ไฟดับครั้งใหญ่ "สเปน-โปรตุเกส" ประชุมฉุกเฉินเร่งหาสาเหตุ

28 เม.ย. 2568 | 23:47 น.
อัปเดตล่าสุด :28 เม.ย. 2568 | 23:54 น.

เหตุไฟดับครั้งใหญ่ "สเปน โปรตุเกส" มีรายงานว่ากระทบอันดอร์ราเเละฝรั่งเศสด้วย หน่วยงานเร่งสอบสวนหาสาเหตุ เบื้องต้นยังไม่พบสัญญาณการโจมตีทางไซเบอร์

หลายประเทศในยุโรปเร่งฟื้นฟูระบบไฟฟ้าหลังเกิดไฟดับครั้งใหญ่ที่ส่งผลให้ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่

สเปน โปรตุเกส ประสบปัญหาไฟดับครั้งใหญ่ โดยเมืองใหญ่ ๆ เช่น มาดริด บาร์เซโลนา และลิสบอน ได้รับผลกระทบ ขณะที่มีรายงานด้วยว่าบางพื้นที่ของฝรั่งเศสและประเทศอันดอร์ราก็ได้รับผลกระทบจากไฟดับเช่นกัน 

วันแห่งความโกลาหลนี้เกิดขึ้น สเปนและโปรตุเกส เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างมาตั้งแต่ราวช่วงเที่ยงวันจันทร์ (17.00 น.ของวันที่ 28 เม.ย.ตามเวลาในไทย) เห็นได้จากการที่ขบวนรถไฟถูกยกเลิกและอพยพออกในบางภูมิภาค, ไฟจราจรหยุดทำงาน และเกิดความล่าช้าที่สนามบินหลายแห่ง บ้านเรือน สำนักงาน รถไฟ สัญญาณไฟจราจร

แม้แต่งานแข่งเทนนิส Madrid Open ต่างได้รับผลกระทบ ทำให้เกิดความวุ่นวายสำหรับผู้คนนับล้าน และทำให้รัฐบาลสเปน โปรตุเกส และผู้ประกอบการเครือข่ายไฟฟ้า ต้องเร่งทำความเข้าใจปัญหาและแก้ไขอย่างเร่งด่วน

ร้านค้า บ้านเรือน และร้านอาหารหลายแห่งจมอยู่ในความมืด และบางคนติดอยู่ในลิฟต์ เครือข่ายไฟฟ้าของสเปนระบุว่าในช่วงบ่าย การกู้คืนไฟฟ้าอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง

ในคืนวันจันทร์ นายกรัฐมนตรีสเปน เปโดร ซานเชซ (Pedro Sánchez) กล่าวว่า 50% ของไฟฟ้าในสเปนได้รับการฟื้นฟูแล้ว ขณะที่ผู้ให้บริการพลังงานโปรตุเกส REN กล่าวว่าสามารถกู้คืนไฟฟ้าให้กับลูกค้า 750,000 รายได้แล้ว

สาเหตุเกิดจากอะไร

ปัญหาเกี่ยวกับการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าระหว่างฝรั่งเศสกับสเปนเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดเหตุไฟดับครั้งนี้ ตามการเปิดเผยของ คริสเตียน รูบี (Kristian Ruby) หัวหน้าสมาคมการค้าซึ่งเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมไฟฟ้าในยุโรป โดยกล่าวกับรายการ The World Tonight ของ BBC Radio 4 ว่า เกิดเหตุการณ์เฉพาะกับอินเตอร์คอนเน็กเตอร์ระหว่างฝรั่งเศสกับสเปน ทำให้โครงข่ายไฟฟ้าของสเปนถูกตัดขาดจากโครงข่ายไฟฟ้าของยุโรปในวงกว้าง 

บริษัท “เรเดส เอเนอเจติกัส นาซิอองนาลส์” (อาร์อีเอ็น - REN) ผู้ให้บริการพลังงานในโปรตุเกสระบุว่า เหตุไฟดับที่เกิดขึ้นเป็นผลจากปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศที่เกิดขึ้นได้ยาก ซึ่งทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างสุดขั้วในสเปน จนทำให้เกิดการแกว่งตัวที่ผิดปกติของสายไฟฟ้าแรงสูงขนาด 400 กิโลโวลต์ หรือที่เรียกกันว่า “การสั่นสะเทือนที่ชักนำโดยสภาพอากาศ” (induced atmospheric vibration)

การแกว่งตัวนี้ทำให้เกิดความล้มเหลวในเวลาเดียวกันระหว่างระบบไฟฟ้าต่างๆ นำไปสู่การรบกวนระบบต่อเนื่องทั่วเครือข่ายภายในยุโรป

อย่างไรก็ตาม สาเหตุของไฟดับครั้งนี้ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวน และเตือนว่าไม่ควรคาดเดาสาเหตุ ขณะที่นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส หลุยส์ มอนเตเนโกร (Luís Montenegro) กล่าวว่าไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเป็นการโจมตีทางไซเบอร์

บทบาทของพลังงานหมุนเวียน

สเปนกำลังเดินหน้าเป็นผู้นำด้านพลังงานสีเขียว โดยมีแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมอย่างอุดมสมบูรณ์ ปีที่แล้วถือเป็นช่วงเวลาที่มีการผลิตพลังงานหมุนเวียนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยคิดเป็น 56% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด และมีเป้าหมายว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 81% ภายในปี 2030

Ember สถาบันวิจัยด้านพลังงาน ระบุว่า พลังงานของสเปนประมาณ 43% มาจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ ส่วนพลังงานนิวเคลียร์คิดเป็น  20 % และเชื้อเพลิงฟอสซิลคิดเป็น 23%

การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้สเปนลดการพึ่งพาการนำเข้าพลังงาน แต่ก็ทำให้เกิดความท้าทายใหม่ด้วย โครงข่ายไฟฟ้าในทุกประเทศทั่วโลกจำเป็นต้องลงทุนอย่างหนักเพื่ออัปเกรดระบบกระจายพลังงานให้เชื่อมต่อกับแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่กระจัดกระจาย และทำให้ระบบมีความสมดุล

การรักษาสมดุลของโครงข่ายไฟฟ้า

โครงข่ายไฟฟ้าต้องมีการจัดการอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ผลิตไฟฟ้าเกินไปจนโอเวอร์โหลด หรือผลิตน้อยเกินไปจนไฟฟ้าไม่พอ โรงไฟฟ้าจะปิดตัวเองโดยอัตโนมัติหากความถี่หลุดออกจากช่วงปกติ และต้องเชื่อมต่อใหม่กับผู้ใช้งานเมื่อเริ่มต้นใหม่

การรักษาสมดุลเป็นสิ่งสำคัญมาตั้งแต่มีโครงข่ายไฟฟ้า แต่ในปัจจุบันมีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งมีความไม่แน่นอนตามธรรมชาติ

กังหันก๊าซหมุนเวียนได้เป็นเทคโนโลยีมาตรฐานสำหรับการจัดการความถี่ไฟฟ้ามานานหลายทศวรรษ แต่พลังงานหมุนเวียนจำเป็นต้องมีการลงทุนในทางเลือกอื่น เช่น ฟลายวีล (Flywheel) หรืออิเล็กทรอนิกส์กำลังขั้นสูง

ไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในยุโรป

ปี 2003 ทั่วทั้งคาบสมุทรอิตาลีเคยเผชิญไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างทั่วทั้งบริเวณเป็นเวลาประมาณ 12 ชั่วโมง จากปัญหาสายส่งไฟฟ้าพลังน้ำระหว่างอิตาลีและสวิตเซอร์แลนด์

ปี 2006 เครือข่ายไฟฟ้าในเยอรมนีรับภาระการผลิตเกินกำลัง ทำให้เกิดไฟฟ้าดับบางส่วนของประเทศ และบางส่วนของยุโรป ทั้ง ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ออสเตรีย เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และโมร็อกโก