เอฟทีเอยุโรป-มะกันส่อแววล่ม ฝรั่งเศสเตรียมขอให้ยุติการเจรจา
รัฐบาลฝรั่งเศสต้องการให้สหภาพยุโรปยุติการเจรจากรอบความร่วมมือการค้าเสรีกับสหรัฐอเมริกา หลังมองว่าเอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจสหรัฐฯ มากเกินไป
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายฟรองซัวส์ โอลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่า การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีภาคพื้นแอตแลนติกระหว่างสหภาพยุโรป (อียู) และสหรัฐอเมริกา ขาดความสมดุล และจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาได้ก่อนที่นายบารัก โอบามา จะหมดวาระในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมปีหน้าอย่างที่ตั้งใจไว้
"ฝรั่งเศสชอบที่จะมองสิ่งต่างๆ ตามเนื้อผ้า การเจรจาเหล่านี้จะไม่บรรลุผลเป็นข้อตกลงภายในสิ้นปีนี้ การเจรจาไม่มีความคืบหน้า ไม่มีการเคารพจุดยืน ความไม่สมดุลเห็นได้ชัดเจน" นายโอลลองด์กล่าว
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจากทางฝั่งฝรั่งเศสนับเป็นอุปสรรคระลอกใหม่ต่อข้อเสนอการจัดตั้งเขตการค้าเสรีระหว่างยุโรปและสหรัฐฯ หรือข้อตกลงหุ้นส่วนการค้าและการลงทุนข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก (ทีทีไอพี) ซึ่งจะครอบคลุมเศรษฐกิจครึ่งหนึ่งของโลก โดยที่ผ่านมามีกระแสคัดค้านมาจากทั้ง 2 ฝ่าย และการเจรจามีความซับซ้อนขึ้นหลังจากอังกฤษมีแผนจะถอนตัวออกจากอียู ตลอดจนกำหนดการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสหรัฐฯ และฝรั่งเศส
ก่อนหน้านี้นายซิกมาร์ กาเบรียล รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี ได้ออกมากล่าวแสดงความเห็นว่า การเจรจาการค้าเสรีระหว่างยุโรปกับสหรัฐฯ นั้นในความเป็นจริงล้มเหลวไปแล้ว แต่ไม่มีใครออกมายอมรับอย่างจริงจัง
ขณะที่นายมัทเธียส ฟีเคิล รัฐมนตรีพาณิชย์ของฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสจะเตรียมร้องขอต่อคณะกรรมาธิการยุโรปในการประชุมรัฐมนตรีพาณิชย์อียู ที่กรุงบราติสลาวา ประเทศสโลวาเกีย ในเดือนกันยายน ให้ยุติการเจรจาข้อตกลงทีทีไอพีกับสหรัฐฯ โดยฟีเคิลกล่าวว่า การเจรจาอาจจะดำเนินต่อไปได้ ถ้าความสัมพันธ์ทางการค้าโดยรวมระหว่างอียูและสหรัฐฯ เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเยอรมนีและฝรั่งเศสพยายามตอบสนองต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณะ ที่เกรงว่าข้อตกลงดังกล่าวจะส่งผลให้มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมและอาหารถูกลดระดับลง และเป็นการเปิดทางให้บริษัทข้ามชาติจากต่างชาติเข้ามาท้าทายนโยบายของรัฐ โดยผู้สนับสนุนให้ยุติข้อตกลงทีทีไอพีมีการแสดงความเห็นกันอย่างแพร่หลายในเยอรมนีและออสเตรีย
ขณะที่ในสหรัฐฯ นายโอบามาพยายามสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว โดยชี้ว่าจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ความคิดเห็นของประชาชนเริ่มเอนเอียงมาทางด้านลบมากขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ชูเรื่องการคัดค้านข้อตกลงการค้ากับต่างประเทศเป็นประเด็นหลักของการหาเสียง โดยให้เหตุผลว่าข้อตกลงเหล่านี้ส่งผลต่อการสร้างงานในสหรัฐฯ เช่นเดียวกับนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ที่ลดท่าทางสนับสนุนข้อตกลงการค้าเสรีลงจากสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้องบางรายยืนยันว่า ข้อตกลงฉบับดังกล่าวยังไม่ยุติลง นางซิซีเลีย มาล์มสตรอม หัวหน้าฝ่ายพาณิชย์ของอียู กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การเจรจายังไม่ล้มเหลวและมีหลายประเทศสมาชิกอียูที่กล่าวว่ายังสนับสนุนข้อตกลงทีทีไอพีอยู่ ซึ่งรวมถึงอิตาลีที่กล่าวว่า การเจรจาข้อตกลงดังกล่าวให้ลุล่วงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผู้ส่งออกของอิตาลี
ด้านนายจอช เอิร์นเนสต์ โฆษกของทำเนียบขาว กล่าวว่า เป้าหมายของการบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกับยุโรปของรัฐบาลนายโอบามายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้น โดยนายไมเคิล โฟรแมน ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จะเดินทางไปยุโรปในเร็วๆ นี้เพื่อผลักดันการเจรจาให้คืบหน้าต่อไป
ผู้สนับสนุนข้อตกลงการค้าเสรีข้ามหาสมุทรแอตแลนติกกล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่ายได้ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมกับสร้างงานในเวลาที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและตลาดเกิดใหม่
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,189 วันที่ 4 - 7 กันยายน พ.ศ. 2559