เวิร์คพอยท์อวดกำไรพุ่ง111% มั่นใจสิ้นปีกวาด 3 พันล้าน / จ่อขยับค่าโฆษณาอีก

03 ก.ย. 2559 | 06:00 น.
เวิร์คพอยท์แจงครึ่งปีแรกกำไรเติบโต 111% เทียบกับปีก่อน จากปัจจัยมาจากกลุ่มทีวีปรับราคาโฆษณาเพิ่มตามเรตติ้ง คาดสิ้นปีมีรายได้กลุ่ม 3 พันล้านบาท เดินหน้าครึ่งปีหลังรุกตลาดคอนเทนต์ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตผู้ชม จับพฤติกรรมคนดูต่อเนื่อง พร้อมทั้งตั้งเป้าขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปตลาดต่างประเทศเพิ่ม 30-40%

[caption id="attachment_92763" align="aligncenter" width="335"] สุรการ ศิริโมทย์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงินการลงทุน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) สุรการ ศิริโมทย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงินการลงทุน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)[/caption]

นายสุรการ ศิริโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการเงินการลงทุน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ครึ่งแรกของปีนี้บริษัทมีมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 162 ล้านบาท ซึ่งเติบโตราว 111% จากปีก่อนมีกำไรเพียง 77 ล้านบาท สาเหตุหนึ่งมาจากกลุ่มธุรกิจทีวีเป็นหลักโดยขยายตัวตามเรตติ้งที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทสามารถปรับราคาโฆษณาเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการปรับค่าโฆษณาตั้งไว้ที่ 5-7% ต่อไตรมาส

"เมื่อ 2 ปีก่อนตั้งราคาโฆษณาเฉลี่ย 1 หมื่นบาทต่อนาที แต่ปัจจุบันสามารถขยับราคาโฆษณาได้อยู่ที่ 5 หมื่นบาทต่อนาทีในช่วงเวลาปกติ ขณะที่ช่วงไพรม์ไทม์ตั้งแต่ 18.00 -22.00น. มีราคาโฆษณาที่ 1.5 แสนบาทต่อนาที"

นายสุรการ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามช่วงปลายปีนี้มีแผนขยับเพิ่มราคาโฆษณาต่อเนื่อง หากสามารถทำเรตติ้งได้ตามเป้า 1.2 ภายในสิ้นปีนี้ และคาดว่าน่าจะส่งผลให้บริษัทมีรายได้รวมทั้งกลุ่มที่ 3,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้กลุ่มธุรกิจทีวี 2,500 -2,600 ล้านบาท อีเวนต์ 120-150 ล้านบาท แล้วคอนเสิร์ตละคนเวที 130 ล้านบาท

สำหรับแผนครึ่งปีหลังยังคงเน้นการนำเสนอคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตผู้ชม ( Life Emtertainment) เนื่องจากรูปแบบคอนเทนต์ประเภทนี้กำลังมาแรงในทั่วโลก โดยเฉพาะรายการประกวดต่างๆ เช่นรายการประกวดร้องเพลง เป็นต้น เนื่องจากมองว่าพฤติกรรมผู้ชมส่วนใหญ่ทั้งในและต่างประเทศชื่นชอบการรับชมคอนเทนต์ที่ให้ความสนุกเข้าใจง่าย ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทพยายามนำเทรนด์ตรงนี้เข้ามาใส่ในรายการ โดยปีนี้บริษัทได้ปรับลดงบประมาณลงทุนการผลิตคอนเทนต์และซื้อเข้ามาเหลือเพียง 550 -560 ล้านบาทจากต้นปีที่ตั้งไว้จำนวน 650 ล้านบาท

ทั้งนี้ที่ผ่านมารูปแบบคอนเทนต์ทั่วโลกจะเน้นรายการเกมตอบคำถาม (Quize Show) แต่ปัจจุบันพฤติกรรมผู้ชมเปลี่ยนไปชื่นชอบความสนุก เข้าใจง่าย ดังนั้นบริษัทจึงได้นำผลสำรวจพฤติกรรมผู้ชมที่ได้มาคิดออกมาเป็นรูปแบบรายการ โดยในปัจจุบันสัดส่วนคอนเทนต์ของช่องเวิร์คพอยท์ทีวีกว่า 80% เป็นคอนเทนต์เอนเตอร์เทนเมนต์ และที่เหลือ 20% เป็นคอนเทนต์ข่าวาสารและสาระ ทั้งนี้ในปี 2559 บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้จากการขายลิขสิทธิ์รายการเติบโต 30-40 % เมื่อเทียบจากปีก่อน"

"ขณะนี้ขายรายการในรูปแบบฟอร์แมทรายการไป 10 รายการ และขายแบบสำเร็จรูป ไป 10 รายการ ซึ่งรวมขายไปแล้วหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส อังกฤษ สวีเดน เปรู อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา พม่า สิงคโปร์ และล่าสุดคือรายการปริศนาฟ้าแลบ ที่ทางประเทศอเมริกาซื้อไป ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะอเมริกาเป็นประเทศที่ผลิตคอนเทนต์รายใหญ่แต่เขาให้การยอมรับรายการของคนไทย และยังมีรายการมวยอย่าง ซูเปอร์มวยไทย ที่ตอนนี้ประเทศฝรั่งเศสซื้อไปแล้วเช่นกัน"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,188 วันที่ 1 - 3 กันยายน พ.ศ. 2559