โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ “Squawk Box” ทาง CNBC ว่า เตรียมประกาศขึ้นภาษีเซมิคอนดักเตอร์และชิปภายในสัปดาห์หน้า โดยระบุว่า เป็นหมวดหมู่แยกต่างหากจากคำสั่งเดิม เนื่องจากต้องการให้การผลิตกลับมาอยู่ในสหรัฐฯ
“เรากำลังจะประกาศเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์และชิป... เพราะเราต้องการให้ผลิตในสหรัฐฯ” ทรัมป์กล่าว โดยยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนภาษีชุดใหม่นี้ แต่ย้ำว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตภายในประเทศ
ปัจจุบัน ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์และไมโครชิปทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้แทรกซึมเข้าสู่เกือบทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่ของเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูงที่สุดในโลกถูกผลิตในไต้หวัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ระดับโลกซึ่งมีลูกค้าอย่าง Apple, Nvidia, Qualcomm และ AMD
การเปิดเผยแผนภาษีชุดใหม่มีขึ้นไม่กี่วันหลังทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศ โดยบางรายเผชิญกับการปรับขึ้นภาษีอย่างรุนแรง สินค้านำเข้าจากไต้หวันกำลังจะถูกเก็บภาษีในอัตราใหม่ที่ 20% เริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้ ลดลงจากอัตราเดิมที่ทรัมป์เคยขู่ไว้สูงถึง 32% ภายใต้แผน “liberation day” เมื่อวันที่ 2 เมษายน
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังระบุว่า แผนภาษียังไม่จบเพียงเท่านี้ โดยระบุในรายการเดียวกันว่า อัตราภาษีสินค้านำเข้าประเภทยาอาจพุ่งสูงถึง 250% เพิ่มขึ้นจากที่เคยประกาศไว้ไม่เกิน 200% พร้อมกล่าวอ้างว่า “ผมมีคะแนนนิยมดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” และ “ผู้คนรักภาษี” แม้ว่าคะแนนนิยมในผลสำรวจล่าสุดจากหลายสำนักจะแสดงแนวโน้มลดลงก็ตาม
การขยับขึ้นภาษีชิปรอบใหม่ของทรัมป์อาจส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก โดยเฉพาะกับประเทศในเอเชียที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมนี้ และยังเพิ่มความตึงเครียดทางการค้าท่ามกลางการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง