KEY
POINTS
รายงานจากงาน Future Forum 2025: The Great Transformation ที่จัดโดยสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) สะท้อนมุมมองผู้นำองค์กรชั้นนำไทยต่อ “ยุคเปลี่ยนผ่าน” ที่ภาคธุรกิจต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน ทั้งในเชิงโครงสร้าง กลยุทธ์ และการพัฒนาคน
อัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี กล่าวในหัวข้อ “No Time to Fail: Be Crisis-Ready” ว่า
“ท่ามกลางวิกฤตที่เกิดขึ้น ผมมองว่า มีโอกาสเสมอ ถ้าเราเตรียมความพร้อมขององค์กร มีการทำแผนกลยุทธ์ที่รับมือกับธุรกิจกรณีที่แย่ที่สุด ก็จะสามารถขับเคลื่อนองค์กรให้ผ่านวิกฤตได้ โดยที่องค์กรยังคงมีความแข็งแกร่งที่จะเติบโตต่อไป ไม่ใช่แค่บริหารองค์กรผ่านวิกฤต แล้วศักยภาพในการดำเนินของภาคธุรกิจ หรือ ประเทศลดลง เหมือนที่ผ่านมา”
นายอัศวิน ชี้ว่า ปัจจัยที่ต้องจับตาคือ 1.การเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลกที่กระทบการค้าและการลงทุน 2.โครงสร้างธุรกิจที่ถูกพลิกด้วยเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค และ 3.การนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาสร้างมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนการบริหารบุคลากรที่มีโครงสร้างเหมาะกับยุคใหม่
กานติมา เลอเลิศยุติธรรม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจองค์กร AIS กล่าวในหัวข้อ “Talent Strategy 2030 - The Future of Hiring, Skilling & Retention” ว่า การเปลี่ยนแปลงขององค์กรจะเกิดขึ้นไม่ได้ หาก “คน” ไม่เปลี่ยน
เธอเผยว่า AIS ปรับโครงสร้างฝ่าย HR ให้มีบทบาทกำหนดทิศทางบุคลากร โดยใช้ระบบคัดเลือกจากทักษะและศักยภาพแทนระบบเดิมที่ผู้บริหารเลือกเอง พร้อมย้ำว่า พนักงานทุกคนต้องเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้จริง เพื่อขับเคลื่อนองค์กรในยุค AI
“ปัญหาขององค์กรจำนวนมากคือ ลงทุนในเทคโนโลยีแต่คนไม่รู้จะใช้ยังไง กลัวเทคโนโลยี เราต้องเปลี่ยนสิ่งนี้” เธอกล่าว พร้อมชี้ว่า แนวโน้มการทำงานในอนาคต จะผสมผสานระหว่างพนักงานประจำและการจ้างงานอิสระ โดยการประเมินผลจะยึด “คุณค่าของงาน” มากกว่าตำแหน่ง
พิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เครือซีพีใช้หลัก “3 สูง 1 ต่ำ” สูงแรก คือ เรื่องของเทคโนโลยีที่เครือให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง สูงที่สอง คือ บุคลากร ต้องสร้างคนที่มีศักยภาพสูง
และ สูงที่สาม คือ การให้เงินเดือนสูง ซึ่งเป็นนโยบายที่ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ต้องนำมาปรับใช้ในการบริหารจัดการบุคลากรขององค์กร ต่ำ 1 คือ ต้นทุนทางธุรกิจต้องต่ำ ซึ่งจากการลงทุนใน 3 สูงข้างต้นก็จะทำให้ต้นทุนการทำธุรกิจต่ำลงไปโดยปริยาย
พร้อมเสริมแนวคิด “3 เพิ่ม 2 ลด” เพื่อเพิ่มคุณภาพสินค้า ลูกค้า และประสิทธิภาพพนักงาน ขณะเดียวกันลดค่าใช้จ่ายและกระบวนการที่ซ้ำซ้อน
“เรามุ่งให้พนักงาน 100% ใช้เทคโนโลยีและ AI ได้จริง ผู้บริหารต้องเปลี่ยนบทบาทจาก ผู้สั่ง เป็น ผู้สนับสนุน เพื่อสร้างศักยภาพทีมงานและนวัตกรรมใหม่ ๆ”
เอกพล ณ สงขลา รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) แสดงความเห็นว่า องค์กรยุคใหม่ต้องขับเคลื่อนด้วยความเป็น “THAIs” ที่สื่อถึง Trust การสร้างความเชื่อใจในการทำงานร่วมกัน Human Centric การให้ความสำคัญกับคนมากกว่าเทค Accountability การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ Innovation สอนให้คนสร้างโซลูชันใหม่ ๆ และ Synergy ประสานพลังการทำงาน
โดยทุกอย่างจะเริ่มจาก “คน” ก่อน ทำอย่างมีเป้าหมาย สร้างงานใหม่ ๆ อยู่เสมอ และส่งเสริมให้เติบโตจากภายใน โดยเฉพาะคนที่มีความมุ่งมั่นต่อองค์กร
วรวัจน์ สุวคนธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทรัพยากรบุคคล ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กล่าวว่า ธนาคารต้องเผชิญการแข่งขันใหม่จาก Virtual Bank และเทคโนโลยี จึงต้องเร่งยกระดับองค์กรด้วย 3 หลักใหญ่ คือ
Resilience องค์กรต้องมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ธุรกิจหลักต้องแข็งแกร่ง องค์กรต้องมีขนาดที่กระชับคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงลงมืออย่างมีเป้าหมายและรวดเร็ว Productivity เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง เพราะคู่แข่งจะไม่ใช่หน้าเดิม แต่จะเป็นบริษัทเทคโนโลยี และ Sustainability ทำอย่างไรให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
พร้อมกลยุทธ์ 5 ด้านในการพัฒนาองค์กร ได้แก่ การปรับโครงสร้างการทำงาน, ยกระดับประสิทธิภาพ, พัฒนาทักษะดิจิทัลและ Human Skill, ส่งเสริมสุขภาวะพนักงาน และใช้ AI กับ Data ในงาน HR เพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์
“คู่แข่งของเราในอนาคตอาจไม่ใช่ธนาคาร แต่เป็นบริษัทเทคโนโลยี เราต้องพร้อมตั้งแต่วันนี้” นายวรวัจน์ กล่าว
สรุป...ทุกองค์กรต่างเห็นตรงกันว่า “หัวใจของการปรับตัวในยุควิกฤต” ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีหรือโมเดลธุรกิจใหม่ แต่คือ “คน” ที่พร้อมเรียนรู้ ปรับตัว และเติบโตไปกับการเปลี่ยนแปลง เพราะในโลกที่ไม่แน่นอน ความยืดหยุ่นของคน คือพลังขับเคลื่อนอนาคตขององค์กรไทย