KEY
POINTS
ซอฟพาวเวอร์ของชาติที่นายกรัฐมนตรีแพรทองธารเคยหมายมั่นปั้นมือจะทำให้เกิดวงจรใหม่ทางเศรษฐกิจของไทย หมายใจจะปลุกความซึมเซาเบาแผ่วใกล้ตายของพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายซึ่งนาทีเหมือนต้นไม้ยืนต้นเฉาตาย (ยังมีหัวใจแต่ไร้ชีพจร)
ท่านนายกสาวคงไม่หมายถึงกางเกงช้างกับผ้าซิ่นผ้าทอหรอกกระมัง? วรรณคดีไทยหลายเรื่องมีความพร่างพราวทางเรื่องราวเนื้อหาอยู่ไม่เบา เสียแต่ไปติดข้อจำกัดอยู่ที่ว่าแบบธรรมเนียมดั้งเดิมเขาจารจารึกในรูปฉันทลักษณ์เฉพาะ ที่อยู่ๆนึกจะเสพจะอ่าน จะใช้ภาษาไทยขั้นพื้นฐานอย่าง ที่พี่จอง และ คัลแลน ดาวโซเชียลชาวเกาหลีพยายามเรียนไทยแค่ไหนในเวลา 3 ปีก็ยังจะไม่สามารถเข้าใจโดยสนุกและซาบซึ้งได้
ยิ่งกาลเวลาผ่านโลกยุคใหม่รับสาส์น/สารผ่านคลิปวิดีโอและภาพเคลื่อนไหว ซึ่งไปได้ดีทั้งผู้รับสารรุ่นใหญ่, รุ่นใหม่ และวัยรุ่น มันก็ควรจะมีใครสักคนทำตัวเป็นสะพานนำวรรณคดีไทยไทยมาย่อยให้บางลง เบาลง แปรและแปลงรูปให้เป็นงานสื่อสารชนิดใหม่เพื่อคนทั้งปวง(ยูนิเวอร์แซล)เข้าถึงได้ จะได้เกิดเป็นมวลสารขนาดใหญ่เคลื่อนที่ออกไปสู่โลกกว้างนำรายได้เข้ามาสู่ประเทศเรากันบ้าง
ก็ขนาด “ฐานเศรษฐกิจ” เองมีหนังสือพิมพ์กระดาษยังไม่พอ ต้องเคลื่อนที่ทำดิจิตอลทรานสฟอร์มเมชั่น
กลายเป็น “ฐานเศรษฐกิจมันติมีเดียส์” ส่งสารสื่อสารถึงผู้คนทั้งปวงไปทุกแพลตฟอร์ม แถมยุคนี้ทำปุ่ม ให้แตะนิดเดียวเอไอก็อ่านเนื้อหาให้ฟัง ไม่ต้องใช้สายตา ส่วนท่านที่ยังชอบใช้สายตาอยู่ก็ยังมีปุ่มแปลภาษาทันทีเป็นอังกฤษ เป็นจีนส่วนภาษาญี่ปุ่นกำลังทำ อันนี้ก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นสะพานส่งออกซอฟพาวเวอร์ออกไปนอกประเทศได้อีกกรณีหนึ่ง
ส่วนกรณีของวรรณคดีพระลอนั้น ‘ท่าน’ รจนาจารึกไว้ในรูปลิลิตซึ่งเป็นศิลปะวรรณกรรมขั้นสูง ผู้ใดจะเสพสารโดยอภิรมย์เต็มตื้นได้นอกจากต้องมีพื้นฐานทางภาษาแน่นในระดับหนึ่งแล้วจะต้องเข้าใจในระบบฉันทลักษณ์มาก่อนจึงจะเกิด flavour booster อ่านให้เติมเต็มอารมณ์กันได้ หาไม่แล้วก็คงเป็นแต่การอ่านเอาเรื่อง อ่านข้ามๆไปพอได้ใจความแต่เพียงเท่านั้น
พระลอเป็นใครกัน?
แล้วไปตามมันทำไมล่ะไก่?
อันนี้ก็ไม่ใช่ว่ามีใครเขาตั้งกระทะทอดไว้แล้วกลิ่นไก่หมักเครื่องโดนน้ำมันร้อนๆมันฟุ้งฝอยลอยมาตามลมมา
เข้าจมูก จนแกจะต้องเดินตามไปหามากินให้อร่อยโอชา เหมือนอย่างในโฆษณาทีวี คงหามิได้
พระลอนี้ โดยวรรณคดีรังสรรค์ ท่านให้เป็นคนหนุ่มโรแมนติก บ้านอยู่เมืองสรวงในฐานะเจ้าชายของเมือง
ผู้คนทั้งโลกาพากันชื่นชมว่าแกเป็นหนุ่มหล่อสุด หน้าตางดงาม รูปร่างก็สดสวย กิตติศัพท์ความหล่อของพระลอเป็นที่ลือไปไกล ใครๆก็โจษขานจนแทบจะเปลี่ยนชื่อแกเป็นพระหล่อ_55 เมืองของพระลอ ชื่อว่าเมืองสรวง เป็นคู่อริกับเมืองสรอง มีแม่น้ำคั่นชื่อน้ำกาหลง
ปัจจุบันมีผู้สันนิษฐานกันว่าเมืองสรวงหรือแมนสรวงนี่คือหลวงพระบาง ข้างเมืองสรองอ่านว่าสอง คือ อำเภอสองจังหวัดแพร่ แต่บางท่านบอกเป็นพะเยาต่างหาก ก็สนุกดีที่เกิดการถกเถียงกัน ยอดวิว ยอดไลค์จะได้เพิ่มขึ้นบ้างเป็นเงินเป็นทอง ซึ่งพอมีการไวรัลก็จึงดึงใครต่อใครมาวิพากษ์วิจารณ์กันต่อว่าไม่ใช่หรอกหลวงพระบางน่ะ เวียงกาหลงมากกว่าน่าจะอยู่แถวเวียงป่าเป้าเชียงรายเรานี่ไหม ฯลฯ ฯลฯ
นาทีนี้ Soft Power ก็มาแล้ว ลากยาวไปถึง การสร้างความรับรู้ฝ่าย Country of Origin และสินค้าโอท็อป ตามหลักภูมิศาสตร์กันต่อไปได้อีก
อีทีนี้ปัญหามันอยู่ที่ว่า ที่เมืองสรองนั้นเขาก็มีเจ้าหญิงพี่น้องซึ่งไม่แน่ใจว่าฝาแฝดกันไหม(อันนี้จุดประเด็นให้ไวรัลกันไปอีกทอดหนึ่ง) เธอชื่อกันว่าพระเพื่อน_พระแพง เริ่มจะแตกเนื้อสาว
อันคนเราเมื่อถึงวัยกำดัดเจริญพันธุ์ คนมีดอกจำปี_จำปีมันก็เริ่มผลิ คนมีดอกมะลิ_มะลิมันก็เริ่มแย้ม ในใจหนุ่มสาวทั้งนั้นมันก็จะตุ๊มๆต่อมๆ ที่ยอดอก วาบวาบหวิวๆหวามๆที่ยอดใจ…อยากจะได้กันให้สาสม!
ข่าวความงามละออของพระหล่อพระลอท่านแพร่ข้ามน้ำไปไกลถึงเมืองสรอง สองสาวเจ้าหญิงมือใหม่ก็คลั่งไคล้อยากจะได้ตัวแกมาเชยชม อารมณ์ประมาณว่าเอฟซี Fan Club ชาแชง ซาแซง จึงปรึกษายังประดาข้าหลวงกำนัลในไปจนคุณพี่เลี้ยงผู้มีประสพการณ์ ว่าจะทำอย่างไรให้ความสมใจใคร่เสพในรูปคนหล่อมาถึงตัวได้โดยพลัน
นางพี่เลี้ยงตัวร้ายซึ่งอาศัยอยู่ในราชสำนักก็ใช้เล่ห์นกต่อผสมวิชาแม่สื่อแม่ชัก จ้างวณิพกมีชื่อไปร้องเพลงขับซอบรรยายสรรพคุณของสองนายสาวให้เข้าหูพระลอยังเมืองต้นทาง มาถึงจุดนี้ก็จะมีซอฟพาวเวอร์อีกละมาแทรก ด้วยว่าอันคนเราซึ่งสืบสายวิชาให้ความบันเทิงจะร้องจะรำจะทำขับซอนั้น นอกจากจะต้องมีครูดี มีทักษะดี ฝึกฝนมาดี ก็ยังต้องมี มี “ของ”
ไม่ว่าจะเป็น : นะหน้าท้อง ,เป็นลิ้นสาริกา แม้กระทั่งว่าตะโพนอาถรรพ์ ตีดึงดูดผู้ชมให้พากันมาชมเยอะเยอะมาแล้วได้ยินเสียงหวานแว่วไพเราะก็จับใจ(ฤทธิ์สาริกา) ยิ่งพอได้เห็นหน้าคนร้องก็หลงใหล(ฤทธิ์นะหน้าทอง) ยิ่งก้าวเข้ามาฟังยิ่งติดใจ รอบหน้าก็มาใหม่กลายเป็นแฟนตัวยง!
นี่ย่อมถือเป็น business process ฝ่ายของขลัง ถือเป็น ‘ซุปเปอร์’-ซอฟพาวเวอร์ นำเสนอขายต่อชาวโลกได้อีก!!จังหวะที่พระลอได้ฟังซอขับนั้นแล้วก็คล้ายว่าต้องมนต์มีจิตร้อนรนกระหวัดรัดเกี่ยวไปหาสาวทั้งสอง (โดยกระสัน)
ซึ่งทางฝ่ายนั้นก็เว้าวอนรอคอยด้วยความวาบหวิวใจพอกันว่าเมื่อไหร่เจ้าชายจะมา ทีนี้ว่าเพื่อเร่งปฏิกิริยาให้เร็วขึ้นสมใจ ฝ่ายสาวก็บุกพงไพรไปหาจอมขมังเวทย์นามว่าปู่เจ้าสมิง(ไพร)ผู้เรืองเดช ปู่เจ้าท่านนี้มีวิทยาการซอฟพาวเวอร์มาก ก่อนจะช่วยใคร ท่านจะเพ่งพินิจจิตศาสตร์เสียก่อนว่าใครเป็นใคร เปนมายังไงมีบุพกรรมมาอย่างไรจึงจะตัดสินใจช่วย_ช่วยทำของ 55
ซึ่งโดยกรณีปู่เจ้าฯนี้นั้น ถ้าว่าสะกดสมิงพรายก็จะดูน่ากลัวหน่อย ออกเป็นลักษณะของภูตผีมีกลิ่นสาบสางสยองสยดปนเลือดหนองของพรายลอยตามมาจากตัวอักษรที่อ่าน_บรื้อว์..
แต่ถ้าสมิงไพรอันนี้ดูแล้วเข้าทีกว่าเพราะว่าปู่แกอยู่ในพงไพรป่าลึก การจะเข้าหาปู่เจ้าฯ ทำได้ยากต้องบุกป่าป่าดงเจอเหตุเภทภัยอันตรายต่างๆนานา แต่สองสาวและทีมงานก็บ่ยั่น (แทนที่จะบุกมาหาพระลอเสียเลย เหนื่อยเท่ากัน_ปั้ดโถ่!) ปู่เจ้าทำของผ่านธงซึ่งต้องเอาเอาไปผูกให้โบกสะบัดโดนลมบนยอดตะเคียน ฯลฯ ฯลฯ ให้อาคมม้วนตัวไปกับอากาศ นัยยะว่าท่านสำเร็จกสิณลม มีกำลัง มีเดช มีฤทธิ์!
ข้างฝ่ายพระลอรูปหล่อโดนของเข้าไปก็หวั่นไหวใจกระแส ดิ้นรนปนกระเส่าจะออกลุยป่าข้ามพรมแดนไปหาสองสาว พระชนนีเห็นลูกชายเพี้ยนไปก็หาทางแก้ของ ซึ่งเมื่อพอแก้ได้ ปู่เจ้าท่านก็ ‘เติม’ เข้ามาใหม่วนไปหลายรอบจนเกิดภาวะที่สมัยนี้เรียกว่า พระลอแก ‘คลั่งรัก’
ศิลปินรุ่นใหม่ ณัฐดนัย ทองเติมพื้นเพเป็นคนจังหวัดนครนายก เกิดในครอบครัวบุคลากรทางการแพทย์ซึมซับวัฒนธรรมพื้นถิ่นในสังคมเกษตรกรรมชายทุ่งรวงทองมาแต่เล็กเป็นผู้นิยมชมชื่นในวรรณคดีไทย แม้ว่าตัวเองจะเรียนหลักสูตรอีพี-อิงลิชโปรแกรมก็ตาม สำเร็จปริญญาจากรั้วศิลปากรแล้วกำลังต่อปริญญาโทภาควิชาศิลปะไทยวันๆก็ขะมักขะเม้นนำเอาก้อนแร่ธาตุต่างๆมาสะตุมาเผาเอาสีเพื่อใช้เขียนวาดทำงานศิลปะทั้งแร่มาลาไคท์สีเขียว เจือเทอร์คอยซ์สีฟ้าไข่นกการะเวกต่างๆ บางทีกวนกาวจากเม็ดมะขามทำงานดินสอพองเตรียมพื้นผิวงานแบบไทยประเพณี
พบกันงวดนี้ ณัฐดนัยเขียนภาพพระลอคลั่งมีสีสันสวยสดละออตาด้วยรงควัตถุที่เธอพากเพียรตำทำสรรหามาด้วยวิถีโบราณ ส่งบรรยากาศของภาพพาให้หลงใหลด้วยมีการประสมรูปแบบสัญญาอันอ่อนไหวเข้าไปเป็นองค์ประกอบ combination ในรูปทรงโค้งของช่องแกล_หน้าต่างฝรั่งเปนกรอบ สวยงามมีมิติ ในจังหวะที่พระลอโดนของชักเข้าชักออกอยู่นั้น
เพื่อให้สัมฤทธิ์ผล ขีดกรอบการเดินทางไม่ให้ไขว้เขวออกไปไหน ปู่เจ้าเลยจัดการเสกไก่พยนต์ให้มันสวยงามวิเศษไปปรากฏแถวที่พระลอตั้งแคมป์ค้างแรมในป่า เพราะลอตื่นมาเห็นไก่แก้วสีปลาดอาคมนี้เข้าแกก็ต้องมนต์ทันทีว่าไก่อะไรนี่มันช่างสวยงามปะล้ำปะเหลือ (แกเป็นคนเหนือต้องพูดแบบนี้) ขนก็ว้าววาวอย่างกับแก้ว ส่งเสียงขันคู ก็กังวาฬเสนาะเพราะหู ดังนี้พระลอก็ติดใจเดินตามไก่ไปจนถึงเมืองสรองคู่กรรม
ณัฐดนัยมองลึกลงไปกว่าคำเขียนที่หุ้มเปลือกไก่ด้วยอาคมไว้สวยสด ได้สร้างภาพไก่แก้วอาถรรพ์นี้ไว้อย่างได้อารมณ์ เป็นไก่สีดำรูปทรงไก่ฟ้า มีหน้าคนเยี่ยมมองสยายปีกลึกหลอนบินกระพือร่ายระบำอย่างว่ามีมนตราพาให้ลุ่มหลง มีนกกระตั้วตัวเมียสีดอกบัวหลวงคู่หนึ่งเห็นเหตุการณ์ชอบกลอยู่ ก็เพ่งมองพระหล่อ แบบว่าลุ้นในใจ ชะรอยจะเป็นสัญลักษณ์ใช้แทนสองสาวพระเพื่อนพระแพงเพราะนกกระตั้วนี้มีความเจ้าชู้ไม่เบาโดยธรรมชาติ
ส่วนไก่ฟ้าปกติยังคุยเขี่ยหากินอยู่บนพื้น_การเมืองไม่ยุ่งการมุ่งไม่เกี่ยว 55
การตีความของศิลปินรุ่นใหม่ที่สื่อผสมงานสนุกทันสมัยออกมาบนความละออตาของรงควัตถุแบบประเพณี
อันนี้ควรที่จะสนับสนุนเข้าสู่โครงการซอฟท์พาวเวอร์กันบ้าง ความสวยงามอันเป็นสากลนี้ย่อมจะดึงดูดมวลมหาชนอีกภาคหนึ่งของโลกให้เข้ามาสนใจใฝ่ฝัน
จริงอยู่ว่างานฝีมือระดับชั้นครูของเรานั้นก็มีมากและไม่ธรรมดา มีความเป็นเลิศสูงแต่ในช่วงเวลาที่ประสบปัญหาวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจอยู่นี้ อะไรที่พอเป็นเงินเป็นทองได้ก็ควรต้องหยิบคว้ามาจัดหาจัดทำ
วางตำแหน่งให้เข้าถึงกลุ่มผู้เสพงานศิลปะให้เป็นคนรุ่นใหม่มีความทันสมัยและสามารถเข้าถึง งานศิลปะของคนรุ่นใหม่ด้วยกันได้ในระดับราคาที่จับต้องได้ ไม่ต้องรอให้ผู้บริโภคสั่งสมความมั่งคั่งให้นานนัก ก็น่าจะเปนความสมเหตุสมผล จะมัวรอให้ศิลปินรุ่นใหม่พัฒนาฝีมือให้ได้เลิศล้ำย่อมกินเวลาเป็นทศวรรษ ตรงตามภาษิตว่าลับกระบี่เล่มหนึ่งใช้เวลาสิบปี อันตลาดของผู้เสพงานศิลปะย่อมกว้างขวางทั่วไป ไม่ควรจำกัดแต่เหล่าเศรษฐีมหาเศรษฐี
อันนี้ก็ตรงกับที่ว่าแบบประเพณีโดยแท้กับแบบประเพณีโดยรังสรรค์ขึ้นใหม่นั้นควรเดินไปคู่กันทั้งงานอนุรักษ์และงานพัฒนา
ขอขอบคุณ :