ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในวันจันทร์ หลังนักลงทุนให้การต้อนรับอย่างระมัดระวังต่อแนวโน้มการกลับมาลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ท่ามกลางความคาดหวังว่าผลประกอบการของ Nvidia จะช่วยสร้างความชอบธรรมให้กับมูลค่าหุ้นเทคโนโลยีที่พุ่งสูงเกินจริงในระยะที่ผ่านมา
การส่งสัญญาณเชิงผ่อนคลายจาก เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ทำให้ตลาดฟิวเจอร์สสะท้อนโอกาสสูงถึง 84% ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนกันยายน และอาจลดลงรวมกว่า 100 จุดเบสซิสสู่ระดับ 3.25-3.5% ภายในกลางปีหน้า การเปลี่ยนท่าทีนี้กดดันให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อแนวโน้มกำไรบริษัท แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ตอกย้ำความกังวลว่าเฟดอาจประเมินว่าเศรษฐกิจและตลาดแรงงานกำลังเสี่ยงต่อการชะลอตัว
บรูซ แคสแมน หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจโลกของเจพีมอร์แกน ระบุว่า “ข่าวนี้ยืนยันมุมมองของเราว่าเฟดจะผ่อนคลายการเงินเพื่อตอบสนองต่อความต้องการจ้างงานที่อ่อนตัวลง และความเสี่ยงของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลกในไตรมาสนี้ยังคงมีอยู่”
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังต้องจับตาข้อมูลดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ ซึ่งคาดว่าจะบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อพื้นฐานขยับขึ้นแตะ 2.9% สูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2023 หากออกมาสูงกว่าคาด อาจกระทบการปรับขึ้นของพันธบัตรระยะยาว โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมขายหนี้ใหม่มูลค่า 183,000 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนให้ความสนใจกับท่าทีของ จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดนิวยอร์ก ที่มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในวันจันทร์ เพื่อดูว่าสอดคล้องกับแนวทางของพาวเวลล์หรือไม่
ดัชนีหุ้นเอเชียขยับตามวอลล์สตรีท โดยนิกเกอิของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.6% หุ้นเกาหลีใต้บวก 0.7% และตลาดออสเตรเลียเพิ่ม 0.4% ดัชนี MSCI หุ้นเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) ปรับขึ้น 1.1% นำโดยหุ้นบลูชิปจีนที่บวกเพิ่มอีก 1% และทะยานขึ้นเกือบ 9% ในเดือนนี้ แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางปี 2022
ในยุโรป ฟิวเจอร์สยูโรสต็อกซ์ 50 และดั๊กซ์ถอย 0.2% ส่วนฟิวเจอร์ส S&P 500 และแนสแด็กของสหรัฐฯ ลดลง 0.1% หลังปรับขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
สายตานักลงทุนทั่วโลกยังจับจ้องไปที่ Nvidia ซึ่งจะประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ในวันพุธ โดยคาดว่ากำไรต่อหุ้นจะพุ่ง 48% จากรายได้ 45,900 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ออปชันบ่งชี้ว่าหุ้นอาจเหวี่ยงขึ้นหรือลงถึง 6% จากมูลค่าตลาดระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนยังรอรายละเอียดเรื่องการส่งออกชิปไปจีน และข้อตกลงกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำหนดให้ Nvidia ต้องแบ่งรายได้ 15% จากการขายชิปบางประเภทให้รัฐบาลสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังประกาศซื้อหุ้น 9.9% ของอินเทล มูลค่า 8.9 พันล้านดอลลาร์ ในราคาหุ้นละ 20.47 ดอลลาร์ ต่ำกว่าราคาปิดในตลาดที่ 24.80 ดอลลาร์
ในตลาดเงิน ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวที่ 147.38 เยน หลังอ่อนค่าลง 1% เมื่อวันศุกร์ ส่วนค่าเงินยูโรอยู่ที่ 1.1698 ดอลลาร์ ฟื้นจากจุดต่ำสุด 1.1583 ดอลลาร์ ด้านธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังถูกคาดหมายว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ในการประชุมเดือนกันยายน แต่มีสัญญาณว่าการถกเถียงเรื่องการลดดอกเบี้ยอาจกลับมาอีกครั้งหากเศรษฐกิจอ่อนแรงลง
ราคาทองคำขยับขึ้นสู่ 3,365 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังพุ่ง 1% เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ส่วนราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการเจรจารัสเซีย–ยูเครนที่ไร้ความคืบหน้า โดยเบรนท์ยืนที่ 67.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบสหรัฐฯ ขยับขึ้นเล็กน้อยที่ 63.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล