ชาติมั่งคั่งถอยบทบาทพัฒนาโลก สหรัฐฯ - ญี่ปุ่นหั่นงบช่วยเหลือประเทศยากจน

21 พ.ย. 2568 | 07:29 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ย. 2568 | 07:30 น.

รายงานชี้ชาติมหาอำนาจกว่า 20 ประเทศ รวมถึงสหรัฐและญี่ปุ่น กำลังลดบทบาทช่วยเหลือประเทศยากจน งบ aid ถูกตัด การจัดอันดับถดถอย แม้ยุโรปเหนือยังครองท็อป พร้อมสัญญาณลบจากนโยบายยุคทรัมป์

KEY

POINTS

  • รายงานล่าสุดเผยว่ากว่า 20 ประเทศร่ำรวย รวมถึงสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ได้ปรับลดงบประมาณช่วยเหลือประเทศยากจนและลดการสนับสนุนองค์กรระหว่างประเทศ
  • สหรัฐอเมริกาอันดับร่วงลงมาอยู่ที่ 28 และคาดว่าจะลดลงอีกจากนโยบายตัดงบช่วยเหลือครั้งใหญ่ ขณะที่สหราชอาณาจักรก็ประกาศลดงบประมาณลงเช่นกัน
  • หลายประเทศพัฒนาแล้วหันไปให้ความสำคัญกับงบประมาณด้านกลาโหมมากกว่างบเพื่อการพัฒนาโลก ซึ่งสวนทางกับความพยายามในการพัฒนาระดับนานาชาติ

รายงานล่าสุดจากดัชนี Commitment to Development Index เปิดเผยภาพใหญ่ที่สะเทือนแวดวงพัฒนาโลก กว่า 20 ประเทศร่ำรวย รวมถึงสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เริ่มลดการผลักดันด้านการพัฒนาระดับโลก ทั้งการตัดงบช่วยเหลือประเทศยากจนและลดเงินสนับสนุนผ่านองค์กรพหุภาคี โดยผลการจัดอันดับนี้วิเคราะห์ 38 เศรษฐกิจสำคัญจากข้อมูลกว่า 100 ตัวชี้วัด เพื่อประเมินผลกระทบเชิงนโยบายต่อชาติยากจน ครอบคลุมด้านการเงินเพื่อการพัฒนา การลงทุน การอพยพ การค้า สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข ตลอดจนความมั่นคงและเทคโนโลยี

สวีเดน เยอรมนี นอร์เวย์ และฟินแลนด์ยังคงยืนหนึ่งในตำแหน่งผู้นำด้านการสนับสนุนการพัฒนาโลก ส่วนสหราชอาณาจักรขยับขึ้นสองอันดับมาอยู่ที่อันดับ 5 แม้ตัวเลขนี้ยังไม่สะท้อนการประกาศปรับลดงบช่วยเหลือถึง 40% ซึ่งคาดว่าจะฉุดอันดับให้ร่วงลงในการประเมินครั้งต่อไป ขณะที่สหรัฐอเมริกาตกลงสองอันดับมาอยู่ที่อันดับ 28 และยังไม่รวมผลจากการตัดงบช่วยเหลือมหาศาลที่ประกาศหลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี

นักวิจัยอาวุโสจาก Center for Global Development ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในยุคทรัมป์มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง และคาดว่าสหรัฐจะร่วงลงอีกในอนาคต โดยปีนี้ยังเป็นปีที่สหรัฐเตรียมรับตำแหน่งประธาน G20 ต่อจากแอฟริกาใต้ในสุดสัปดาห์นี้ แม้ทรัมป์จะไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ G20 ครั้งแรกในทวีปแอฟริกา หลังลดงบต่างประเทศและสั่งยุบหน่วยงานด้านความช่วยเหลืออย่าง USAID เมื่อต้นปี

รายงานยังพบว่าหลายประเทศพัฒนาแล้วหันไปให้น้ำหนักกับงบกลาโหม แทนงบพัฒนาโลก แม้จะมีสัญญาณเชิงบวกบางประการ เช่น กว่า 3 ใน 4 ประเทศสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ในช่วงปี 2019-2023 และมีหลายประเทศเปิดรับผู้อพยพและผู้ลี้ภัยเพิ่มขึ้น แต่ภาพรวมยังถดถอยจากการเพิ่มขึ้นของการส่งออกอาวุธ อุปสรรคทางการค้า และเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่ง CGD ระบุว่าเป็นแนวโน้มที่ถอยหลังจากความพยายามพัฒนาโลกโดยรวม