“โอมิครอน” มันไม่กระจอก จริงๆ นะ

28 ธ.ค. 2564 | 04:50 น.

คอลัมน์ ฐานโซไซตี โดย...กาแฟขม

     *** ร้อนฉ่าขึ้นมาในฤดูหนาวเมื่อโควิดสายพันธุ์โอมิครอน มาแรง เร็ว ทำท่าจะลุกลามกลายเป็นคลัสเตอร์ ขึ้นมาแล้วแน่นอน เชื้อมากับคน คนเป็นผู้แพร่เชื้อ จะย้ำว่าเป็นโรคกระจอกเหมือนใครบางคนว่าคงไม่ได้กระมัง เมื่อมีคนเจ็บ คนตายจากโควิด เฉพาะในไทยเกิน 2 หมื่นรายไปแล้ว ตัวผู้เสียชีวิต ครอบครัวเขาอีกกี่คนที่ต้องเสียพ่อ เสียแม่ เสียพี่ เสียน้อง เสียญาติ เสียเพื่อน บางครอบอครัวต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัว ไร้ที่พึ่งพิง อย่างนี้ยังเป็นโรคกระจอกๆ กระนั้นหรือ ถามตรงๆ หัวใจพวกคุณทำด้วยอะไรกัน นี่หรือควรเป็นถ้อยคำ วาทะกรรมที่หล่นจากปากผู้บริหารประเทศ

     *** โอมิครอนเขย่าไปทั้งโลกแล้ว ล่าสุดหลายประเทศในยุโรป งดจัดงานเคาท์ดาวน์ พร้อมหันมาใช้มาตรการการล็อกดาวน์อีกรอบ เนเธอร์แลนด์ประกาศก่อนใคร ด้วยไม่ไหวจริงๆ ในอังกฤษโอมิครอนเล่นงานสะบักสะบอม ไม่น้อยกว่า 8-9 หมื่นรายต่อวัน เยอรมนี 4-5 หมื่นรายต่อวัน เข้าสู่เทศกาลคริสมาสต์ ปีใหม่ต้องระมัดระวังในการเฉลิมฉลอง
 

     *** โอมิครอนในไทยรายแรก เป็นการติดเชื้อจากผู้เดินทางจากต่างประเทศ สามีเป็นนักบิน สัญชาติโคลัมเบีย ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็มจากประเทศไนจีเรียและภรรยาเป็นคนไทย พักอาศัยกับสามีที่เป็นผู้ติดโอมิครอนตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค.2564 ประวัติได้รับแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ถัดมาเป็นคลัสเตอร์ผู้เดินทางกลับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา จากประเทศซาอุดิอาระเบีย จำนวน 3 ราย ลงภูเก็ต ถัดมาเป็นคลัสเตอร์ผู้เดินทางจากซาอุดิอาระเบีย 18 ราย คณะนี้เดินทางมาทั้งหมด 31 คน โดยกลับเข้าในระบบ Test and Go ติดเชื้อโควิค 14 ราย อยู่ระหว่างการตรวจหาสายพันธุ์สงสัยว่าเป็นเชื้อโอมิครอนทั้งหมด กระจายการรักษาอยู่ที่นนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา นครราชสีมา นราธิวาส

     *** เมื่อการติดเชื้อแนวโน้มขยายวง ก็ต้องปรับเปลี่ยนแผนการ โดยยกระดับมาตรการ Test & Go บริหารจัดการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศคือตรวจมาก่อน มาถึงตรวจซ้ำแล้วออกไปได้ ไม่ต้องกักตัว ต้องมีการจัดการให้ตรวจจับได้มากขึ้น อาจต้องปรับระบบไปเป็นการติดตามการตรวจแบบ RT-PCR หรือต้องกักตัวเป็นระยะเวลาเพิ่มขึ้น ที่สุดต้องชะลอเข้าประเทศในรูปแบบ Test&Go สำหรับผู้เดินทางมาจากทุกประเทศ และพิจารณาปรับใช้มาตรการการกักตัวในรูปแบบ AQ หรือ Sandbox นาน 7-10 วัน ตามดูสถิติคนเข้ามาในช่วง พ.ย.-ธ.ค.หลังเปิดประเทศ เดือนพ.ย.มีทั้งสิ้น 133,061 คน ขณะที่วันที่1-19 ธ.ค.จำนวน 160,445 คน ผู้ติดเชื้อเดือนพ.ย. 0.13% เดือนธ.ค.มีผู้ติดเชื้อไปแล้ว 0.22% ***
 

     *** เรื่องดีๆ ท่ามกลางข่าวไม่ดี การส่งออกเดือน พ.ย.64 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ติดต่อกัน มีมูลค่า 23,647.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.7% รวม 11 เดือน 246,243.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 16.4% ทำความปลื้มอกปลื้มใจให้กับ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แหวกดูเนื้อใน สินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น 14.2% เป็นบวก 13 เดือนติดต่อกัน หนึ่งในนั้นทุเรียนสดทุเรียนไทยขายดีในจีน เกาหลีใต้ มะม่วงสด ลำไย สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ก็ขยายตัวดี เพิ่มขึ้น 21.2% น้ำตาลทราย ผลไม้แช่เย็นแช่แข็งกระป๋องและแปรรูป สินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 23.1% ขยายตัวต่อเนื่อง 9 เดือนติดต่อกัน เอาว่าทั้งปีนี้จะโตได้ 15-16%

“โอมิครอน” มันไม่กระจอก จริงๆ นะ

     *** มาที่แวดวงธุรกิจ 22 ธันวาคม 2564 ฤกษ์ดีต้อนรับปีใหม่ ปรียากร พวงมาลัย รองประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยภาคเหนือ ได้จังหวะดี เปิดร้านกาแฟถ้วยโปรด มีประสบการณ์ในการทำกาแฟตั้งแต่ตันน้ำไปยันปลายน้ำจนมาถึงกาแฟถ้วยโปรดถึงมือทุกท่าน ท่านใดที่เป็นคอกาแฟ หรือมองหาร้านอาหารอร่อยท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นผ่อนคลายไปด้วย โปรดอย่าพลาด ร้านกาแฟถ้วยโปรด เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00-17.00 น. หยุดทุกวันพุธ จุดสังเกตมีแก้วกาแฟขนาดใหญ่อยู่หน้าซุ้มประตูทางเข้า อยู่ใกล้ตลาดเช้าป่ายางมน เลขที่ 272 หมู่ 2 ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.เชียงราย ขากลับมีของฝากที่ระลึกหลากหลายให้เลือกซื้อ รับรองผู้รับประทับใจแน่แถมยังช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มฐานรากได้อีกด้วย
 

     *** สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมลงดาบโรงงานอุตสาหกรรม ล่าสุดสั่งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ทบทวนกฎหมายโรงงาน โดยให้เพิ่มโทษจำคุกพวกลักลอบทิ้งกากของเสียและแอบลักลอบปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำลำคลองสาธารณะ ซึ่งเดิมมีเพียงแค่โทษปรับ ทำให้ผู้กระทำความผิดกล้าที่จะเสี่ยงทำโดยไม่ยำเกรงกฎหมาย จึงก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมากต่อทั้งคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อมทั่วบริเวณที่มีการลักลอบทิ้ง
 

     *** วันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เด้งรับทันที เร่งปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ.โรงงาน โดยเพิ่มโทษผู้กระทำความผิด จากเดิมมีบทลงโทษเฉพาะโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท จะเพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ปี 2565 นี้
 

     *** บรรยากาศในช่วงท้ายปี 2564 บรรดาซีอีโอหลายท่านเริ่มออกมาแสดงความเห็นทิศทางปี 2565 จะไปทางไหนฟังรวมๆ เสียงส่วนใหญ่ยังมีความหวังว่าต้องดีกว่าปีนี้แน่นอน แต่จะดีมากดีน้อยเป็นอีกเรื่อง ส่วนปัจจัยเสี่ยงไม่ต้องพูดถึงต้องเจอแน่ ทั้งปัจจัยภายในภายนอกยังรุมเร้างานนี้ใครรับมือดีก็รอด ถ้าใครอ่อนแรงลงไม่มีกำลังสู้ต่อก็อาจไปไม่ถึงฝั่งได้เหมือนกัน