อุตสาหกรรมเดินทางเพื่อธุรกิจทั่วโลกดิ่ง เซ่นพิษนโยบายสหรัฐฯ

30 พ.ค. 2568 | 04:59 น.
อัปเดตล่าสุด :30 พ.ค. 2568 | 05:17 น.

อุตสาหกรรมการเดินทางเพื่อธุรกิจทั่วโลก กำลังเผชิญกับวิกฤตความเชื่อมั่นครั้งใหญ่ ผลกระทบจากนโยบายใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งภาษีศุลกากร และมาตรการพรมแดน

KEY

POINTS

  • Global Business Travel Association ระบุว่าความเชื่อมั่นในภาคการเดินทางเพื่อธุรกิจระดับโลกลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง
  • ผู้ที่เดินทางเพื่อธุรกิจหนึ่งในสามรายกล่าวว่าบริษัทได้เปลี่ยนแปลงหรือกำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับการเดินทางไปหรือมาจากสหรัฐ 
  • สงครามการค้ายังสามารถสร้างการเดินทางเพื่อธุรกิจใหม่ๆ ขึ้นได้ เนื่องจากบริษัทต่างๆ ต่างพยายามหาพันธมิตรใหม่ๆ

อุตสาหกรรมการเดินทางเพื่อธุรกิจทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตความเชื่อมั่นครั้งใหญ่ หลังจากรายงานล่าสุดของ Global Business Travel Association เผยให้เห็นภาพที่น่าตกใจ

ความรู้สึกในเชิงบวกของผู้เชี่ยวชาญในวงการดิ่งลงอย่างรวดเร็ว จาก 67% ในเดือนพฤศจิกายน 2567 เหลือเพียง 31% ในเดือนเมษายน 2568 หรือลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

การสำรวจครั้งนี้รวบรวมความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินทางเพื่อธุรกิจกว่า 900 ราย เพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายใหม่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ประกาศในช่วงต้นปีนี้ รวมถึงการเพิ่มภาษีศุลกากร และมาตรการเข้มงวดเรื่องพรมแดน

Suzanne Neufang ซีอีโอของสมาคมฯ บอกกับ CNBC Travel ด้วยความกังวลว่า ตั้งแต่ดำรงตำแหน่งนี้มาสี่ปี ไม่เคยเห็นระดับความไม่แน่นอนที่สูงขนาดนี้มาก่อน

ตัวเลขจากการสำรวจสะท้อนความกังวลนี้อย่างชัดเจน ผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่า 1 ใน 4 ในแคนาดา สหรัฐ และยุโรป แสดงความรู้สึก มองโลกในแง่ร้าย หรือ มองโลกในแง่ร้ายมาก เกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมในปีนี้

ส่วนผู้ตอบแบบสำรวจอีก 40% เลือกยืนในจุดกลาง โดยไม่แสดงความรู้สึกเชิงบวกหรือเชิงลบใดๆ

ความไม่แน่นอนนี้ส่งผลต่อการวางแผนธุรกิจโดยตรง การสำรวจพบว่า เกือบ 30% ของผู้ซื้อบริการท่องเที่ยวธุรกิจคาดว่าบริษัทจะลดการเดินทางของพนักงานในปีนี้ 20% กล่าวว่าไม่แน่ใจในทิศทางการเดินทางของบริษัท 27% คาดว่าการใช้จ่ายในการเดินทางเพื่อธุรกิจจะลดลง สะท้อนความไม่มีความมั่นใจพอที่จะบอกได้ว่าสิ่งต่างๆ จะดีขึ้นหรือไม่ดีขึ้น

ผลกระทบจากนโยบายใหม่เริ่มปรากฏชัดแล้ว ผู้ซื้อบริการท่องเที่ยวธุรกิจ 1 ใน 3 ราย เปิดเผยว่า บริษัทได้เปลี่ยนแปลงหรือกำลังพิจารณาปรับนโยบายการเดินทางไป-มาสหรัฐ

ที่น่าสนใจคือ ประมาณ 6% กล่าวว่า บริษัทของตนได้ย้ายกิจกรรมจากสหรัฐไปยังประเทศอื่นแล้ว ซึ่งสถานการณ์นี้เป็นโอกาสสำหรับภูมิภาคอื่น เอเชียแปซิฟิก ยุโรป หรือแม้แต่ละตินอเมริกา มีโอกาสที่จะเป็นแหล่งที่มาของการประชุมเหล่านี้ มีโอกาสอื่นๆ อีกมากมายที่จะเป็นผู้ชนะในเกมการค้านี้

ผู้เชี่ยวชาญแสดงความกังวลหลายประการเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาว โดยเฉพาะ ต้นทุนการเดินทางเพื่อธุรกิจเพิ่มขึ้น (54%) ปัญหาในการดำเนินการวีซ่า (46%)

แม้จะมีความกังวล แต่ข้อมูลจาก FCM Consulting แสดงให้เห็นว่าค่าโดยสารเครื่องบินทั่วโลกลดลงเล็กน้อยประมาณ 17 เหรียญสหรัฐ หรือ 2.2% ในปีนี้

ทั้งนี้ ตลาดการเดินทางเพื่อธุรกิจทั่วโลกยังคงมีแนวโน้มเติบโตถึง 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2568 และคาดว่าจะทะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2028

แม้ปริมาณการเดินทางเพื่อธุรกิจยังไม่กลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 แต่การใช้จ่ายฟื้นตัวเต็มที่ในปี 2024 แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากภาวะเงินเฟ้อ ในอีกด้านหนึ่งมีการประเมินว่า สงครามการค้าอาจไม่ได้เป็นแค่ข่าวร้าย ในช่วงที่เกิดสงครามการค้า การเดินทางเพื่อธุรกิจอาจเพิ่มขึ้นอย่างน้อยก็ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อหาพันธมิตรใหม่และสร้างตลาดใหม่

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นในตัวเลขการท่องเที่ยวสหรัฐฯ ที่คาดว่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติจะลดลง 4.7% จากปี 2567 คิดเป็นมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสหรัฐฯ ในปีที่เคยคาดหวังว่ารายได้จะเติบโตขึ้นอย่างมาก