พฤกษาบำบัด และ ป่าเมืองไทย

27 ก.ค. 2568 | 07:20 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ค. 2568 | 07:59 น.

พฤกษาบำบัด และ ป่าเมืองไทย คอลัมน์ Cat out of the box โดย พีรภัทร์ เกียรติภิญโญ

KEY

POINTS

  • พฤกษาบำบัดคือการเยียวยาร่างกายและจิตใจผ่านการสัมผัสธรรมชาติ เช่น การเดินเท้าเปล่าบนดิน (Grounding) การกอดต้นไม้ และการอาบป่า เพื่อลดความเครียดและฟื้นฟูพลังงาน
  • ป่าในประเทศไทยมีความหลากหลายและมีศักยภาพสูงในการเป็นแหล่งพฤกษาบำบัด ทั้งป่าดิบชื้น ป่าชายเลน และอุทยานแห่งชาติต่างๆ ซึ่งสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นกิจกรรมเพื่อการบำบัดได้
  • การใช้เวลาในป่าช่วยให้มนุษย์ได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติ ทำให้จิตใจสงบ ปล่อยวางจากความวุ่นวาย และตระหนักว่าตนเองเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของระบบนิเวศอันยิ่งใหญ่

เคยไหมบางเวลา คุณรู้สึกไม่สบายกายไม่สบายใจ อารมณ์มันเหมือนประมาณว่าเจ็บป่วยโดยไม่ได้เจ็บปวด อาการมันคล้ายว่าจิตวิญญาณของคุณที่เคยเปี่ยมเคยเต็มในตัวกลับรู้สึกว่า มันเหือดๆแห้งหาย

ผมเผ้าที่เคยสลวยสวยลื่นกลับลูบไปแล้วสากมือโสกเสก หลอดคอหอยเจอเครื่องดื่มเย็นชื่นที่ฟื้นฟูคุ้นเคยกลับเเห้งผาก ไปไหนมาไหนเอามือแตะราวบันได ก็โดนไฟฟ้าสถิตย์ สปาร์คช็อต แปลบปลาบ_เป๊าะแป๊ะ สะดุ้งโหยง การณ์อันว่าเช่นนี้ ฝรั่งว่าคุณเริ่มขาด วิตามิน G (Grounding) ซึ่งเขาเทียบแล้วเปนส่วนสำคัญเท่ากับวิตามินอื่นในร่างกาย เอ/ดี/อี/เค

วิตามิน จี มักมาในรูปเสียงเพรียกจากธรรมชาติ ที่ร้องเรียกหาคุณ_ให้กลับบ้าน กลับไปสู่อ้อมกอดของขุนเขาและพรรณไม้เขียวขจี บอกคุณให้ถอดทิ้งซึ่งเกือกฝรั่งหรูหราราคาแพง เปลือยฝ่าเท้าลงเหยียบดินเหยียบหญ้าเพื่อทำ grounding - ต่อสายดินพื้นโลกแท้ๆเข้ากับตัวตนเรา เพื่อถ่ายประจุไฟฟ้าส่วนเกินออกจากร่างกายกลับสู่พื้นโลก

วิตามิน G เริ่มมีความจำเป็นขึ้นมากแล้วเพราะว่าเราทุกวันนี้อยู่ในโลกแห่งความทันสมัยแวดล้อมไปด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าและคลื่นไฟฟ้าต่างๆนานา ไหนจะประดาความเครียดจากโทรศัพท์มือถือ ที่เปล่งความกระตือรือร้นใส่ปวงเราเข้าทุกวันในรูปแพลทฟอร์ม/ฟีด/และแอพพลิเคชั่นทุกรูปแบบ55

นอกจากการเปลือยฝ่าเท้าเหยียบดินแล้ว งานเยียวยาเชิงบำบัดเช่นนี้ ยุคนี้พัฒนาไปถึงว่า ทำ Tree Hug - กอดต้นไม้ใหญ่ใหญ่ที่ยืนยงอยู่ในป่าสักต้นหนึ่ง กลับทำให้คนกอดได้รับพลังงานที่ดี มีความรู้สึกผ่อนคลายหายเครียดมีพละกำลังมากขึ้น การอาบป่า- Forest Bathing ที่เมืองจีนนั้นหนุ่มสาวรุ่นใหม่ก็ใช้วิธีนี้มาก คือเดินท่องไปในป่าสวยๆช่วยมากในการบำบัดและรักษาจิตใจแห้งเหือด ซึ่งอาจเรียกกันรวมๆว่า พฤกษาบำบัด คือบำบัดรักษากายใจกันด้วยป่าด้วยต้นไม้

 

พฤกษาบำบัด และ ป่าเมืองไทย

 

ตลาดของบรรดานักท่องไพรสมัยนี้ มีหมดทั้ง คนที่สูงอายุและไม่สูงอายุ หลายท่านทำกิจกรรมเกี่ยวกับป่าเพื่อความสงบและสันทนาการส่วนตัว เช่น ตามถ่ายรูปนกแปลกๆก็มี แล้วสะสมภาพถ่ายเปนคอลเลกชั่นในระบบโซเชียลมีเดีย บางท่านขับรถบ้านไปกางเต็นท์นอนเพื่อฟังเสียงป่าเฉยๆ ก็มาก กับข้าวกับปลาก็ไม่ได้เตรียมหาไปอย่างว่าปิคนิค บางทีบะหมี่แห้งๆซองนึงก็พอ_โฟกัสที่ป่า มากกว่าองค์ประกอบอื่นๆ

คนระดับพลเอกพลโทนอกราชการ มือควานหาเปลญวนผ้าใบได้อันมุ้งหลัง ก็ออกไปหาต้นไม้สักคู่นึงผูกนอนสักคืน ก่อไฟไล่ยุงแล้วหลับไหลไปในความวังเวงแห่งดงน้ำค้าง ปวงเขาให้ธรรมชาติและความเงียบของป่า รักษาบำบัดความวุ่นวายรบกวนจิตใจที่โดยมากมักมาจากคน 55

ข้างท่านที่ชอบออกเดินหน้าลุยพงไพรในป่าลึกก็มีเยอะ เป้าหมายอาจไม่ได้เป็นปลายทาง ที่ต้องการไปล่าสัตว์ ไปหาสมุนไพร อย่างแต่ก่อน ทว่าเป็นเรื่องระหว่างทางของการใช้ชีวิตเดินกับตัวเองอยู่ในป่าซึ่งต้องพบเจอสิ่งมีชีวิตอื่นมากมายไม่ว่าจะเป็นนกหนูหมูแมลง แม้กระทั่งตัวทากค้างคาวหรือไวรัสการเดินทางไปในที่ที่รู้แก่ตัวว่าไม่ใช่ของตัวรับรู้ความยิ่งใหญ่ของธรรมชาตินั้นเหมือนจะทำให้ระลึกได้ว่าคนเรานั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆของ ระบบนิเวศน์จักรวาฬ ที่ขับขานบรรเลงไปอย่างมีพลวัตและเรียบง่ายเงียบงัน

ในป่านั้น คนเราควบคุมอะไรก็ไม่ได้ฝนจะตกก็ต้องเปียก ไม่มีที่กำบัง เพราะเปนป่า อาจพาให้ปลงกับโลกธรรมได้ง่ายขึ้น จิตใจสงบลง และเข้าถึงธรรมะได้ง่ายขึ้นผ่านกลไกธรรมชาติเช่นนี้

ป่าเมืองไทยให้การบำบัดได้ดีไม่แพ้เมืองนอกหรอก บ้านเรามีอุทยานมากมาย น่าเปิดให้เกิดกระแสพฤกษาบำบัด ก้าวข้ามตลาดของการหย่อนใจ ไปสู่การบำบัดที่มีมูลค่ามหาศาล เช่นว่า อุทยานแห่งชาติต้นกระบากใหญ่นั่นไง ที่เมืองตากทางไปแม่สอด ต้นกระบากโบราณยืนยงท้าทายกาลเวลา เห็นท่าจะใหญ่ที่สุดในโลกแล้วกระมัง ควรจัดทำการวางแผนบำบัดผ่านกิจกรรมการกอดต้นไม้ได้แล้วล่ะ ซอฟท์พาวเวอร์

ส่วนป่าเมืองไทยเราก็มีหลายประเภท ที่สัดส่วนมากกว่าใครเพื่อนก็คือ ป่าดิบ (ย่อมาจากคำว่า ป่าดงดิบ) มีอยู่ทุกระดับความสูงของภูมิประเทศ คือ ตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนถึงยอดเขา แยกเปน ป่าดิบชื้น , ป่าสน และก็ ป่าชายเลนป่าดิบชื้น มักอุดมสมบูรณ์ดีในท้องที่ที่มีฝนตกชุก เช่น ภาคตะวันออกและคาบสมุทร ตั้งแต่ตอนใต้เมืองประจวบคีรีขันธ์ ลงไปทางภาคเหนือ ถ้าอยู่บนภูเขาสูงเหนือระดับน้ำทะเล ๑๐๐๐ เมตรขึ้นไป เรียกป่าดิบเขาต้นสนสวยๆมีมาก ทั้งแบบสองใบและสามใบ

 

พฤกษาบำบัด และ ป่าเมืองไทย

 

ในขณะที่ภาคอีสาณออกแนวดิบแล้งป่าดิบมักมีไม้ชั้นบนเป็นไม้ไม่ผลัดใบขนาดใหญ่สูงถึง ๓๐-๕๐ เมตร และมีลำต้นตรงยาวถึง ๒๐ - ๓๐ เมคร ต่ำลงมาจะเป็นไม้ชั้นรองซึ่งประกอบไปด้วยต้นไม้ขนาดเล็ก และพวกปาล์มชนิดต่าง ๆ โดยขึ้นปะปนกับเครือเถาหลากหลาย รวมถึงไม้พุ่มเตี้ย ไม้ไผ่และพวกหญ้าแขม ทั้งมีพวกไม้รากดูดอาหารทางอากาศ อย่าง พวกเฟิร์น มอส และกล้วยไม้ขึ้นไต่อยู่บนลำต้นของไม้ต้นใหญ่อื่น ๆ โดยมากต้นไม้ และไม้พื้นล่างจะขึ้นอยู่อย่างแน่นทึบและยากที่จะบุกเข้าไปได้โดยง่าย

พันธ์ไม้ที่สำคัญในป่าดิบทางเหนือ มียางขาว ยางแดง ตะเคียน กระบาก ยมหอม แดงดง รัก มะหาด กระท้อน มะม่วงป่า มะไฟ ตะแบก จำปาป่า อบเชย มะแฟน และแถว ๆ ริมแม่น้ำนำลำธารมักมีพวกชมพู่ ขึ้นอยู่ไม้ล่างมีไม้ไผ่ชนิดต่าง ๆ เช่น ไม้หก ไม้เฮี้ยะไม้ไร่ เครือ จำพวกปาล์มก็มี

ส่วนป่าภาคกลางก็คล้ายๆ กับของทางเหนือ เว้นแต่จำพวกไม้ไผ่ที่ไม่เหมือนกัน คือ ภาคกลางมักจะเป็นไผ่ป่าหรือไผ่หนามเสียส่วนมาก ไม้จำพวกยาง ยูง ภาคกลางมักจะขึ้นเป็นกลุ่มล้วน ๆ มากกว่าทางเหนือ ไม้มีค่าเช่นจำพวก พยุง ชิงชัน มักอยู่ป่าแถวจันทบุรี และตราด จะมีไม้แปลกเช่นไม้รง ซึ่งให้สีเหลืองสำหรับย้อมผ้าอันมีค่าและ ลูกสำรองซึ่งมีผลเป็นเหมือนเยลลี่หุ้มรอบที่นิยมส่งออกไปขายในประเทศจีน เพื่อใช้ในการทำยา นอกเหนือจากเร่ว ข่าป่า Amomums และระกำ สละ

ส่วนป่าดิบในภาคใต้ถือว่าชื้นสูง ลักษณะดีมาก พันธุ์ไม้ที่สำคัญมากอย่าง

ยางขาว ยางเสียน ยางวาด ยางแดง ยูง ตะเคียน โกเบ พยอม เคี่ยม อินทนิน หลุมพอ กันเกรา บุนนาค จำปาป่า มะหาด ขนุนปาน และหว้าต่าง ๆ ถ้าในดงดิบจริง ๆ จะมีอยู่บ้างก็พวกไผ่เลื้อย แต่พวกปาล์ม พงแขม และพวกพืชใบเลี้ยงเดี่ยวต่าง ๆ มักขึ้นอยู่กันมากมาย

ข้างป่าชายเลนนั้นบริเวณอ่าวไทย ซีกตะวันออกมีอยู่ตั้งแต่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาไปจนถึงแม่น้ำปราจีนบุรี หรือแม่น้ำบางปะกง

ทางภาคใต้เริ่มพบตั้งแต่ปากแม่น้ำเพชรบุรีลงไปจนถึงจังหวัดนราธิวาส ป่าชายเลนทางซีกนี้ขึ้นเป็นหย่อม ๆ ไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนฝั่งตะวันตก ที่เปน พืดยาวตั้งแต่ระนองไปจนถึงสตูลติดเขตประเทศไทยต่อกับสหพันธ์รัฐมาเลเซีย ส่วนภาคตะวันออกพบขึ้นอยู่ตามริมฝั่งในจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด บริเวณที่ขึ้นเปนพืด คือ ปากน้ำเวฬุ เด่นที่ไม้โกงกาง ไม้พังกาหรือหัวสุม หรือไม้ประสัก ถั่วขาว หรือรุ่ย ถั่วดำ หรือรังกะแท้ โปรงดอกเหลืองสวยๆ ที่ปากน้ำประแส หากกล่าวถึงในเชิงทรัพยากรต้นไม้ป่าชายเลนถือว่าเปนป่าไม้ที่ให้ผลผลิตต่อเนื้อที่สูงสุด ส่วนใหญ่ใช้ทำฟืน เผาถ่านเป็นที่นิยมกันมาก คือ ถ่านไม้โกงกาง เพราะให้ความร้อนสูง พันธ์ไม้อื่น ๆ ที่ขึ้นอยู่ในป่าชายเลน มี ไม้ตะบูนขาว ตะบูนดำ แสม ลำพู ลำแพน หงอนไก่ ตีนเป็ด และหลุมพอ

ป่าที่แปลกๆ อีกป่าหนึ่งคือ ป่าแพะ ดินจะตื้น ต้นไม้จะแคระแกร็น ไม่เจริญเติบโต ชนิดพันธุ์ไม้ที่ขึ้นอยู่จะไม่แตกต่างกันมากนัก ลักษณะและสภาพป่าโดยทั่วไปป่าแพะจะโปร่งบนพื้นดินจะมีหญ้าขึ้นปกคลุม ต้นไม้ขึ้นอยู่ห่างๆกัน มีไม้พุ่มเตี้ยขึ้นอยู่ทั่วไปเป็นไม้พื้นล่าง ไฟป่าเกิดขึ้นทุกปีในป่าแพะนี้ ลูกไม้จะถูกเผาไหม้ทุกปีแต่จะไม่ทำให้ลูกไม้ตายสูญ กลับจะแตกหน่อขึ้นใหม่ในฤดูฝน และจะเปนอยู่อย่างนี้หลาย ๆ ปี จนกว่ารากของลูกไม้จะสะสมอาหารไว้เพียงพอก็จะแตกหน่ออย่างสมบูรณ์จนสูงพ้นอันตรายจากไฟป่าได้ พ้นธุ์ ไม้ป่าชนิดนี้โดยทั่วไป มีพลวง เหียง เต็ง รัง รกฟ้า สัก ตะแบกเลือด มะขามป้อม ยอบ่า ฯลฯ

 

พฤกษาบำบัด และ ป่าเมืองไทย

 

ที่เมืองแพร่มีป่าแพะเมืองผี เป็นดินแดงสภาพวังเวงแห้งๆ มีเสาดินที่เกิดจากลมพัดเซาะให้เว้าแหว่ง ก็กลายเป็นที่ท่องเที่ยวที่ท้าทายสำหรับผู้มาเยือน

อนึ่งควรบันทึกไว้ในที่นี้ว่าคำว่าแพะนั้นเป็นคำพื้นบ้านที่ควรจะแปลว่าป่าละเมาะ ศิลปินรุ่นใหม่ใหม่ ฝ่ายศิลปากร ที่วาดภาพป่าได้งดงามดีชมภาพของพวกเขาแล้วถ้าไม่มีโอกาสไปเที่ยวอาบป่า ก็ถือว่าพอจะสามารถทดแทนกันได้อย่างเกือบจะสมบูรณ์จากความเต็มตื้นในศิลปกรรมที่พวกเขาถ่ายทอดเอาไว้

รายแรกคือ ผลงานป่ายามพลบค่ำผีตากผ้าอ้อม ของ ว่าน คณิต เปียซื่อ ว่านสนใจทำศิลปะนิพนธ์เกี่ยวกับแสง

ในช่วงเวลาโพล้เพล้ผีตากผ้าอ้อม แล้วค้นพบว่าแสงในช่วงเวลานั้นทำให้เกิดการบิดเบือน distort ในความรับรู้ของผู้คนได้มากอย่างมีนัยยะสำคัญ พรานป่าทั้งพรานอาชีพและพรานสมัครเล่นยามเมื่อไปเที่ยวป่าขัดห้างบนต้นไม้รอเวลารัตติกาล เมื่อแลออกไปก็มักจะชอบมาร์คตำแหน่งของต้นไม้พุ่มนั้นหน้าตาอย่างนี้ต้นไม้ย่อมนี้หน้าตาอย่างนั้น จำตำแหน่งเอาไว้จนความมืดเยี่ยมกรายเข้ามาก็มักจะเกิดความรู้สึกหลอน เหมือนมีใครบางคนโยกย้ายตำแหน่งของต้นไม้ หรือการเคลื่อนไหว ของอะไรบางอย่างบนพุ่มใบไม้ดกหนานั้น แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร บางคนหวั่นไหวก็ยิงปืนใส่ความเคลื่อนไหวนั้นเลยแต่ไม่พบตัวอะไรร่วงลงมา ว่าน เขียนภาพนี้มองแล้วมีนัยยะเหมือนต้นช่วงลำก็เหมือน เหมือนวิญญาณหญิงสาวอยู่ตรงพุ่มใบก็เหมือน น่าพินิจค้นหา

งานป่าชิ้นที่สองเป็นของอ๊อฟ ธีรวัจน์ วงค์อินทร์ ศิลปินชาวใต้ วาดภาพป่าที่เขาหลวงจังหวัดนครศรีธรรมราชละเอียดลออถึงขั้นเห็นเสี้ยนใบไม้ อ๊อฟเล่าว่าต้นทุกต้นในรูปนั้นมีอยู่จริง ดอกตีนเป็ดบานราวกับจะได้กลิ่นออกมาจากภาพ ดูแล้วน่าปลื้มใจกับผู้ที่ใช้เวลาในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างละเอียดปราณีต เช่นเขา นอกจากนี้ยังใส่ภาพสัตว์ต่างๆประกอบเข้าไปด้วยละเอียดงดงามสมจริง

ปิดกันด้วยผลงานของไอซ์ ทิชานนท์ ซึ่งไปได้รางวัลในงานประกวดของเครือศุภาลัยมาไอซ์บอกว่า ฤดูฝนมาใบไม้ก็ผลิออกฟูเต็มต้น สีเหลืองโทนเขียวน่าชื่นใจ โดยมุ่งเน้นคุณค่าในธรรมชาติ ป่าและสิ่งแวดล้อม ทว่าในสภาวะกาลปัจจุบันที่ปัญหาฝุ่นควันขนาดเล็กเข้ามาคุกคามส่งผลต่อการใช้ชีวิตทั้งทางกายภาพ สุขภาพ และจิตวิญญาณ ไอซ์เลยเอามุ้งมาโรยทับเขียนสีด้วยถ่านข้าวโพด ซ้อนมิติภาพอีกทีหนึ่ง เพื่อสะท้อนความขมุกขมัวอันน่าสงสารของป่าที่ควรจะสดชื่นผ่องใสแต่กลับถูกอุตสาหกรรมไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุกไล่บีบรัดเข้ามาเรื่อยๆจนมัวซัวลงไปน่าใจหาย

อีทีนี้เพื่อให้อารมณ์ของท่านผู้อ่านไม่จิตตกลงไปด้วย จึงขอนำเสนอภาพของไอซ์ก่อนการใส่มุ้ง เพื่อเป็นปฏิภาคผกผันว่า ถ้าหากปวงเราสามารถกำจัดเหล่าฝุ่นควันพิษออกไปได้เท่าไร ป่าก็ยังน่าอาบอยู่เหมือนเดิมอย่างนั้นและป่าคงยังทำหน้าที่บำบัดเยียวยาให้ผู้คนได้เหมือนที่เคยทำตลอดมาและตลอดไป