เทคติคลุกเคล้าเขย่ายุคกวนโอ๊ย ฉากที่ 5

28 พ.ย. 2568 | 23:14 น.

เทคติคลุกเคล้าเขย่ายุคกวนโอ๊ย ฉากที่ 5 : คอลัมน์เปิดมุกปลุกหมอง โดย... ดร.สุรวงศ์ วัฒนกูล หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 4153

KEY

POINTS

  • นำเสนอเรื่องเล่าและเกร็ดขำขันจากแวดวงกฎหมายและศาล ที่สะท้อนพฤติกรรม "กวนโอ๊ย" ในรูปแบบต่างๆ
  • ยกตัวอย่างคดีที่ลูกความใช้เล่ห์เหลี่ยมเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน เช่น เศรษฐีแสร้งทำตัวเป็นคนสวนเพื่อเลี่ยงจ่ายค่าเลี้ยงดู
  • ชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมหรือคำพูดที่ยียวนในบางครั้งก็นำไปสู่ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง ทั้งในแง่การถูกลงโทษและสร้างเสียงหัวเราะในชั้นศาล

สก็อตต์ เทราต์ ทนายความด้านการหย่าร้างชั้นนำใน USA นั่งฟังเจ้าสัวรายหนึ่งอย่างจดจ่อ คนมีตังค์เขาอ้างว่า “ผมทำเงินได้ไม่เพียงพอที่จะจ่ายค่าเลี้ยงดูคู่สมรส” ทนายรู้ดีว่าเขามีเงินเยอะแต่ก็ไม่พูดขัดคอ แต่เขาก็พอจะรู้ได้ว่า ไอ้หมอนี่มันเป็น CEO บริษัทใหญ่ปึ้ก มีเงินเกินพอที่จะจ่ายเงินเลี้ยงดูคู่ชีวิตได้ ถึงกระนั้นก็ยังคงอุบอิบยืนกราน กล้าให้การแบบเล่นละครกลางศาล ถึงขนาดลงทุนแต่งกายด้วยชุดทำงานสกปรก ตะแกให้การกับผู้พิพากษาว่า “ผมทำงานเป็นช่างจัดสวน หาเลี้ยงชีพด้วยการตัดหญ้า” 

ผู้พิพากษาถามว่า “คุณลงมือตัดหญ้ากันตอนกี่โมง?” แกก็ตอบว่า “ตัดได้ทุกเวลา หญ้ามันไม่หนีไปไหน!” ในความเป็นจริง นักตัดหญ้ามืออาชีพเขาตัดกันตอนบ่ายสาม เพราะหญ้ากำลังอยู่ในสภาพที่เหมาะสม (ฮั้นแน่ เริ่มมั่วล่ะสิ) ผู้พิพากษาท่านถามต่อว่า “น่าสนใจนะ ผมขอความรู้หน่อย ระหว่าง หญ้าญี่ปุ่น หญ้านวลน้อย กับ หญ้ามาเลเซีย หญ้าสายพันธุ์ไหนที่เขาจะตัดกันไม่บ่อยเหมือนสายพันธุ์อื่น?” แกก็ยังคงตอบเหมือนเดิมว่า “ตัดได้ทุกเวลา หญ้ามันไม่หนีไปไหน!”

 

แสดงว่า แกไม่รู้ว่า หญ้ามาเลเซีย ใบใหญ่ อวบน้ำ และ เปราะ เขาจะตัดกันประมาณ 10 - 15 วัน จะพอดี แต่ก็ยังดีที่แกไม่ตอบว่า “มักจะหยุดตัดกันในวันที่ ปะเต้ดไต ปะฉะดะกับ ปะเต้ดวุ้นเส้น!” (ฮา)

จะว่ากันไป คำว่า “ครอบ” เรามักจะไม่สนใจเท่าที่ควร “ครอบ” รูปทรงคล้ายกับ ลูกฟัก หรือ แตงกวา มีฝาครอบ ตอนล่างมีฐานรองรับเป็น รูปกลีบบัว หรือ บัวเกลี้ยง เราจะเห็นได้ว่า คือ “ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้!”
หรือ ภาชนะโลหะสำหรับใส่น้ำพระพุทธมนต์ เนื้อความโดยรวม มุ่งเน้นการยอมรับว่า ผู้ทำหน้าที่ ครอบ จะเป็นผู้มีความสูงศักดิ์ที่สังคมเคารพ เป็นผู้ที่มีน้ำใจเมตตาปราณีที่ผู้คนนับถือ ท่านจะประสาทพรให้เพื่อความเอิบอิ่มใจ

วันไหนที่พอจะมีเวลาว่าง ลองเอาสามบรรทัดนี้มากางดูความหมายว่าอะไรคืออะไร

ราชการ ดำเนินกิจกรรมเพื่อหวัง ผูกใจมวลชน ท่านใดเป็นบุคลากรของ กระทรวงมหาดไทย ลองถามใจเราเองดูว่า ในหลวง ร.5 มอบให้ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยองค์แรก) คิดจัดตั้งชื่อไว้ว่า มหาดไทย อะไร คือ ความหมายของชื่อ คำตอบที่ดีที่สุด คือ เมตตายิ่ง กรุณายิ่ง ทำไมถึงได้ความอย่างนั้น

ฝากให้เอาไปคิดเป็นการบ้าน บอกใบ้ให้เลยว่า ถ้า ผัว กับ เมีย มีเมตตายิ่ง กรุณายิ่ง ครอบครัวจะเป็นอย่างไร! 

สามีโหนรถเมล์กลับบ้าน ยืนเบียดเสียดกันอยู่นาน จึงมีเส้นผมของคุณป้า หลุดร่วงไปเกาะติดอยู่บนปกเสื้อ เมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้าน ภรรยาลุกขึ้นรออยู่ตรงห้องรับแขก สายตาแหลมคมเหลือบไปเห็นเส้นผมเกาะอยู่ตรงปกเสื้อ ปกติเธอจะ พ่นพิศ แต่ทว่า รอบนี้ พ่นพิษ ฉับพลัน ยังไม่ทันจะได้ฟันธงก็ลงมือโล้งเล้ง ตะหลุบตุ่บป้อง ว่า ไปฟัดกะใครมา หลักฐานเต็มตา เส้นผมสาวหลุดคาปกมาเลย 

หลังจากวันนั้น ก่อนที่ สามี จะกลับบ้าน เขาจะต้องแวะสะบัดเสื้อและกางเกงเผื่อเอาไว้ก่อน จะได้ไม่ปวดเศียรเวียนวน ผ่านไปหลายสัปดาห์ภรรยาฉงนใจว่า ทำไมไม่มีหลักฐานติดตัวมาเลย ว่าแล้วก็ กวนโอ๊ย ว่า เลิกแต๊ะอั๋งสาวผมยาวหันมาจีบสาวหัวโกร๋นเลยเหรอ (ฮา)

กระบวนการคัดเลือกคณะลูกขุนไม่ได้ห้าม “อารมณ์ตลก” เสมอไป แต่ก็มีหลักการข้อยกเว้นให้ผู้ร่วมงานทุกคน จะต้องระมัดระวังเรื่องมารยาท ครั้งนี้มีหญิงชราคนหนึ่ง พูดจาว่ากล่าวด้วยน้ำเสียงอันอ่อนหวานอย่างเป็นกันเองขึ้นในที่ประชุมว่า “ฉันรู้จักเจ้านายของเราดีเขาเป็นคนงี่เง่าจริงๆ”

คณะลูกขุนหันหน้ามองกันไปมองกันมาทั้งโต๊ะ ในที่สุดเขาก็ลงมติ ไล่ออก ในฐานะ พูดจากวนโอ๊ยผิดที่ ผิดเรื่อง ผิดเวลา ผิดวาระ ผิดวิสัย ไม่เข้าข่าย ไร้เมตตายิ่ง ไร้กรุณายิ่ง เข้าข่ายการพูดยั่วยวนจิตสะกิดแผลใจ 

แรนดอล์ฟ ไรซ์ ผู้ก่อตั้งบริษัทกฎหมายเรื่องข้าว แห่งบัลติมอร์ ชื่นชมการแสดงตลกแบบหยิ่ง อยู่หลายครั้ง แต่ไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้นในกรณีที่ฮือฮาได้ขนาดนี้ “ฮือ” คือ “เสียงอุทานของอาการวงแตก” และ “ฮา” คือ “เสียงของอาการผู้ซึ่งมีอารมณ์ครึกครื้น” 

เขาเล่าให้ฟังว่า “มีอยู่ช่วงหนึ่งผมกำลังช่วยแก้ต่างให้ผู้หญิงคนนั้นในข้อกล่าวหาในทางอาญา ผมกำลังพยายามโน้มน้าวให้ผู้พิพากษาเห็นอกเห็นใจเธออย่างมาก แต่เมื่อผู้หญิงคนนั้น เธอรินน้ำจากเหยือกบนโต๊ะ ซึ่งในขณะที่เธอลงมือเท ฝาเหยือกก็หลุดกลิ้งออกมา ส่งน้ำกระเซ็นไปทุกที่!” ว่ากันว่า โชคดี ผู้พิพากษาท่านนี้ส่งเสียงหัวเราะสนั่นศาล ท่านเอาผ้ามาซับไปพูดไปว่า “ผมว่า การสาดน้ำวันนี้มันจั๊กกะจี้สนุกกว่าวันสงกรานต์เยอะเลย” ว่าแล้วท่านก็ตัดสินใจลงโทษด้วยการปรับแค่หอมปากหอมคอ (ฮา)  

กระแสเรียงกันมาเป็นตับเลย รัสเซลล์ ไนท์ ทนายความด้านกฎหมายเกี่ยวกับครอบครัว ยังคงขำกับเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการความช่วยเหลือในการพิสูจน์ว่า ใคร คือ พ่อของลูกของเธอ แต่น่าเสียดายที่มันซับซ้อนกว่านั้นเล็กน้อย ปรากฏว่า เด็กคนนี้เป็นผลมาจากการยืนหนึ่งคืน (เพื่อ…) 

อย่างไรก็ตาม ปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ว่า เธอไม่สามารถเสาะหาพ่อได้ จึงถามว่า “รู้จักญาติของเขาบ้างไหม” เธอก็ตอบว่า “รู้จักพี่เขา” ทนายก็ถามต่อว่า “คุณรู้จักพี่ชายของเขาได้ยังไง” เขาตอบหน้าตาเฉยว่า “เขาเป็นสามีของฉันเอง” (ฮา)

ทนายอุทานทันทีว่า “ปั่ดโถ๋ ปั่ดโถ่ ปั่ดโถ้” เธอถามมั่งว่า “ปั่ดโถ๋ อะไร” ทนายตอบว่า “อ้าว คุณเองก็เคยอุทาน ปั๊ดโธ่ ขอก็อุทาน ปั่ดโถ๋ บ้างไม่ได้เหรอ” เธอถามอีกว่า “แล้วทำไมต้อง ปั่ดโถ๋ ถี่ยิบ” ทนายตอบทันทีว่า “เธออุบอิบวนไปวนมา ถ้าบอกตั้งแต่ตอนแรกมันก็ โอ.เต.”
เคสนี้สิครับ กวนโอ๊ย ก็ใช่ ไม่กวนโอ๊ย ก็ไม่ใช่ ศาลกำลังดำเนินคดีกับวัยรุ่นที่ต้องสงสัยว่า ลักทรัพย์ เมื่อท่านผู้พิพากษาขอให้ทุกคนยืนขึ้นและระบุชื่อและบทบาทของตนต่อนักข่าวศาล แต่ละคนก็ปฏิบัติต่อเนื่องกันไป

“ลีอาห์ เราช์ รองอัยการ ครับท่าน” ต่อมา “ลินดา โจนส์ เจ้าหน้าที่คุมประพฤติ ครับท่าน” ถัดมา “แซม คลาร์ก กองหลังสาธารณะ” และแล้ว ความเพลิดเพลินไม่เคยเข้าใครออกใคร อย่างเช่น “จอห์น วัยรุ่นที่อยู่ในการ์ด ผมเป็นคนขโมยรถบรรทุก ครับท่าน" (ฮา)