KEY
POINTS
เกาหลีใต้เปิดบ้านต้อนรับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาด้วยพิธีการสุดอลังการและของขวัญสุดพิเศษ “มงกุฎทองคำจำลอง” จากสุสานโบราณในเมืองคย็องจู พร้อมมอบเหรียญ “Grand Order of Mugunghwa” เครื่องราชอิสริยาภรณ์สูงสุดของประเทศ ซึ่งปกติจะสงวนไว้ให้เฉพาะประมุขหรือตัวแทนระดับสูงสุดเท่านั้น ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้รับเกียรตินี้
ทรัมป์เดินทางถึงเกาหลีใต้ในช่วงสุดท้ายของการเยือนเอเชีย หลังเสร็จสิ้นภารกิจในมาเลเซียและญี่ปุ่น โดยมีวาระสำคัญคือการเจรจาการค้ากับ ประธานาธิบดีอี แจมยอง และเตรียมพบปะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนในวันถัดไป ขบวนเครื่องบิน “แอร์ฟอร์ซวัน” ถูกคุ้มกันโดยฝูงบินเกาหลีใต้ และเมื่อแตะพื้นรันเวย์ ก็ได้รับการต้อนรับด้วยเพลง “YMCA” จากวงดนตรีทหารและการยิงสลุตต้อนรับอย่างเป็นทางการ
พิธีมอบเหรียญเกียรติยศ “Grand Order of Mugunghwa” ซึ่งตั้งชื่อตามดอกไม้ประจำชาติของเกาหลีใต้ “มูกึงฮวา” หรือ “Rose of Sharon” มีขึ้นเพื่อยกย่องบทบาทของทรัมป์ในฐานะ “ผู้สร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี” ประธานาธิบดีอี กล่าวยกย่องทรัมป์ที่เคยเปิดฉากเจรจากับคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือในอดีต แม้การเจรจาครั้งนั้นจะหยุดชะงัก แต่ได้วางรากฐานให้เกิดการสื่อสารระหว่างสองฝ่ายอีกครั้ง ทรัมป์ตอบรับด้วยรอยยิ้มและกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “ผมอยากใส่มันเดี๋ยวนี้เลย”
บรรยากาศการพบปะระหว่างผู้นำทั้งสองจัดขึ้นในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติเมืองคย็องจู เมืองประวัติศาสตร์ซึ่งเคยเป็นราชธานีของอาณาจักรซิลลาในศตวรรษที่ 9 โดยทรัมป์ได้รับของขวัญพิเศษคือ “มงกุฎทองคำจำลองจากสุสานชอนมาชง” สัญลักษณ์ของยุคแห่งสันติภาพยาวนานในประวัติศาสตร์คาบสมุทรเกาหลี ซึ่งผู้นำเกาหลีใต้ระบุว่า “เป็นสัญลักษณ์แห่งยุคใหม่ของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและการเติบโตไปด้วยกันของสองประเทศ”
ระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน ประธานาธิบดีอีได้แสดงความตั้งใจจะเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม เพื่อคลายความกังวลของทรัมป์ที่มองว่าประเทศพันธมิตรควรมีส่วนร่วมในภาระทางทหารมากขึ้น พร้อมทั้งร้องขอให้สหรัฐฯ อนุญาตให้เกาหลีใต้เดินหน้าวิจัยการใช้เชื้อเพลิงนิวเคลียร์สำหรับเรือดำน้ำ ซึ่งยังติดข้อจำกัดจากข้อตกลงระหว่างสองประเทศ
นอกจากนั้น ทรัมป์ยังย้ำว่าเขาพร้อมจะ “ช่วยคลี่คลายปัญหาเกาหลีเหนือ” และยังคงเปิดกว้างต่อการพบปะกับคิม จองอึน อีกครั้ง แม้ฝ่ายเปียงยางยังไม่ตอบรับ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เกาหลีเหนือเพิ่งยิงทดสอบขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเครื่องบินของทรัมป์ลงจอด
ในเวที CEO APEC ที่คย็องจู ทรัมป์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจาการค้ากับเกาหลีใต้ โดยระบุว่าข้อตกลงจะ “เสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้” แม้เจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายยังลดความคาดหวังถึงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมภายในสัปดาห์นี้ก็ตาม ภายใต้กรอบดีลที่เกาหลีใต้จะลงทุนในสหรัฐฯ 350,000 ล้านดอลลาร์ แลกกับการเลี่ยงมาตรการภาษีที่สหรัฐฯ ตั้งไว้ ทว่าการเจรจาเรื่องโครงสร้างการลงทุนยังคงชะงัก
ด้านความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน ผู้นำทั้งสองชาติมีกำหนดหารือในเมืองท่าปูซานในวันพฤหัสบดี โดยคาดว่าทรัมป์จะเสนอการลดภาษีสินค้าจีนลงครึ่งหนึ่ง จากระดับ 20% ที่ตั้งไว้ในปัจจุบัน หากจีนยินยอมควบคุมการส่งออกสารตั้งต้นผลิตยาเฟนทานิล ซึ่งเป็นสารเสพติดร้ายแรงที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญปัญหาอย่างหนัก
ก่อนหน้านี้ จีนได้ส่งสัญญาณบวกว่าการพบปะของสองผู้นำจะ “เสริมแรงผลักดันใหม่ให้กับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ” และมีแนวโน้มบรรลุผลในทางบวก โดยล่าสุดจีนกลับมาซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน หลังการหยุดซื้อที่สร้างความเสียหายให้เกษตรกรอเมริกันไปหลายพันล้านดอลลาร์
การเยือนเอเชียครั้งนี้ของทรัมป์ถือเป็นหนึ่งในทริปที่แน่นที่สุดในปี โดยก่อนหน้านี้เขาได้ประกาศข้อตกลงการค้าใหม่ในมาเลเซีย และเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม “ข้อตกลงสงบศึก” ระหว่างไทยและกัมพูชา หลังเหตุปะทะบริเวณชายแดน รวมถึงพบปะผู้นำญี่ปุ่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ ซึ่งร่วมลงนามดีลด้านการค้าและทรัพยากรแร่หายาก
สำหรับการเยือนเกาหลีใต้ครั้งนี้ แม้ทรัมป์จะไม่ได้ร่วมการประชุมสุดยอด APEC ในช่วงปลายสัปดาห์ แต่ก็ยังดึงผู้นำหลายชาติในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา ไทย และสิงคโปร์ มาร่วมดินเนอร์ส่วนตัวกับทรัมป์