ผู้นำอาเซียนรวมตัวกันใน “การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 46” ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ท่ามกลางความท้าทายที่รุมเร้าทั้งสงครามการค้า วิกฤตเมียนมา ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ และการวางรากฐานสู่อนาคตของอาเซียนที่แข็งแกร่งและยั่งยืนมากขึ้น โดย รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิอาเซียน (ASEAN Foundation) ได้สรุปประเด็นสำคัญจากการประชุมดังกล่าว ดังนี้
ผู้นำอาเซียนแสดงความกังวลอย่างหนักต่อผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยนายกรัฐมนตรีลอเรนซ์ หว่อง แห่งสิงคโปร์ เสนอแนวทาง 3 ประการเพื่อรับมือ ตั้งแต่การรักษาปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์กับสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ถึงขั้นเผยว่าได้ส่งจดหมายถึง “ประธานาธิบดีทรัมป์” ขอหารือเรื่องภาษีแบบตรงไปตรงมา ขณะที่ผู้นำจากเวียดนาม ไทย ต่างเรียกร้องให้อาเซียนเร่งปรับกลยุทธ์ใหม่ สร้างห่วงโซ่อุปทานแบบรวมศูนย์ และเปิดตลาดใหม่ในแคนาดา จีน อินเดีย
นายกรัฐมนตรีฟาม มินห์ ชินห์ เวียดนาม เรียกร้องให้ใช้องค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเร่งสรุป FTA กับแคนาดา พร้อมเสนอให้ยกระดับ FTA กับจีนและอินเดีย
นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เตือนถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ และเรียกร้องให้อาเซียนร่วมสร้างห่วงโซ่อุปทานแบบบูรณาการและเสริมสร้างการบูรณาการในระดับภูมิภาคอย่างจริงจัง
“เมียนมา” จากไฟสงครามสู่ความหวังสันติ
อาเซียนยังคงยึดมั่นใน “ฉันทามติ 5 ข้อ” พร้อมเร่งเครื่องแนวทางสันติภาพอย่างเป็นรูปธรรม มาเลเซียเสนอให้ตั้งผู้แทนพิเศษอาเซียนด้านเมียนมาในตำแหน่งถาวร 3 ปี แทนระบบหมุนเวียน เพื่อให้ทำงานต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน สิงคโปร์และมาเลเซียย้ำถึงบทบาทการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และผลักดันการหยุดยิงในพื้นที่ความขัดแย้ง
ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ แห่งฟิลิปปินส์ เรียกร้องให้อาเซียนเดินหน้า “ประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้” ให้มีผลผูกพันทางกฎหมาย พร้อมชูหลักการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ควบคู่กับการสร้างความร่วมมือทางทะเลในมิติใหม่ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและอาชญากรรมข้ามพรมแดน
ผู้นำอาเซียนหารือแนวทางขยายสมาชิกและความร่วมมือในรูปแบบยืดหยุ่นมากขึ้น อินโดนีเซียหนุน “ติมอร์-เลสเต” เข้าเป็นสมาชิกเต็มตัวโดยเร็ว พร้อมเสนอให้ “ปาปัวนิวกินี” เข้าร่วมกลุ่มด้วย ด้านสิงคโปร์ผลักดันให้อาเซียนเดินหน้าแนวคิด “อินโด-แปซิฟิก” ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น และเชิญชวนสมาชิกเข้าร่วม CPTPP ให้ครบถ้วน
ในโอกาสนี้ ผู้นำอาเซียนยังร่วมลงนามใน “ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์” วางแนวทางพัฒนาภูมิภาคในระยะ 20 ปีข้างหน้า เน้นความสามัคคี ยั่งยืน และยืดหยุ่นต่อความเปลี่ยนแปลงโลก
แม้โลกกำลังเผชิญกับพายุแห่งความไม่แน่นอน แต่อาเซียนกำลังพยายามจับมือกันให้แน่นขึ้นกว่าที่เคย เพื่อรับมือกับอนาคตอย่างมั่นคงและเป็นหนึ่งเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม