“อายาตุลลาห์ อาลี คาเมเนอี” ผู้นำสูงสุดอิหร่าน 35 ปี แห่งอำนาจ-อิทธิพล

18 มิ.ย. 2568 | 01:44 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มิ.ย. 2568 | 02:02 น.

รายงานพิเศษ : “อายาตุลลาห์ อาลี คาเมเนอี” ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ตลอดระยะเวลา 35 ปี แห่งการครองอำนาจ ทำความรู้จักในทุกแง่มุมของหนึ่งในผู้นำที่มีอิทธิพลมากที่สุดในตะวันออกกลาง

อายาตุลลาห์ อาลี คาเมเนอี (Ayatollah Ali Khamenei) ผู้นำสูงสุด (Supreme Leader) ของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ผู้ครองตำแหน่งสูงสุดของประเทศมานานกว่า 3 ทศวรรษ จนกลายเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีอิทธิพลมากที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง กำลังเผชิญกับความท้าทายที่อาจเปลี่ยนแปลงอนาคตของสาธารณรัฐอิสลามนับจากนี้

หลังเกิดประเด็นสงครามการสู้รบอย่างรุนแรงระหว่างอิหร่าน-อิสราเอล ที่ล่วงเลยมาแล้วกว่า 6 วัน พร้อมคำขู่โดยตรงจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่า "เรารู้แน่ชัดว่าผู้นำสูงสุดคนนั้นซ่อนตัวอยู่ที่ไหน" กำลังทดสอบความแข็งแกร่งของผู้นำสูงสุดในวัย 86 ปี

 

อายาตุลลาห์ อาลี คาเมเนอี (Ayatollah Ali Khamenei) ผู้นำสูงสุด (Supreme Leader) ของสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

 

ยิ่งไปกว่านั้น การสูญเสียที่ปรึกษาระดับสูงหลายคนในการโจมตีของอิสราเอล รวมถึงผู้บัญชาการใหญ่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ ยังมีผลต่อตัดสินใจของเขาในการป้องกันประเทศ เพราะอาจมีความเสี่ยงที่เกิดขึ้นสูง หากตัดสินใจผิดพลาดไปในครั้งนี้ 

ทำให้บุคคลที่เคยเป็นนักเคลื่อนไหวต่อต้านชาห์และได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีอิทธิพลมากที่สุดในตะวันออกกลาง ในขณะนี้กำลังต้องเผชิญกับการทดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งอาจเป็นตัวกำหนดอนาคตไม่เพียงแต่ของอิหร่าน แต่เป็นอนาคตของทั้งภูมิภาค

วัยเยาว์และการก้าวสู่การเมือง

เขาเกิดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 1939 ในเมืองมาชฮัด จังหวัดราซาวี คอราซาน ในครอบครัวนักศาสนา คาเมเนอีได้รับการศึกษาด้านศาสนศาสตร์อิสลามตั้งแต่อายุยังน้อย และเริ่มเข้าสู่แวดวงการเมืองในช่วงทศวรรษ 1960

ในยุคของชาห์ โมฮัมมัด เรซา ปาห์ลาวี คาเมเนอีได้เข้าร่วมขบวนการต่อต้านระบอบราชาธิปไตย และถูกจับกุมคุมขังหลายครั้งเนื่องจากกิจกรรมทางการเมือง ประสบการณ์การถูกคุมขังนี้ได้หล่อหลอมให้เขามีความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งในการรักษาระบบรัฐบาลอิสลามของอิหร่าน และทำให้เขาไม่ไว้วางใจตะวันตกอย่างสุดซึ้ง

นอกจากนี้ คาเมเนอียังได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีด้วยระเบิดก่อนที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดในปี 1989 เขาเป็นสาวกใกล้ชิดของอายาตุลลาห์ รูห์อุลลาห์ โคไมนี ผู้นำการปฏิวัติอิสลาม

บทบาทในการปฏิวัติอิสลาม

เมื่อการปฏิวัติอิสลามปี 1979 ประสบความสำเร็จ คาเมเนอีได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ ในรัฐบาลใหม่ รวมถึงการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรีชั่วคราว และในที่สุดได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในปี 1981

ช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี (1981-1989) คาเมเนอีต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ โดยเฉพาะสงครามอิหร่าน-อิรัก (1980-1988) ที่กินเวลานานถึง 8 ปี และสร้างความเสียหายใหญ่หลวงต่อทั้งสองประเทศ

การขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุด

เมื่ออายาตุลลาห์ โคไมนี เสียชีวิตในเดือนมิถุนายน 1989 สภาผู้เชี่ยวชาญ (Assembly of Experts) ได้เลือกคาเมเนอีให้สืบทอดตำแหน่งผู้นำสูงสุด แม้ว่าเขาจะยังไม่มีวุฒิทางศาสนาในระดับ “มัรจะอ์ตักลิด” (Marja-e taqlid) ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เดิม

แต่การได้รับเลือกนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด เนื่องจากคาเมเนอีไม่ใช่ตัวเลือกแรกของหลายฝ่าย แต่เขากลับได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนักการเมืองและทหารที่มีอิทธิพล
อำนาจและหน้าที่ของผู้นำสูงสุด

 

“อายาตุลลาห์ อาลี คาเมเนอี” ผู้นำสูงสุดอิหร่าน 35 ปี แห่งอำนาจ-อิทธิพล

 

ในฐานะผู้นำสูงสุด คาเมเนอีมีอำนาจที่กว้างขวางและเหนือกว่าผู้นำคนอื่นๆ ในประเทศ รวมถึง

  • การเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพและมีอำนาจประกาศสงคราม
  • การแต่งตั้งและปลดสมาชิกสภาผู้พิทักษ์รัฐธรรมนูญ
  • การแต่งตั้งและปลดผู้บัญชาการทหารระดับสูงและผู้พิพากษา
  • การควบคุมองค์กรข่าวกรองและความมั่นคง
  • การอนุมัติหรือยับยั้งนโยบายต่างประเทศสำคัญ
  • การมีสิทธิยับยั้งการตัดสินใจของประธานาธิบดี

แม้ว่าคาเมเนอีจะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องสำคัญต่างๆ แต่เขายังคงให้ความสำคัญกับคำแนะนำ ฟังความคิดเห็นที่หลากหลายอย่างตั้งใจ และมักจะขอข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ปรึกษาก่อนตัดสินใจ ตามที่แหล่งข่าวผู้เข้าร่วมการประชุมกับเขาเปิดเผย

นโยบายและแนวทางการปกครอง

ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง คาเมเนอีได้กำหนดแนวทางการปกครองที่มุ่งเน้นการรักษาอุดมการณ์การปฏิวัติอิสลาม ขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับความท้าทายทั้งภายในและภายนอกประเทศ

นโยบายต่างประเทศ

  • การต่อต้านการแทรกแซงของมหาอำนาจ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
  • การสนับสนุน “แกนต่อต้าน” (Axis of Resistance) ในตะวันออกกลาง
  • การพัฒนาโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ

นโยบายภายใน

  • การรักษาระบบเศรษฐกิจแบบผสม
  • การควบคุมสื่อและการแสดงออกทางการเมือง
  • การส่งเสริมการศึกษาและเทคโนโลยี

ความท้าทายและการต่อต้าน

รัฐบาลภายใต้การนำของคาเมเนอีเผชิญกับการประท้วงและการต่อต้านหลายครั้ง รวมถึงการประท้วงของนักศึกษาปี 1999, การเคลื่อนไหว “คลื่นเขียว” ปี 2009 หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี และการประท้วงเรื่องเศรษฐกิจปี 2017-2018

การกำหนดมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ โดยเฉพาะเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ได้สร้างความกดดันทางเศรษฐกิจอย่างมาก แต่คาเมเนอียังคงยืนหยัดในจุดยืนเดิม

มรดกและอิทธิพล

ในวัย 86 ปี คาเมเนอียังคงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในอิหร่าน และเป็นหนึ่งในผู้นำที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในโลก การที่เขาครองอำนาจมานานกว่า 3 ทศวรรษ ทำให้เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของความต่อเนื่องของระบอบการปกครองอิสลามในอิหร่าน

อนาคตของอิหร่านหลังจากคาเมเนอี เป็นคำถามสำคัญที่นักวิเคราะห์การเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงผู้นำสูงสุดอาจส่งผลกระทบต่อนโยบายทั้งภายในและต่างประเทศของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

 

“อายาตุลลาห์ อาลี คาเมเนอี” ผู้นำสูงสุดอิหร่าน 35 ปี แห่งอำนาจ-อิทธิพล

 

วิกฤตล่าสุด: สงครามทางอากาศและการถูกขู่เป็นเป้าหมาย

วันที่ 18 มิถุนายน 2568 สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอลได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก เมื่อทั้งสองประเทศเริ่มยิงขีปนาวุธโจมตีซึ่งกันและกัน โดยสงครามทางอากาศนี้เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว แม้จะมีการเรียกร้องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ให้อิหร่านยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข

กองทัพอิสราเอลรายงานว่า อิหร่านปล่อยขีปนาวุธโจมตีอิสราเอล 2 ระลอกในช่วง 2 ชั่วโมงแรกของวันพุธ โดยมีเสียงระเบิดดังขึ้นเหนือกรุงเทลอาวีฟ ขณะที่อิสราเอลสั่งให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเตหะรานอพยพ เพื่อให้กองทัพอากาศโจมตีฐานทัพอิหร่าน เว็บไซต์ข่าวอิหร่านรายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดในกรุงเตหะรานและเมืองการัจ ทางตะวันตกของเมืองหลวง

การถูกขู่โดยตรงจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ

สิ่งที่น่าวิตกมากกว่าสำหรับคาเมเนอีคือการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้โพสต์ข้อความขู่เขาโดยตรงบนโซเชียลมีเดีย Truth Social เมื่อวันอังคาร โดยระบุว่า

“เรารู้แน่ชัดว่า ‘ผู้นำสูงสุด’ คนนั้นซ่อนตัวอยู่ที่ไหน เราจะไม่ฆ่าเขา อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ตอนนี้… ความอดทนของเราเริ่มจะหมดแล้ว”

คำขู่นี้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงท่าทีของสหรัฐฯ ต่อคาเมเนอีในเชิงก้าวร้าวมากขึ้น ขณะที่ทรัมป์กำลังชั่งใจว่าจะเพิ่มบทบาทของสหรัฐฯ ในความขัดแย้งนี้หรือไม่ ทรัมป์เตือนว่าความอดทนของสหรัฐฯ กำลังจะหมด แม้ว่าจะบอกว่ายังไม่มีเจตนาจะสังหารผู้นำอิหร่านในตอนนี้

วิกฤตปัจจุบัน : การสูญเสียที่ปรึกษาหลัก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 รายงานจาก Reuters เผยให้เห็นว่าคาเมเนอี ในวัย 86 ปี กำลังเผชิญกับวิกฤตการขาดแคลนที่ปรึกษาระดับสูง หลังจากที่ปรึกษาด้านทหารและความมั่นคงหลักของเขาถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล

ผู้บัญชาการสำคัญที่เสียชีวิต

  • พลเอก ฮุสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการใหญ่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติ
  • พลอากาศเอก อามีร์ อาลี ฮาจีซาเดห์ หัวหน้าหน่วยอากาศยานและโครงการขีปนาวุธ
  • โมฮัมมัด คาเซมี หัวหน้าหน่วยข่าวกรอง

การสูญเสียบุคลากรสำคัญเหล่านี้ได้สร้างช่องว่างใหญ่ในวงในที่ปรึกษาประมาณ 15-20 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์ นักการเมือง และนักศาสนา แหล่งข่าวที่เข้าร่วมการประชุมกับคาเมเนอีเตือนว่า ความเสี่ยงของการตัดสินใจผิดพลาดในประเด็นป้องกันประเทศและเสถียรภาพภายในอยู่ในระดับ “อันตรายอย่างยิ่ง”

ระบบการตัดสินใจและวงในที่ปรึกษา

คาเมเนอีมีรูปแบบการปรึกษาหารือแบบไม่เป็นทางการ โดยสำนักงานของเขาจะติดต่อที่ปรึกษาที่เกี่ยวข้องให้มาประชุมที่คฤหาสน์ในกรุงเตหะราน เมื่อต้องตัดสินใจสำคัญ สมาชิกในกลุ่มนี้มีลักษณะร่วมคือ ความจงรักภักดีต่อตัวเขาและอุดมการณ์ของสาธารณรัฐอิสลาม

แม้คาเมเนอีจะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่เขายังคงใส่ใจคำแนะนำ ฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย และมักขอข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ปรึกษาก่อนตัดสินใจ การขาดแคลนที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในช่วงวิกฤตดังกล่าวจึงเป็นความท้าทายใหญ่

 

“อายาตุลลาห์ อาลี คาเมเนอี” ผู้นำสูงสุดอิหร่าน 35 ปี แห่งอำนาจ-อิทธิพล

 

บทสรุป

อายาตุลลาห์ อาลี คาเมเนอี ได้ก้าวผ่านประวัติศาสตร์อิหร่านในช่วงเกือบศตวรรษที่ผ่านมา จากนักเคลื่อนไหวต่อต้านระบอบเก่า สู่การเป็นผู้นำสูงสุดของระบอบใหม่

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเขากำลังเผชิญกับความท้าทายที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ทั้งจากแรงกดดันภายนอกและการสูญเสียที่ปรึกษาหลักในวงใน การดำรงตำแหน่งของเขาสะท้อนถึงทั้งความมั่นคงและความเปราะบางของระบบการเมืองอิหร่านในยุคหลังการปฏิวัติอิสลาม

ภาพจาก: Reuters