ทรัมป์บีบเฟด ว่าที่บอร์ดคนใหม่รับปากย้ำอิสระ แต่ตลาดยังขาดความเชื่อมั่น

04 ก.ย. 2568 | 22:48 น.

ศึกกดดันเฟดยุคทรัมป์เดือด ว่าที่บอร์ดเฟดประกาศยืนหยัดอิสระ ขณะนักลงทุนกังวลความเชื่อมั่น ดอลลาร์ร่วง-ทองคำขยับขึ้น

สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างทำเนียบขาวกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอชื่อ สตีเฟน มิแรน (Stephen Miran) ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ (CEA) ของทำเนียบขาว เข้ารับตำแหน่งในคณะกรรมการเฟด (Fed Board of Governors) โดยมีเป้าหมายเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ที่กำหนดจะมีขึ้นวันที่ 16-17 กันยายนนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่านี่คือการเดินเกมเพื่อผลักดันให้เฟดลดดอกเบี้ยตามที่ทรัมป์เรียกร้อง

แม้ในระหว่างการไต่สวนต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารวุฒิสภาสหรัฐฯ มิแรนจะย้ำว่าการทำงานของเขาจะไม่ถูกแทรกแซง โดยกล่าวว่า “FOMC เป็นคณะอิสระที่มีภารกิจยิ่งใหญ่ และผมตั้งใจจะรักษาความเป็นอิสระนั้นไว้” พร้อมยืนยันว่าบทบาทสำคัญที่สุดของธนาคารกลางคือการป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงและเงินเฟ้อสูงเกินควบคุม แต่คำตอบของเขากลับไม่ชัดเจนเมื่อถูกถามว่าจะลาออกจากตำแหน่งในทำเนียบขาวหรือไม่ โดยเขายอมรับเพียงว่าจะ “ลางานชั่วคราว” และจะพิจารณาลาออกถ้าได้รับการแต่งตั้งถาวรในเฟด

ท่าทีดังกล่าวยิ่งทำให้ฝ่ายค้านพุ่งเป้าโจมตี โดย เอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต กล่าวหาว่าทรัมป์กำลังเปิด “สงครามเต็มรูปแบบ” เพื่อล้มอิสระของเฟด ขณะที่ ทีน่า สมิธ วุฒิสมาชิกจากมินนิโซตา ชี้ว่าการผลักดันให้มิแรนเข้าสู่บอร์ดเฟดอย่างเร่งด่วนมีนัยชัดเจนว่าทรัมป์ต้องการ “คนของตัวเอง” ในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน

แรงกดดันนี้ยิ่งเด่นชัดเมื่อเฟดยังตรึงอัตราดอกเบี้ยในกรอบ 4.25-4.50% หลังปรับลดครั้งล่าสุดเมื่อธันวาคมที่ผ่านมา โดยประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เปิดช่องไว้ว่าอาจพิจารณาลดดอกเบี้ยอีกในการประชุมรอบเดือนกันยายน ทรัมป์กลับโจมตีพาวเวลล์อย่างรุนแรง เรียกเขาว่า “ไอ้ทึ่ม” และ “คนโง่” พร้อมกล่าวโทษว่าเป็นต้นเหตุทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยซบเซา ทั้งที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ

สถานการณ์ยิ่งทวีความไม่แน่นอนเมื่อทรัมป์เดินหน้าปลด ลิซ่า คุก กรรมการเฟดหญิงผิวสีคนแรก โดยอ้างข้อกล่าวหาทุจริตสินเชื่อบ้านในอดีต ขณะที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังสืบสวนประเด็นดังกล่าว แม้เธอยังไม่ถูกตั้งข้อหาใดๆ ก็ตาม การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความพยายามของทรัมป์ที่จะปรับโครงสร้างภายในบอร์ดเฟดให้เป็นไปตามทิศทางนโยบายของเขา

อย่างไรก็ดี มิแรนพยายามส่งสัญญาณเชิงบวกต่อสภาคองเกรส โดยย้ำว่าทุกการตัดสินใจของเขาจะยึดโยงกับการวิเคราะห์เศรษฐกิจมหภาค ไม่ใช่การเมือง แต่ความไม่มั่นใจยังคงก่อตัวทั้งในตลาดการเงินและหมู่นักลงทุนทั่วโลก

มุมมองนักวิเคราะห์ไทย

วทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล. พาย มองว่าความพยายามแทรกแซงเฟดของทรัมป์ไม่ใช่สัญญาณที่นักลงทุนต้องการเห็น เพราะโดยหลักการแล้วธนาคารกลางควรมีอิสระในการกำหนดนโยบายมากกว่าการถูกชี้นำทางการเมือง การตอบรับข่าวดังกล่าวสะท้อนออกมาเชิงลบทันที โดย Dollar Index อ่อนค่า และราคาทองคำขยับขึ้นจากแรงซื้อเพื่อหลบความเสี่ยง ถือเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน

อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าเฟดยังคงมีความเป็นอิสระเพียงพอ เนื่องจากคณะกรรมการ FOMC มีถึง 12 คน ทำให้การตัดสินใจเชิงนโยบายไม่ได้ขึ้นกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และในที่สุดการเปลี่ยนแปลงนโยบายดอกเบี้ยจะต้องอิงกับข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นหลัก หากเฟดเลือกใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดผ่านการขึ้นดอกเบี้ย ก็อาจทำให้เงินทุนไหลกลับเข้าสหรัฐฯ ส่งผลกดดันต่อค่าเงินในตลาดเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นและราคาทองคำ ขณะเดียวกันการขึ้นดอกเบี้ยก็ย่อมสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน