“ทรัมป์” เรตติ้งดิ่ง ต่ำสุดในรอบ 70 ปี เศรษฐกิจปั่นป่วน คนอเมริกันไม่มั่นใจ

22 เม.ย. 2568 | 23:00 น.

ความนิยม “โดนัลด์ ทรัมป์” หลังกลับสู่อำนาจต่ำกว่าประธานาธิบดีคนอื่นในรอบกว่า 70 ปี คนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่เชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ ขณะเศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญภาวะผันผวนหลังสงครามการค้า

แม้จะหวนคืนทำเนียบขาวได้สำเร็จ แต่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับเปิดฉากไตรมาสแรกของวาระใหม่ด้วยคะแนนนิยมที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยผลสำรวจล่าสุดจาก Gallup ชี้ว่า ทรัมป์ได้รับคะแนนอนุมัติจากประชาชนเพียง 45% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประธานาธิบดีทุกคนตั้งแต่ปี 1952 และยังถือว่าต่ำกว่าเรตติ้งเฉลี่ยไตรมาสแรกที่ 60% ของอดีตผู้นำสหรัฐฯ ที่เคยดำรงตำแหน่งก่อนหน้าอย่างมาก

เมื่อเทียบกับอดีตประธานาธิบดีคนอื่นๆ ทรัมป์ถือเป็นคนเดียวที่มีคะแนนนิยมในไตรมาสแรกของวาระไม่เคยแตะระดับ 50% ได้เลย โดยในวาระแรกของเขาเมื่อปี 2017 เรตติ้งยังต่ำกว่านี้อีกที่ 41% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าความนิยมในตัวเขาไม่ได้เพิ่มขึ้นจากการกลับมาครั้งนี้

ในขณะที่อดีตผู้นำอย่าง จอห์น เอฟ. เคนเนดี และ ดไวต์ ไอเซนฮาวร์ เคยทำสถิติเรตติ้งไตรมาสแรกสูงสุดไว้ที่ 74% และ 71% ตามลำดับ ขณะที่ผู้นำคนอื่นอย่าง จิมมี คาร์เตอร์ บารัค โอบามา และโรนัลด์ เรแกน ต่างเคยได้รับคะแนนในช่วง 60-69% ส่วนโจ ไบเดน, จอร์จ ดับเบิลยู. บุช, จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช และ บิล คลินตัน มีเรตติ้งอยู่ที่ราว 55-58% เมื่อเริ่มต้นวาระ

ความนิยมในตัวทรัมป์สะท้อนถึงความแตกแยกทางการเมืองอย่างลึกซึ้งในสหรัฐฯ โดย 90% ของชาวรีพับลิกันยังคงสนับสนุนเขา ขณะที่ฝั่งเดโมแครตมีเพียง 4% เท่านั้นที่เห็นด้วยกับการทำงานของเขา สำหรับกลุ่มประชาชนอิสระ (independent voters) ที่ไม่ได้สังกัดพรรคใด ผลสำรวจล่าสุดพบว่า 37% สนับสนุนเขา ซึ่งลดลงถึง 9 จุดจากช่วงรับตำแหน่งในเดือนมกราคม

การสำรวจนี้เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ หลังทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทุกประเทศเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ตลาดหุ้น ดอลลาร์ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงหนักทันที แม้ต่อมาเขาจะประกาศชะลอการเก็บภาษีบางส่วนเมื่อวันที่ 9 เมษายน และผ่อนคลายเงื่อนไขบางประการ แต่ตลาดก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างชัดเจน สร้างความกังวลว่าจะนำไปสู่ภาวะถดถอยในเร็วๆ นี้

นักเศรษฐศาสตร์หลายรายเตือนว่า สหรัฐฯ อาจกำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง สืบเนื่องจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ตกต่ำลง การคาดการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ความผันผวนของตลาด และสัญญาณของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ

ภายใต้บริบทนี้ Gallup พบว่า มีเพียง 44% ของผู้ใหญ่ชาวอเมริกันที่มั่นใจว่า ทรัมป์จะทำสิ่งที่ถูกต้องเพื่อเศรษฐกิจ โดยแบ่งเป็น 30% ที่มี “ความมั่นใจอย่างมาก” และ 14% ที่มี “ความมั่นใจพอสมควร” ขณะที่อีก 55% ระบุว่ามีความมั่นใจในตัวทรัมป์น้อยมากหรือแทบไม่มีเลย โดยในกลุ่มนี้ 44% ไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่นิดเดียว

หากพิจารณาแบบแยกตามพรรคการเมือง ความแตกต่างยังคงเห็นได้ชัด โดย 89% ของชาวรีพับลิกันมีความมั่นใจในทรัมป์ทั้งระดับสูง (67%) และระดับปานกลาง (22%) ในด้านเศรษฐกิจ ขณะที่ในกลุ่มประชาชนอิสระมีเพียง 37% และในกลุ่มเดโมแครตเหลือเพียง 8% เท่านั้น

Gallup ติดตามความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการบริหารเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2001 และพบว่า ทั้งจอร์จ ดับเบิลยู. บุช บารัค โอบามา และโจ ไบเดน ต่างได้รับความเชื่อมั่นมากกว่า 50% ในช่วงต้นวาระของตนเอง ขณะที่ทรัมป์ในวาระแรกเคยมีเรตติ้งอยู่ที่ 48% และในครั้งนี้เรตติ้งอยู่ที่ 44% ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของเขาในวาระก่อน

สำหรับคะแนนความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจที่สูงที่สุด คือในยุคของบุชปี 2002 (73%) และโอบามาในปี 2009 (71%) ขณะที่คะแนนต่ำสุดเป็นของบุชในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ปี 2008 (34%) และไบเดนในปี 2023 (35%) จากปัญหาเงินเฟ้อที่ยังไม่คลี่คลาย ซึ่งครั้งนั้นทำให้ความเชื่อมั่นในตัวไบเดนตกจาก 57% ในปีแรก เหลือเพียง 35% ในปีต่อมา

อย่างไรก็ตาม แม้คะแนนนิยมจะต่ำเตี้ย แต่ทรัมป์ก็ยังได้รับการประเมินที่ดีกว่าผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครตในสภาคองเกรส รวมถึงประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อย่างเจอโรม พาวเวลล์ ในด้านเศรษฐกิจ โดยทรัมป์เคยใช้พาวเวลล์เป็น “แพะรับบาป” จากผลกระทบที่เกิดจากนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของตนเอง

ผลสำรวจพบว่า มีเพียง 37% ของชาวอเมริกันที่มีความมั่นใจ “มากหรือน้อย” ในตัวพาวเวลล์ ขณะที่ 50% บอกว่าไม่เชื่อมั่นในตัวเขาเลย โดยที่น่าสนใจคือ พรรครีพับลิกันกลับให้ความเชื่อมั่นในพาวเวลล์สูงกว่ากลุ่มอื่น โดยอยู่ที่ 43% ขณะที่กลุ่มเดโมแครตอยู่ที่ 37% และกลุ่มอิสระอยู่ที่ 32%