รัสเซียเยือนจีน มุ่งทำ ‘ภารกิจสำคัญ’ กระชับสัมพันธ์เศรษฐกิจ กลางแรงกดดันตะวันตก

03 พ.ย. 2568 | 05:51 น.
อัปเดตล่าสุด :03 พ.ย. 2568 | 06:23 น.

นายกฯ รัสเซีย “มิชูสติน” เดินทางเยือนจีน 2 วัน พบ ‘สี จิ้นผิง’ และ ‘หลี่ เฉียง’ ถกขยายความร่วมมือเศรษฐกิจ พลังงาน และเทคโนโลยี ขณะเครมลินย้ำการเยือนครั้งนี้ “มีความสำคัญอย่างยิ่ง” ท่ามกลางแรงกดดันจากตะวันตกและการค้าทวิภาคีที่เริ่มชะลอตัว

KEY

POINTS

  • นายกรัฐมนตรีรัสเซีย มิคาอิล มิชูสติน เดินทางเยือนจีนเพื่อพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง
  • การเยือนมีเป้าหมายหลักเพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับแรงกดดันจากชาติตะวันตก
  • การหารือมุ่งเน้นการขยายความร่วมมือในหลายด้าน เช่น พลังงาน อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม ท่ามกลางภาวะการค้าที่ชะลอตัวลง

รัฐบาลรัสเซียได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเดินทางไปจีนของนายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชูสติน ซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายนนี้ โดยทางเครมลินระบุว่าการเยือนครั้งนี้มีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอย่างมาก นายกรัฐมนตรีรัสเซียจะมีการพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีแรงกดดันจากชาติฝั่งตะวันตก

ตามรายงานจากสำนักข่าว TASS มิชูสตินเริ่มภารกิจที่เมืองหางโจว เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำรัฐบาลรัสเซีย-จีนกับหลี่ เฉียง ก่อนจะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งในวันอังคารเพื่อตรงพบกับสี จิ้นผิง การประชุมผู้นำครั้งที่แล้วเกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 ที่กรุงมอสโก โดยหลี่ เฉียงได้กล่าวถึง “พลังใหม่” และ “ชีวิตชีวา” ที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

โฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ ได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า รัสเซียให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเยือนของมิชูสติน แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ยืนยันว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะมีการส่งข้อความถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิงผ่านนายกรัฐมนตรีหรือไม่

รัสเซียและจีนได้ทำข้อตกลง “พันธมิตรไร้ขีดจำกัด” ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2565 ก่อนที่รัสเซียจะเริ่มการรุกรานยูเครน ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมา มอสโกก็พึ่งพา ปักกิ่งมากขึ้น ทั้งเพื่อบรรเทาผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก และเพื่อขยายความร่วมมือในหลายด้าน โดยเฉพาะด้านพลังงาน การค้าในสกุลเงินหยวน และเทคโนโลยีขั้นสูง

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีนในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงสงครามการค้า ได้ทำให้ทั้งจีนและรัสเซียเร่งพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน เพื่อรับมือกับแรงกดดันจากตะวันตกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขการค้าระหว่างรัสเซียและจีนกลับมีแนวโน้มชะลอตัว โดยรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าของรัสเซียอย่าง อันตอน อลิคานอฟ ได้ชี้แจงว่า สาเหตุหลักมาจาก “แรงกดดันทางเศรษฐกิจภายนอก” รวมถึง “สินค้าจีนที่ล้นตลาดในรัสเซีย” ข้อมูลจากศุลกากรจีนเผยว่า การส่งออกสินค้าในสกุลเงินหยวนจากจีนไปยังรัสเซียในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ลดลงถึง 21% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา

การนำเข้าสินค้าจากรัสเซียไปยังจีนมีการฟื้นตัวขึ้น 3.8% ในเดือนกันยายน หลังจากที่ลดลงถึง 17.8% ในเดือนก่อนหน้านั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรจากรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านพลังงานและสินค้าเกษตรที่ยังคงเป็นพื้นฐานสำคัญของการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ

สำนักข่าว TASS รายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างการเยือนจีน มิชูสตินจะมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการค้าและเศรษฐกิจ การคมนาคม และอุตสาหกรรม รวมไปถึงการขยายความร่วมมือในด้านพลังงาน และการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูง รวมถึงภาคเกษตรกรรม โดยมอสโกมองว่าความร่วมมือในด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีจะเป็นกรอบการทำงานที่มีความมั่นคงและยั่งยืนมากกว่า เนื่องจากไม่อยู่ภายใต้ความผันผวนของตลาด

ก่อนที่จะมีการเยือนจีนของมิชูสตินเพียงหนึ่งวัน รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ดมิทรี เชอร์นีเชนโก และรองนายกรัฐมนตรีจีน เหอ ลี่เฟิง ได้ร่วมกันเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมาธิการความร่วมมือทวิภาคีที่เมืองหนิงโป ซึ่งได้มีการหารือเกี่ยวกับการขยายการส่งออกทองแดงและนิกเกิลจากรัสเซีย รวมถึงการเปิดตลาดสินค้าเกษตรให้สามารถเข้าถึงจีนได้มากขึ้น