ทรัมป์สั่งยกเว้นภาษีนำเข้าให้คู่ตกลงการค้า เริ่มทันที 8 ก.ย.

06 ก.ย. 2568 | 05:14 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ย. 2568 | 05:14 น.

โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งบริหารยกเว้นภาษีนำเข้ากว่า 45 หมวดสินค้าให้ประเทศคู่ค้า เริ่มใช้ 8 ก.ย.นี้ ครอบคลุมโลหะ ทองคำ สารเคมี และเภสัชภัณฑ์ เดินหมากกดดันระบบการค้าโลก

KEY

POINTS

  • ทรัมป์ออกคำสั่งบริหารฉบับใหม่ให้สิทธิยกเว้นภาษีนำเข้าแก่ประเทศคู่ค้าที่มีข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน
  • การยกเว้นภาษีจะขึ้นอยู่กับ "ข้อตกลงการค้าต่างตอบแทน" โดยพิจารณาจากขอบเขตและมูลค่าทางเศรษฐกิจที่ประเทศคู่ค้ามีต่อสหรัฐฯ
  • มาตรการดังกล่าวครอบคลุมสินค้ากว่า 45 หมวดหมู่ โดยเน้นสินค้าอุตสาหกรรมที่สหรัฐฯ ผลิตไม่เพียงพอ เช่น นิกเกิล ทองคำ และส่วนประกอบยา

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งบริหารฉบับใหม่เมื่อวันศุกร์ที่ 5 กันยายน เปิดทางให้ประเทศคู่ค้าที่บรรลุข้อตกลงด้านการส่งออกกับสหรัฐฯ ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีนำเข้าบางส่วน โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 00:01 น. ของวันจันทร์ที่ 8 กันยายนเป็นต้นไป ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในเกมการค้าของทรัมป์ ที่ใช้การขึ้นภาษีและผ่อนปรนภาษีเป็นเครื่องมือกดดันและจัดระเบียบระบบการค้าโลกใหม่

คำสั่งดังกล่าวครอบคลุมสินค้ากว่า 45 หมวดหมู่ โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมที่สหรัฐฯ ไม่สามารถผลิตเองได้ หรือผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ เช่น นิกเกิล ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตเหล็กกล้าไร้สนิมและแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ทองคำในทุกรูปแบบตั้งแต่ผง แผ่นฟอยล์ ไปจนถึงทองแท่ง รวมถึงสารประกอบที่ใช้ในการผลิตยาเจเนอริก เช่น ยาชา Lidocaine และสารรีเอเจนต์ที่ใช้ในการทดสอบทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังครอบคลุมสารเคมีภัณฑ์ แกรไฟต์ แม่เหล็กนีโอไดเมียม และหลอดไฟ LED ด้วย

สาระสำคัญของคำสั่งบริหารฉบับนี้อยู่ที่การผูกโยงสิทธิการยกเว้นภาษีกับ “ข้อตกลงการค้าต่างตอบแทน” ที่ประเทศคู่ค้าต้องยอมทำกับสหรัฐฯ ทรัมป์ระบุชัดว่าความเต็มใจในการลดภาษีขึ้นอยู่กับ “ขอบเขตและมูลค่าทางเศรษฐกิจของพันธกรณีที่ประเทศคู่ค้ามีต่อสหรัฐฯ” ตลอดจนผลประโยชน์แห่งชาติของอเมริกาเอง

การเดินหมากครั้งนี้ยังทำให้โครงสร้างภาษีของสหรัฐฯ สอดคล้องกับพันธกรณีที่มีอยู่แล้ว เช่น ข้อตกลงกับญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป ขณะเดียวกันยังสร้างช่องทางใหม่สำหรับสินค้าเกษตร เครื่องบินและชิ้นส่วน รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเภสัชภัณฑ์ที่ไม่ได้มีสิทธิบัตร ให้สามารถได้รับการยกเว้นโดยไม่ต้องอาศัยคำสั่งบริหารใหม่จากทรัมป์ในอนาคต

การปรับใช้มาตรการภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติมาตรา 232 ตอกย้ำยุทธศาสตร์ของทรัมป์ที่ตลอด 7 เดือนแรกในตำแหน่ง ได้มุ่งใช้การขึ้นภาษีศุลกากรอย่างเข้มข้น เพื่อกดดันคู่ค้า ลดการขาดดุลการค้า และสร้างอำนาจต่อรองสูงสุดในการเจรจาระหว่างประเทศ

สำหรับบางประเทศ คำสั่งนี้อาจเป็นทั้งแรงกดดันและแรงจูงใจไปพร้อมกัน ตัวอย่างเช่น สวิตเซอร์แลนด์ที่กำลังเผชิญภาษีนำเข้าทองคำสูงถึง 39% แต่ยังไม่ได้ทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ หากสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าต่างตอบแทน ก็จะได้สิทธิลดภาษีเหล่านี้ทันที