดำริคิดโครงการทดแทนการปลูกฝิ่นพร้อมทั้งนำเทคโนโลยีการปลูกต้นไม้เมืองหนาวผลไม้เมืองหนาวจากความร่วมมือของศาสตราจารย์ต่างๆทั้งไทยเทศ

จึงเป็นจุดกำเนิดของโครงการหลวงส่งเสริมให้เกษตรกรบนดอยปลูกผลไม้เมืองหนาวขึ้นทดแทนการปลูกฝิ่นโดยมีแรงจูงใจทางเศรษฐศาสตร์สนับสนุนว่าปลูกแล้วได้ราคาดีกว่าปลูกฝิ่น ไม่ต้องหลบๆซ้อนๆถูกบังคับทารุณ ซึ่งท่านผู้อ่านอาจจะไม่เข้าใจว่ามันจะราคาดีกว่าได้อย่างไรกับอีกแค่อะโวคาโด้, ลูกพลับ,สตอเบอรี่?

ก็ต้องเรียนว่าราคาฝิ่นดิบต้นทางนั้นมันไม่ได้แพง มันแพงที่การแปรรูปฝิ่นและขบวนการนำฝิ่นออกจากพื้นที่ปลูก!

ทีนี้เมื่อมีการผลิตแล้วก็จะต้องมีการตลาดผลิตภัณฑ์จากยอดดอยของโครงการหลวงจำเป็นจะต้องนำลงจากดอยลงมาขายยังผู้มีกำลังซื้อทั้งในเขตเมืองหลวงเชียงใหม่และเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร

ผลแห่งการพระราชวิริยะอุตสาหะทุกประการในการพลิกแผ่นดินมืดดำก็ส่งผลให้บนยอดดอยเรืองรองเปล่งปลั่งด้วยความหวังบนความพยายามอันสดใส ยอดดอยทั้งนั้น จากทองดำหม่นหมอง กลับกลายเป็นทองคำสุกปลั่ง สมฉายาผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ “ดอยคำ” แต่นั้นมา

 

สามเหลี่ยมทองคำ

 

โครงการหลวงดอยคำเกิดขึ้นเพื่อทดแทนความหลงผิดในเรื่องสามเหลี่ยมทองคำที่เป็นแหล่งลึกลับผลิตยาเสพติด ให้กลับมีความก้านกุ่งรุ่งเรืองกลายเป็นยอดภูเขาที่มีแต่ทองคำอันบริสุทธิ์ถูกกฎหมายอยู่ที่นั้น

ท่านที่เป็นลูกค้าของผลิตภัณฑ์ดอยคำขอท่านได้โปรดอิ่มใจว่าทุกบาททุกสตางค์ที่ท่านได้จ่ายไปนั้นเบื้องหลังล้ำลึกคือการแก้ปัญหายาเสพติดตั้งแต่ต้นตออย่างแยบคายของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลก่อน

กลับมาที่เชียงแสนของเรา ซึ่งเปนแหล่งรวมของการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอันหลากหลายของชาติชนกลุ่มต่างๆ ชาวพม่าเรียกฉานเชียงใหม่ว่า “โยน/ยวน” เรียกชาวเชียงตุงว่า “ขึน” เรียกชาวเชียงรุ่งว่า “ลื้อ” เรียกชาวยูนนานว่า “ฉานตะโยก์” เรียกเมือง อันนัม หรือญวนว่า “ยูนจี หรือ ูนหลวง”

ในขณะที่ชาวฉานเชียงใหม่ เรียกพม่าว่า “ม่าน” เรียกชาวพะโคว่า “เม็ง” เรียกฉานหลวงพระบางว่า “ลาว” เรียกชาวเชียงตุงว่า “ขึน” เรียกชาวเชียงรุ่งและเมืองยองว่า “ลื้อ” เรียกชาวเมืองแลมว่า “แลม” เรียกชาวจีนว่า “ฮ่อ”

เรียกเมืองอันนัม หรือญวนว่า “แมนหรือแกว”

แต่ชาวฉานเชียงตุงเรียกตัวเองว่า “ขืน” เรียกชาวเชียงรุ่งว่า “ลื้อ” เรียกชาวเมืองแลมว่า “แลม” เรียกชาวเชียงใหม่ว่า “ไทยวน” เรียกฉานเมืองเมาว่า “ป้อง” หรือ “ไทเหนือ” เรียกชาวสยามว่า “ชาวใต้”

โดยชาวสยามเรียกผู้คนที่อยู่ทางเหนือและทางตะวันออกว่า ลาว แบ่งด้วยรอยสัก เป็นกลุ่ม ได้แก่ “ลาวพุงดำ” และ “ลาวพุงขาว”ฯ 55

ที่วัดป่ายางสบยาบแห่งนี้มีรูปปั้นพญานาคสีขาวสวยงามศิลปะอย่างดีเป็นที่กล่าวขานกันว่าเป็นศิลปะอย่างเชียงแสน ยืนพังพาน รักษาพระพุทธรูปปางเปิดโลกอยู่ริมแม่น้ำโขง โดยประติมากรรมสมัยเชียงแสน มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่ความป้อมของร่างกาย

 

สามเหลี่ยมทองคำ

 

เชียงแสนยุคแรกๆ มีการสร้างทั้งพระพุทธรูป และภาพพระโพธิสัตว์ หรือเทวดาประดับศิลปสถาน พระพุทธรูปโดยส่วนรวม มีพุทธลักษณะคล้ายพระพุทธรูปอินเดีย สมัยราชวงศ์ปาละ มีพระวรกายอวบอ้วน ป้อม พระพักตร์หน้ากลมคล้ายผลมะตูม พระขนงคิ้วโก่ง พระนาสิกจมูกโค้งงุ้ม พระโอษฐ์แคบเล็ก พระรัศมีเหนือเกตุมาลาเป็นต่อมกลม ไม่นิยมทำไรพระศก พระอุระอกนูน ชายสังฆาฏิสั้น ตรงปลายมีลักษณะเป็นชายธงม้วนเข้าหากัน เรียกว่า เขี้ยวตะขาบ ส่วนใหญ่นั่งขัดสมาธิเพชร (ฝ่าเท้าหงายคู่) ปางมารวิชัย ฐานที่รององค์พระทำเป็นกลีบบัวประดับ มีทั้งบัวคว่ำ บัวหงาย และทำเป็นฐานเป็นเขียง ไม่มีบัวรองรับ ส่วนงานปั้นพระโพธิสัตว์ประดับเจดีย์วัดกู่เต้า และภาพเทวดาประดับหอไตรวัดพระสิงห์ เชียงใหม่ มีสัดส่วนของร่างกายสะโอดสะอง ใบหน้ายาวรูปไข่ ทรงเครื่องอาภรณ์เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์ในศิลปะแบบปาละเสนะของอินเดีย หรือแบบศรีวิชัย

ส่วนเชียงแสนยุคหลัง มีการสร้างพระพุทธรูปที่มีแบบของลัทธิลังกาวงศ์ จากสุโขทัย เข้ามาปะปนรูปลักษณะ โดยส่วนรวมสะโอดสะองขึ้น ไม่อวบป้อม พระพักตร์ยาวเป็นรูปไข่มากขึ้น พระรัศมีทำเป็นรูปเปลว พระศกทำเป็นเส้นละเอียด และมีไรพระศกเป็นเส้นบางๆ ชายสังฆาฏิยาวลงมาจรดพระนาภี พระพุทธรูปโดยส่วนรวมนั่งขัดสมาธิราบ พระพุทธรูปที่นับว่าสวยที่สุด และถือเป็นแบบอย่างของพระพุทธรูปยุคนี้คือ พระพุทธสิหิงค์ ในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงเทพฯ พระพุทธรูปเชียงแสนนี้มักหล่อด้วยโลหะทองคำ และสำริด