ทรัมป์สั่งลุย ภาษีทองคำแท่งนำเข้า 0% เริ่ม 8 ก.ย. หนุนตลาดคึกคัก

11 ก.ย. 2568 | 03:18 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ย. 2568 | 03:19 น.

ทำเนียบขาวประกาศ ทรัมป์เซ็นคำสั่งยกเลิกภาษีทองคำแท่งจากประเทศพันธมิตร เหลือ 0% มีผล 8 ก.ย. ด้าน LBMA ชี้เป็นก้าวบวกหนุนตลาดโลหะมีค่าโลก

KEY

POINTS

  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้ยกเว้นภาษีนำเข้าทองคำแท่ง (ภาษี 0%) จากประเทศพันธมิตร
  • มาตรการภาษีใหม่นี้จะมีผลบังคับใช้กับการนำเข้าทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนเป็นต้นไป
  • คำสั่งดังกล่าวช่วยขจัดความไม่แน่นอนในตลาด หลังจากก่อนหน้านี้ศุลกากรสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะเก็บภาษีทองคำตามประเทศผู้ผลิต

ทำเนียบขาวประกาศอัปเดตตารางภาษีสินค้า โดยมีผลกับทองคำแท่ง ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่สร้างความโล่งใจให้แก่ผู้เล่นในตลาดโลหะมีค่า โดยสมาคมการตลาดโลหะเงินลอนดอน (London Bullion Market Association – LBMA) ออกมาแถลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่านี่คือ “พัฒนาการที่น่ายินดี” หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดต้องเผชิญความไม่แน่นอนจากคำวินิจฉัยของศุลกากรสหรัฐฯ เกี่ยวกับการนำเข้าทองคำแท่ง

คำสั่งฝ่ายบริหารที่ลงนามโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 5 กันยายน ได้กำหนดการปรับปรุงตารางภาษีสำหรับสินค้าหลายรายการ รวมถึงทองคำแท่ง โดยทำเนียบขาวระบุว่าเป็น “ภาษีตอบโต้” (reciprocal tariffs) ภายใต้มาตรการนี้ ทองคำแท่งที่นำเข้าจากประเทศพันธมิตรที่จัดอยู่ในรหัส HS Code บางประเภท เช่น 7108.11.00, 7108.12.50, 7108.13.10, 7108.13.55, 7108.13.70 และ 7108.20.00 จะได้รับการยกเว้นภาษี 100% หรือก็คือ ไม่ต้องเสียภาษีเลย โดยมีผลกับการนำเข้าทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2025 เป็นต้นไป

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็น “สัญญาณบวก” ต่ออุตสาหกรรมทองคำ หลังจากที่ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ของศุลกากรและการป้องกันชายแดนสหรัฐฯ (CBP) เคยระบุว่าทองคำแท่งที่มีการซื้อขายแพร่หลายอาจถูกจัดเก็บภาษีตามประเทศผู้ผลิต ส่งผลให้ผู้ค้าโลหะมีค่าบางรายชะลอการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และรอความชัดเจนจากรัฐบาล กระแสความกังวลดังกล่าวทำให้ตลาดทองคำอยู่ในภาวะไม่แน่นอน

ไม่กี่วันถัดมา เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ทองจะไม่ถูกเก็บภาษี!” แม้จะไม่ได้มีรายละเอียดเพิ่มเติมในขณะนั้น แต่ก็ช่วยคลายแรงกดดันในตลาดได้ระดับหนึ่ง ก่อนที่จะตามมาด้วยคำสั่งฝ่ายบริหารที่เพิ่งประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ

LBMA ระบุเพิ่มเติมว่าจะยังคงติดตามพัฒนาการและอัปเดตข้อมูลต่อเนื่องให้แก่สมาชิก โดยยังมีการหารือร่วมกับผู้เกี่ยวข้องทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับมาตรการภาษีที่อาจครอบคลุมไปถึงโลหะเงินในอนาคต ซึ่งสะท้อนว่าประเด็นด้านภาษีโลหะมีค่ายังอยู่ในความสนใจของหลายฝ่าย

นอกจากมาตรการในสหรัฐฯ แล้ว LBMA ยังได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของทองคำแท่งชนิดกิโลบาร์ในสหราชอาณาจักร โดยสำนักงานสุขภาพและความปลอดภัยของสหราชอาณาจักร (UK HSE) ระบุว่า หากกิโลบาร์ถูกนำเข้าเพื่อใช้เป็นสินทรัพย์การลงทุน จะถูกจัดให้อยู่ในหมวด “article” ทำให้ได้รับการยกเว้นจากการลงทะเบียนตามกฎระเบียบ REACH ของสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม หากกิโลบาร์ถูกนำไปใช้ในเชิงอุตสาหกรรม เช่น การผลิตเครื่องประดับ ก็ยังคงถูกพิจารณาให้อยู่ในหมวด “สารเคมี” และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการลงทะเบียนเช่นเดิม