KEY
POINTS
ชาร์ลี เคิร์ก (Charlie Kirk) นักเคลื่อนไหวขวาจัดคนสำคัญและผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร Turning Point USA ถูกยิงเสียชีวิตกลางเวทีระหว่างการจัดอีเวนต์ “American Comeback Tour” ที่มหาวิทยาลัย Utah Valley เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 เหตุเกิดขึ้นท่ามกลางผู้ฟังกว่า 3,000 คนที่มาร่วมฟังเขาถกเถียงประเด็นการเมืองร้อนแรงตามสไตล์ของเคิร์ก ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้นเพียงหนึ่งนัดจากหลังคาอาคาร Losee Center กระสุนเจาะเข้าที่ลำคอทำให้เขาล้มลงทันที สร้างความโกลาหลให้กับผู้เข้าร่วมงานที่วิ่งหนีตายกันอลหม่าน เจ้าหน้าที่รีบนำตัวเขาออกจากพื้นที่แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สอบสวนสหรัฐฯ ได้ทำการเผยภาพถ่ายและวิดีโอของ "ผู้ต้องสงสัย" (person of interest) ที่อาจเกี่ยวข้องกับเหตุยิงสังหารชาร์ลี เคิร์ก พร้อมระบุว่าได้พบปืนไรเฟิลที่เชื่อว่าใช้ก่อเหตุแล้ว
ด้าน FBI ประกาศรางวัล 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การจับกุมมือปืน และเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดของบุคคลที่ต้องสงสัย สวมเสื้อแขนยาวสีดำที่มีลายอินทรีกำลังบินผ่านธงชาติสหรัฐฯ สวมหมวกแก๊ปสีเข้ม แว่นกันแดดสีดำ
เจ้าหน้าที่รัฐยูทาห์เผยภาพเพิ่มเติมที่ชัดขึ้น เห็นรูปร่างชายวัยหนุ่มที่ผอมชัดเจนมากขึ้น รวมถึงกระเป๋าเป้และรองเท้า Converse นอกจากนี้ยังมีวิดีโอที่จับภาพชายคนดังกล่าวขณะปีนลงจากหลังคาซึ่งเป็นจุดที่ใช้ยิงกระสุน พบหลักฐานลายนิ้วมือและ DNA ที่จุดนั้น
ชาร์ลี เคิร์ก วัย 31 ปี เป็นทั้งนักพูด นักจัดรายการวิทยุ และผู้ทรงอิทธิพลในโลกโซเชียล เขาคือพันธมิตรคนสนิทของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของขบวนการอนุรักษนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ องค์กร Turning Point USA ที่เขาก่อตั้งเมื่ออายุเพียง 18 ปี ขยายเครือข่ายไปกว่า 850 มหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐฯ และมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ออกมาเลือกตั้ง รวมถึงการพลิกผลโหวตให้ทรัมป์ชนะในรัฐแอริโซนาเมื่อการเลือกตั้งครั้งก่อน
ตำรวจยูทาห์ระบุว่า มือปืนมีลักษณะ “วัยใกล้เคียงนักศึกษา” และสามารถกลมกลืนกับฝูงชนได้ดี ขณะนี้ได้เผยแพร่ภาพบุคคลต้องสงสัยที่สวมเสื้อแขนยาวสีดำลายธงชาติอเมริกันและนกอินทรี พร้อมร้องขอข้อมูลจากสาธารณชน ขณะเดียวกัน FBI พบปืนไรเฟิล Mauser .30-06 ที่ใช้ก่อเหตุซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่ป่าใกล้มหาวิทยาลัย และกำลังเร่งตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้งหมด ผู้ว่าการรัฐยูทาห์ สเปนเซอร์ ค็อกซ์ ยืนยันว่า “เราจะจับกุมผู้ก่อเหตุรายนี้ให้ได้” พร้อมประกาศเตรียมดำเนินคดีถึงขั้นโทษประหารหากจับได้
การเสียชีวิตของเคิร์กจุดชนวนความสะเทือนใจในสังคมการเมืองอเมริกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ออกแถลงการณ์ผ่าน Truth Social ว่า “ชาร์ลีคือหัวใจของเยาวชนอเมริกัน” พร้อมสั่งลดธงครึ่งเสาทั่วประเทศ ขณะที่อดีตผู้นำสหรัฐฯ อย่างโจ ไบเดน และบารัก โอบามา ต่างประณามการใช้ความรุนแรงครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม คำกล่าวหาของฝ่ายทรัมป์ที่โยนความผิดให้ “ฝ่ายซ้ายหัวรุนแรง” ยิ่งทำให้ความขัดแย้งในสภาคองเกรสปะทุรุนแรงมากขึ้น เสียงวิจารณ์กังวลว่าความตึงเครียดทางการเมืองอาจทวีความรุนแรงและแบ่งขั้วมากยิ่งกว่าเดิม
เหตุการณ์สังหารกลางเวทีของ ชาร์ลี เคิร์ก จึงไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรมส่วนบุคคล แต่ยังบ่งชี้ถึงความแตกแยกทางการเมืองที่ลึกและร้อนแรงในสังคมอเมริกัน ขณะที่ทั้งประเทศเฝ้าจับตาว่าการตามล่ามือปืนครั้งนี้จะยุติอย่างไร และจะป้องกันไม่ให้ความรุนแรงทางการเมืองปะทุซ้ำในอนาคตได้หรือไม่