เปิดวาระลับผู้นำอาเซียน 2025 ฝ่ามรสุมการค้า-วิกฤตเมียนมา-ทะเลจีนใต้

27 พ.ค. 2568 | 07:24 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ค. 2568 | 07:30 น.

รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม เผยสาระประชุมสุดยอดอาเซียน ปี 2025 ณ มาเลเซีย ผู้นำภูมิภาคชี้ประเด็นร้อน ตั้งแต่สงครามการค้า เมียนมา ทะเลจีนใต้ จนถึงการผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลและ CPTPP

ผู้นำอาเซียนรวมตัวกันใน “การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46” ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ท่ามกลางความท้าทายที่รุมเร้าทั้งสงครามการค้า วิกฤตเมียนมา ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ และการวางรากฐานสู่อนาคตของอาเซียนที่แข็งแกร่งและยั่งยืนมากขึ้น โดย รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิอาเซียน (ASEAN Foundation) ได้สรุปประเด็นสำคัญจากการประชุมดังกล่าว ดังนี้

 

“สงครามการค้า” อาเซียนขอเป็นหนึ่งเดียว

ผู้นำอาเซียนแสดงความกังวลอย่างหนักต่อผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยนายกรัฐมนตรีลอเรนซ์ หว่อง แห่งสิงคโปร์ เสนอแนวทาง 3 ประการเพื่อรับมือ ตั้งแต่การรักษาปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์กับสหรัฐฯ

  1. รักษาการมีส่วนร่วมเชิงสร้างสรรค์กับสหรัฐฯ ทั้งระดับประเทศและระดับอาเซียน
  2. เสริมสร้างการบูรณาการภายในอาเซียนให้ AFTA ปลอดภาษี 100% (จากเดิม 98.6%) และเร่งดำเนินการข้อตกลงเศรษฐกิจที่ค้างอยู่ตั้งแต่ปี 2015
  3. เร่งบูรณาการในด้านเศรษฐกิจดิจิทัลและโครงข่ายไฟฟ้า รวมถึงขยายความร่วมมือกับกลุ่ม CPTPP, EU และ GCC

นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ถึงขั้นเผยว่าได้ส่งจดหมายถึง “ประธานาธิบดีทรัมป์” ขอหารือเรื่องภาษีแบบตรงไปตรงมา ขณะที่ผู้นำจากเวียดนาม ไทย ต่างเรียกร้องให้อาเซียนเร่งปรับกลยุทธ์ใหม่ สร้างห่วงโซ่อุปทานแบบรวมศูนย์ และเปิดตลาดใหม่ในแคนาดา จีน อินเดีย

นายกรัฐมนตรีฟาม มินห์ ชินห์ เวียดนาม เรียกร้องให้ใช้องค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเร่งสรุป FTA กับแคนาดา พร้อมเสนอให้ยกระดับ FTA กับจีนและอินเดีย

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เตือนถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และเรียกร้องให้อาเซียนร่วมสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบบูรณาการและเสริมสร้างการบูรณาการในระดับภูมิภาคอย่างจริงจัง

“เมียนมา” จากไฟสงครามสู่ความหวังสันติ

อาเซียนยังคงยึดมั่นใน “ฉันทามติ 5 ข้อ” พร้อมเร่งเครื่องแนวทางสันติภาพอย่างเป็นรูปธรรม มาเลเซียเสนอให้ตั้งผู้แทนพิเศษอาเซียนด้านเมียนมาในตำแหน่งถาวร 3 ปี แทนระบบหมุนเวียน เพื่อให้ทำงานต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน สิงคโปร์และมาเลเซียย้ำถึงบทบาทการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และผลักดันการหยุดยิงในพื้นที่ความขัดแย้ง

 

ทะเลจีนใต้เร่งเครื่อง “ประมวลพฤติกรรม”

ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้อาเซียนเดินหน้า “ประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้” ให้มีผลผูกพันทางกฎหมาย พร้อมชูหลักการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ควบคู่กับการสร้างความร่วมมือทางทะเลในมิติใหม่ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและอาชญากรรมข้ามพรมแดน

การรวมกลุ่มอาเซียนขยายวง สร้างพลัง

ผู้นำอาเซียนหารือแนวทางขยายสมาชิกและความร่วมมือในรูปแบบยืดหยุ่นมากขึ้น อินโดนีเซียหนุน “ติมอร์-เลสเต” เข้าเป็นสมาชิกเต็มตัวโดยเร็ว พร้อมเสนอให้ “ปาปัวนิวกินี” เข้าร่วมกลุ่มด้วย ด้านสิงคโปร์ผลักดันให้อาเซียนเดินหน้าแนวคิด “อินโด-แปซิฟิก” ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น และเชิญชวนสมาชิกเข้าร่วม CPTPP ให้ครบถ้วน

ในโอกาสนี้ ผู้นำอาเซียนยังร่วมลงนามใน “ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์” วางแนวทางพัฒนาภูมิภาคในระยะ 20 ปีข้างหน้า เน้นความสามัคคี ยั่งยืน และยืดหยุ่นต่อความเปลี่ยนแปลงโลก

 

วาระอื่นๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

  • พลังงานสะอาด สิงคโปร์-มาเลเซีย ลงนามสำรวจส่งออกไฟฟ้าจากเวียดนามผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ
  • พันธมิตรระดับโลก อาเซียนเตรียมประชุมสุดยอดไตรภาคีกับจีนและกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ (GCC) เป็นครั้งแรก
  • ปฏิรูปองค์กรอาเซียน มาเลเซียชี้ว่าอาเซียนต้องเร่งปรับโครงสร้างองค์กรให้พร้อมรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ เช่น AI, ดิจิทัล และเศรษฐกิจสีเขียว-สีน้ำเงิน

 

แม้โลกกำลังเผชิญกับพายุแห่งความไม่แน่นอน แต่อาเซียนกำลังพยายามจับมือกันให้แน่นขึ้นกว่าที่เคย เพื่อรับมือกับอนาคตอย่างมั่นคงและเป็นหนึ่งเดียว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม