ประชาชนเกาหลีใต้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่วันนี้(3 มิ.ย.) ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ตามมาจากเหตุการณ์ประกาศกฎอัยการศึกที่ล้มเหลวของอดีตประธานาธิบดียุน ซอกยอลเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา
หน่วยเลือกตั้งกว่า 14,000 แห่งทั่วประเทศเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดกว่า 44 ล้านคน ซึ่งมีผู้ออกมาใช้สิทธิล่วงหน้าแล้วประมาณ 34.7%
ข้อมูลจากคณะกรรมการเลือกตั้งแห่งชาติระบุว่า ณ เวลา 11.00 น. มีประชาชนออกมาใช้สิทธิแล้ว 8.1 ล้านคน หรือมากกว่า 18% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด
ประธานาธิบดีคนใหม่จะต้องเผชิญกับภาระหน้าที่สำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ส่งออกเป็นหลัก ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าที่คาดเดาไม่ได้ของสหรัฐฯ ประเทศที่เป็นทั้งพันธมิตรทางความมั่นคงและคู่ค้าสำคัญของเกาหลีใต้
ผู้สมัคร 3 คนหลัก ได้แก่ อี แจมยอง ผู้สมัครเสรีนิยมจากพรรคประชาธิปไตย, คิม มุนซู ผู้สมัครอนุรักษ์นิยมจากพรรคพลังประชาชน และ อี จุนซอก จากพรรคปฏิรูปใหม่ ต่างมีวิสัยทัศน์เศรษฐกิจที่แตกต่างกัน
อี แจมยอง เน้นนโยบายสร้างความเท่าเทียมและช่วยเหลือครอบครัวระดับกลาง-ล่าง ขณะที่คิม มุนซู สนับสนุนการให้เสรีภาพทางธุรกิจมากขึ้นและลดข้อจำกัดด้านแรงงาน ทั้งคู่ต่างเสนอแผนการลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีความคล้ายคลึงกัน
การประกาศกฎอัยการศึกของยุนเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2024 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อชื่อเสียงของประเทศในฐานะประชาธิปไตยที่มีชีวิตชีวา แม้จะมีความวุ่นวายในบางช่วงเวลา ก่อนที่เขาจะถูกถอดถอนโดยรัฐสภาและศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 4 เมษายน
อี แจมยอง เรียกการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า "วันพิพากษา" โดยกล่าวหาคิมและพรรคพลังประชาชนว่ายอมรับการประกาศกฎอัยการศึกโดยไม่ต่อสู้อย่างจริงจังเพื่อขัดขวาง และยังพยายามช่วยเหลือการดำรงตำแหน่งของยุน
ในทางกลับกัน คิม มุนซู ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแรงงานในรัฐบาลยุนขณะที่มีการประกาศกฎอัยการศึก กล่าวหาอีว่าเป็น "เผด็จการ" และเรียกพรรคประชาธิปไตยว่า "สัตว์ประหลาด" โดยเตือนว่าหากอดีตทนายความด้านสิทธิมนุษยชนคนนี้เป็นประธานาธิบดี จะไม่มีอะไรหยุดพวกเขาจากการร่วมมือกันแก้ไขกฎหมายเพียงเพราะไม่ชอบกฎหมายเหล่านั้น
ตามผลสำรวจของแกลลัพ โคเรีย ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม อี แจมยอง นำคะแนนอยู่ที่ 49% ตามด้วยคิม มุนซู 35% และอี จุนซอก 11%
คณะกรรมการเลือกตั้งแห่งชาติจะรับรองผลการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้( 4 มิ.ย.) และคาดว่าผู้ชนะจะเข้ารับตำแหน่งภายในไม่กี่ชั่วโมง โดยจะไม่มีการถ่ายโอนอำนาจเนื่องจากตำแหน่งประธานาธิบดีว่างลงมาตั้งแต่ยุนถูกถอดถอน
ผู้ชนะจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นเวลา 5 ปี ท่ามกลางความคาดหวังที่จะฟื้นฟูความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยและนำพาประเทศให้ผ่านพ้นความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเมืองที่รออยู่ข้างหน้า