"ใยแมงมุม" ปฏิบัติการลับยูเครน เปิดฉากยุคใหม่สงครามโดรน

05 มิ.ย. 2568 | 06:00 น.

ยูเครนเปิดฉากปฏิบัติการ “ใยแมงมุม” ส่งโดรน 117 ลำ ลอบเข้าไปในรัสเซีย โจมตีสนามบิน ปฏิบัติการนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของยูเครนในการใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์และ AI

KEY

POINTS

  • ยูเครนใช้โดรนโจมตีแบบเที่ยวเดียว 117 ลำ ลักลอบเข้าสู่รัสเซียผ่านการขนส่งเชิงพาณิชย์ เช่น รถบรรทุก โจมตีสนามบินรัสเซียในปฎิบัติการ "ใยเเมงมุม"
  • ยูเครนอ้างว่า ได้ทำลายเครื่องบินของรัสเซียได้ 41 ลำ เครื่องบินทิ้งระเบิดที่ใช้ยิงขีปนาวุธร่อน สร้างความเสียหายต่อยุทธศาสตร์การโจมตียูเครนของรัสเซีย
  • ปฏิบัติการนี้สะท้อนจุดเปลี่ยนของสงครามยุคใหม่ เมื่อโดรนราคาถูกที่พัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์และอัลกอริทึม AI  

 

ยูเครนระบุว่าได้ใช้โดรน 117 ลำในการโจมตีสนามบินลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการโจมตีด้วยความแม่นยำในต้นทุนต่ำซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยรัฐหรือกลุ่มติดอาวุธแทบทุกแห่ง

ปฏิบัติการซึ่งเจ้าหน้าที่ยูเครนตั้งชื่อว่า “ใยแมงมุม” (Operation Spider’s Web) นี้ต้องอาศัยการลักลอบส่งโดรนเข้าสู่รัสเซียอย่างลับ ๆ เป็นเวลาหลายเดือน ยูเครนอ้างว่าได้โจมตีเครื่องบินจำนวน 41 ลำด้วยโดรน รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดจำนวนหนึ่งในสามของทั้งหมดที่รัสเซียใช้เป็นพาหนะบรรทุกขีปนาวุธร่อนเชิงยุทธศาสตร์ 

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของรัสเซียในการเปิดฉากโจมตีด้วยขีปนาวุธร่อนต่อเป้าหมายในยูเครนต่อไป

ต่อไปนี้คือ เหตุผลว่าทำไมการโจมตีด้วยโดรนครั้งนี้จึงโดดเด่น และเหตุใดจึงอาจส่งผลต่ออนาคตของความขัดแย้ง

ปฏิบัติการใยแมงมุม เป็นอย่างไร ทำไมถึงสำคัญ

ปฏิบัติการใยแมงมุมใช้การขนส่งเชิงพาณิชย์ เช่น รถบรรทุก เพื่อลักลอบนำโดรนโจมตีแบบเที่ยวเดียวจำนวนมากเข้าไปใกล้สนามบินทั่วรัสเซีย ตั้งแต่ชายแดนตะวันตกที่ติดกับยูเครนไปจนถึงไซบีเรีย

หน่วยงานความมั่นคงของยูเครน กล่าวว่า โดรนถูกลักลอบเข้าสู่รัสเซียภายในห้องไม้ที่ติดตั้งอยู่บนท้ายรถบรรทุก และซ่อนอยู่ใต้หลังคาที่สามารถถอดออกได้ด้วยการควบคุมระยะไกล

การโจมตีนี้เป็นการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว รัสเซียดูเหมือนไม่มีเบาะแส ว่าการโจมตีกำลังจะเกิดขึ้น และเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความสามารถของยูเครนในการเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและยุทธวิธี

เนื่องจากยูเครนใช้ประโยชน์และผสมผสานเทคโนโลยีทุกอย่าง ตั้งแต่เทคโนโลยีทางทหารรุ่นเก่าและระบบเชิงพาณิชย์ที่มีวางขายทั่วไป ไปจนถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับปฏิบัติการทางทหารได้อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ 

ปฏิบัติการนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความยืดหยุ่นที่ยูเครนใช้มาตลอดความขัดแย้ง โดยการโจมตีสนามบินที่มีเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ของรัสเซีย เช่น Tu-95 แสดงให้เห็นว่าสามารถใช้ขีดความสามารถใหม่ในการโจมตีเข้าไปในดินแดนของศัตรูได้ ขณะเดียวกันก็ยังสามารถตั้งรับในสมรภูมิชิงดินแดนกลับคืน

การโจมตีที่สร้างความเสียหายของยูเครนแสดงให้เห็นอีกครั้งว่า ได้เข้าสู่ยุคของ “การโจมตีที่แม่นยำ” (precise mass) แล้ว การผสมผสานของ AI กับอาวุธอัตโนมัติ ระบบนำทางแม่นยำ และการผลิตเชิงพาณิชย์ หมายความว่า การโจมตีที่มีต้นทุนต่ำแต่แม่นยำสามารถเข้าถึงได้โดยแทบจะทุกรัฐหรือกลุ่มติดอาวุธ

การโจมตีนี้จะส่งผลอย่างไรต่อความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การโจมตีจะไม่เปลี่ยนสมดุลของกำลังตามแนวหน้าในยูเครน แต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถของประเทศในการโจมตีในลักษณะที่จะมีอิทธิพลต่อการคาดการณ์ของรัสเซียต่ออนาคตของความขัดแย้ง

ตัวอย่างเช่น ความเสียหายที่ยูเครนอ้างว่าได้สร้างต่อเครื่องบินรัสเซียอย่างน้อย 40 ลำ รวมถึงเครื่องบินยุทธศาสตร์ที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในการทดแทน แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของยูเครนในการต้านทานการรุกรานและปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียอย่างต่อเนื่อง

โดรนมีบทบาทแตกต่างจากสงครามก่อนหน้าอย่างไร

สงครามรัสเซีย–ยูเครน ทำให้ขีดความสามารถทางทหารรูปแบบใหม่เกิดขึ้นหลายอย่าง รวมถึงการใช้โดรนจำนวนมากในฐานะระบบโจมตีแบบเที่ยวเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้กันในปริมาณน้อยหรือเพียงแค่เป็นแนวคิด

ก่อนเกิดสงคราม โดรนถูกมองว่าเป็นเครื่องบินที่ควบคุมจากระยะไกล เช่น MQ-9 Reaper ที่กองทัพสหรัฐใช้ ซึ่งคือระบบขนาดใหญ่ที่สามารถบินวนอยู่บนฟ้าได้นานหลายวันเพื่อปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนและ/หรือยิงขีปนาวุธ Hellfire ที่มีความแม่นยำสูงต่อเป้าหมาย

ปัจจุบัน โดรนครอบคลุมถึงอุปกรณ์หลากหลาย ตั้งแต่แพลตฟอร์มที่คล้ายกับ MQ-9 Reaper อย่าง TB-2 ของตุรกีที่ยูเครนใช้ในช่วงแรกของสงคราม ไปจนถึงการใช้ควอดคอปเตอร์เพื่อสอดแนมหน่วยขนาดเล็ก ระบบโจมตีแบบเที่ยวเดียวที่ควบคุมจากมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPV) ในระยะใกล้ และระบบโจมตีระยะไกลแบบเที่ยวเดียวอย่าง Shahed-136 ที่ผลิตโดยอิหร่าน ซึ่งรัสเซียใช้เป็นประจำในสงครามครั้งนี้

การใช้โดรนเพื่อการโจมตีกลายเป็นรูปแบบใหม่ที่แพร่หลายของสงครามแบบดั้งเดิม โดรนจำนวนมากพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ และมีต้นทุนค่อนข้างต่ำ ตั้งแต่ไม่กี่ร้อยดอลลาร์ไปจนถึงหลักหมื่นดอลลาร์ ผลิตได้ง่าย  สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ได้ง่ายเมื่อเจอการรบกวนสัญญาณหรือมาตรการต่อต้านอื่น ๆโดรนเหล่านี้สามารถใช้เป็นส่วนเสริมหรือทดแทนปืนใหญ่แบบดั้งเดิมหรือขีปนาวุธร่อนราคาแพงได้ในบางกรณี

โดรนเปลี่ยนพลวัตของสงครามนี้อย่างไร 

การผลิตโดรนโจมตีแบบเที่ยวเดียวในขนาดและระยะที่หลากหลายอย่างรวดเร็วและในปริมาณมากช่วยให้ยูเครนสามารถรักษาความได้เปรียบตลอดสงคราม ตัวอย่างเช่น การใช้โดรนโจมตีระยะสั้นและโดรน FPV ขณะนี้สามารถก่อให้เกิดความสูญเสียสูงถึง 80% ตามแนวหน้า ช่วยให้ยูเครนสามารถต่อกรกับกองกำลังรัสเซียที่ใหญ่กว่า และเปิดทางเลือกใหม่ในการสร้างอานุภาพการยิง

ยังมีหลายสิ่งที่ไม่ทราบเกี่ยวกับปฏิบัติการใยแมงมุม รวมถึงระดับที่ยูเครนใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัยของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม แนวคิดของการโจมตีนี้แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและสถานที่ติดตั้งทางทหารในหลายพื้นที่ทั่วโลกอาจเผชิญความเสี่ยงสูง

เช่นเดียวกับที่เครื่องบินขนาดเล็กบินเหนือฐานทัพสหรัฐในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้สร้างความกังวลเกี่ยวกับช่องโหว่ต่อการโจมตีด้วยโดรนขนาดเล็ก ปฏิบัติการใยแมงมุมได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและทางทหารกำลังเผชิญช่องโหว่โดยทั่วไป

ปฏิบัติการนี้อาจส่งอิทธิพลต่ออนาคตของการรบและความขัดแย้งทั่วโลกอย่างไร

ในอดีต การโจมตีแม่นยำเคยเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้เฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้น และอาวุธนำวิถีแม่นยำแบบดั้งเดิม เช่น ขีปนาวุธร่อน Tomahawk มีราคาหลายล้านดอลลาร์ต่อครั้ง แต่ปัจจุบัน ผู้เล่นจำนวนมากสามารถโจมตีแบบแม่นยำในระยะที่ไกลมากขึ้น แม้ว่าอุปกรณ์จะไม่ได้ล้ำสมัยนัก

ความสามารถในการใช้ความแม่นยำ อย่างรวดเร็วและในระดับกว้าง โดยเฉพาะเมื่อผสานกับ AI ที่ล้ำหน้าสำหรับการนำทาง ได้สร้างแรงกดดันอย่างมากต่อมาตรการป้องกัน

การโจมตีล่าสุดของยูเครนแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แม้แต่เป้าหมายที่อยู่ลึกในดินแดนของประเทศก็อาจตกอยู่ในความเสี่ยง อาจกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจใหม่ในการเสริมความแข็งแกร่ง เช่น การสร้างที่หลบภัยเพื่อป้องกันสินทรัพย์จากการโจมตีทั่วไป การเพิ่มความยืดหยุ่น การกระจายสินทรัพย์เพื่อลดความเสี่ยงจากการโจมตีครั้งเดียว และการพัฒนามาตรการตอบโต้ การลงทุนในวิธีที่มีต้นทุนต่ำกว่าในการต่อต้านโดรนโจมตีแบบเที่ยวเดียว เช่น พลังงานทิศทาง 

อ้างอิงข้อมูล

  • Council on Foreign Relations