KEY
POINTS
เดือนกันยายนปี 2568 ถือเป็นช่วงเวลาที่หลายประเทศทั่วโลกเกิดกระแสการประท้วงครั้งใหญ่มากมาย โดยแต่ละพื้นที่มีประเด็นที่แตกต่างกันออกไป ตั้งแต่การทุจริต ความไม่เท่าเทียมกัน นโยบายของรัฐบาล ไปจนถึงการแสดงออกเกี่ยวกับความขัดแย้งในตะวันออกกลาง เหตุการณ์เหล่านี้ไม่เพียงแค่สะท้อนให้เห็นถึงความทุกข์ยากของประชาชน แต่ยังมีผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย จำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
การประท้วงครั้งใหญ่ซึ่งขับเคลื่อนโดยกลุ่ม Gen Z เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลมีคำสั่งห้ามการใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลายแห่ง ความไม่พอใจที่สะสมเกี่ยวกับการทุจริตและความเหลื่อมล้ำทำให้ประชาชนจำนวนมากออกมาชุมนุมต่อต้านการกระทำของเจ้าหน้าที่ จนเป็นเหตุให้เกิดความรุนแรงและนำไปสู่การปิดสนามบินชั่วคราว ในท้ายที่สุด ความกดดันนี้ทำให้นายกรัฐมนตรี K. P. Sharma Oli ต้องประกาศลาออก และมีนายกรัฐมนตรีรักษาการเข้ามาบริหารประเทศ เหตุการณ์นี้ถือเป็นการแสดงออกทางการเมืองของคนรุ่นใหม่ที่ไม่ยอมทนต่อระบบเก่า
ผู้คนหลายหมื่นคนรวมตัวกันในกรุงมะนิลาและเมืองใหญ่ ๆ อื่น ๆ หลังจากมีข่าวเกี่ยวกับการทุจริตครั้งใหญ่ในโครงการควบคุมอุทกภัย มูลค่าหลายพันล้านเปโซ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น “โกสต์โปรเจกต์” หรือโครงการที่ไม่มีอยู่จริง การประท้วงนี้มีชื่อว่า “Baha sa Luneta” หรือ “Trillion Peso March” โดยมีส่วนร่วมจากนักศึกษา กลุ่มศาสนา และประชาชนทั่วไป ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี ที่กดดันให้รัฐบาลต้องแสดงความโปร่งใส
การประท้วงนำโดยนักศึกษาในติมอร์-เลสเตก็มีความรุนแรงไม่แพ้กัน เมื่อรัฐบาลอนุมัติงบประมาณมากมายเพื่อซื้อรถยนต์ใหม่สำหรับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และยังมีแผนจ่ายบำนาญให้กับอดีต ส.ส. ทำให้ประชาชนมองว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่จำเป็นและไม่เป็นธรรม การชุมนุมหน้ารัฐสภาในกรุงดิลีกินเวลาหลายวันและในที่สุดรัฐสภาต้องตัดสินใจยกเลิกแผนซื้อรถและพิจารณายกเลิกบำนาญดังกล่าว
ในยุโรป ฝรั่งเศสเผชิญกับการนัดหยุดงานครั้งใหญ่ หลังจากที่รัฐบาลประกาศแผนงบประมาณปี 2026 ที่มีกฎการรัดเข็มขัดอย่างเข้มงวด รวมถึงการตัดลดงบประมาณและสวัสดิการ สหภาพแรงงานต่าง ๆ ได้ร่วมมือกันจัดการประท้วงทั่วประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงความไม่พอใจของประชาชนที่กังวลเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตและความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคต
การประท้วงในอิตาลีก็มุ่งเน้นไปที่ท่าทีของรัฐบาลต่อสงครามในกาซ่า หลายคนเชื่อว่าอิตาลีมีส่วนเกี่ยวข้อง ผ่านการค้าอาวุธและการสนับสนุนที่ส่งไปยังอิสราเอล กลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องให้ยุติการส่งออกอาวุธ และสหภาพแรงงานประกาศหยุดงานทั่วประเทศ 24 ชั่วโมง เพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองและศีลธรรม
ทั้งสโลวาเกียและเซอร์เบียต่างมีการชุมนุมที่ใหญ่ขึ้น โดยสโลวาเกีย ประชาชนออกมาคัดค้านนโยบายรัดเข็มขัดและท่าทีทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี Robert Fico ซึ่งถูกมองว่าทำให้ประเทศห่างไกลจากสหภาพยุโรป และมีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซียมากเกินไป ขณะที่ในเซอร์เบีย เหตุการณ์การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่สถานีรถไฟ Novi Sad ทำให้ผู้คน โดยเฉพาะนักศึกษา ออกมาร้องเรียกร้องความรับผิดชอบ พร้อมทั้งเรียกร้องในเรื่องการเลือกตั้งที่เสรีและเสรีภาพของสื่อ